Honda City & Toyota Vios 2 ไมเนอร์เชนจ์กินกันไม่ลง
การแข่งขันรถยนต์ระดับ B Segment ยังดุเดือดขึ้นตลอดเวลาเมื่อทางฮอนด้าได้ประกาศเปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ ไมเนอร์เชนจ์ ตามมาติดๆเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 TOYOTA ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Toyota Vios ไมเนอร์เชนจ์
และมันเป็นการรุกตลาดรถนั่งระดับ B Segment ที่น่าสนใจไม่น้อยด้วยการปรับเสริมออฟชั่นและที่โดดเด่นมากๆคือทั้งสองรุ่นมีการออกแบบดุดันมากขึ้น
Honda City ไมเนอร์เชนจ์มีให้เลือกถึง 6 รุ่น จะมีราคาเริ่มต้น 550,000-751,000 บาท (ในรุ่น 1.5 S MT ราคา 550,000 นั้นเป็นเกียร์ธรรมดาซึ่งทางโตโยต้า วีออสใหม่ เริ่มต้นที่รุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT) ในส่วนของ Toyota Vios ไมเนอร์เชนจ์ มี 4 รุ่น เริ่มต้นที่ 609,000-789,000 บาท
Honda City
รุ่น 1.5 S MT ราคา 550,000 บาท
รุ่น 1.5 S CVT ราคา 589,000 บาท
รุ่น 1.5 V CVT ราคา 649,000 บาท
รุ่น 1.5 V+ CVT ราคา 689,000 บาท
รุ่น 1.5 SV CVT ราคา 736,000 บาท
Toyota Vios
รุ่น 1.5J CVT ราคา 609,000 บาท
รุ่น 1.5E CVT ราคา 679,000 บาท
รุ่น 1.5G CVTราคา 729,000 บาท
รุ่น 1.5S CVT ราคา 789,000 บาท
ในรุ่นเริ่มต้นของ City เราจะนับรุ่น 1.5 S CVT ราคา 589,000 บาท ขึ้นไปเทียบกับ รุ่น 1.5J CVT ราคา 609,000 บาท ของวีออส ส่วนรุ่นท๊อป เห็นได้ว่าราคาแตกต่างกันพอสมควรเพราะในวีออสใหม่ได้เสริมออฟชั่นการตกแต่งภายในเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของซิตี้ไม่ได้รับการปรับเปลี่ยนสักเท่าไหร่ นอกเหนือจากภายในภายนอกฮอนด้าซิตี้ ยังปรับเปลี่ยนไม่โดดเด่นเท่าวีออส โดยยกการออกแบบของ Toyota Vios FS จากแดนมังกร
การออกแบบ Honda City
ฮอนด้า ซิตี้ได้รับการออกแบบมาเรียบหรูพร้อมไฟหน้าแบบ LED กระจังหน้าโครเมี่ยมใหม่ ไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED และไฟหน้าแบบ LED ยังมีกล้องส่องภาพด้านหลังปรับระดับได้ 3 ระดับ พร้อมกันชนหลังใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้วออกแบบใหม่
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมวัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าแบบ Piano Black ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสรองรับการเชื่อมต่อ USB และ HDMI ระบบควบคุมเกียร์บนพวงมาลัยแบบ 7 สปีต พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนพวงมาลัย ยังเสริมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง และวางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัยอีกด้วย
การออกแบบ Toyota Vios
เป็นการออกแบบที่เฉียบคมจริงๆ มันก็คือวีออสโฉมจีนที่ยกมาขายที่ไทยนั้นเอง โดยมาพร้อม ไฟหน้ามัลติรีเฟลกเตอร์ ฮาโลเจน / โปรเจคเตอร์เลนส์ ฮาโลเจน พร้อมไฟหรี่ Light Guide แบบ LED ไฟ Daytime Running Light แบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้า ไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยพร้อมฝาครอบขนาด 15-16 นิ้วให้เลือก
ภายในห้องโดยสารมีให้เลือก 2 สีได้แก่ สีดำ และ สีเบจ สำหรับวัสดุตกแต่งภายในมี 4 สีได้แก่ สีดำ / สีเงิน / สี Rose Gold / สีแดง พร้อมระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button ยกระดับความบันเทิงด้วยเครื่องเล่น CD / MP3 / WMA / DVD และเครื่องเสียง 2DIN วิทยุ AM/FM – หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
ในเรื่องของเครื่องยนต์ทั้ง 2 รุ่นทำได้สูสีกันมากในรายละเอียดของ
Honda City จะเป็นเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ SOHC i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร 1,497 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 73.0 x 89.4 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 10.3 : 1 กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 146 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที รองรับน้ำมันสูงสุด E85 จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ CVT
Toyota Vios เครื่องยนต์ รหัส 2NR-FBE ขนาด 1.5 ลิตร 1,496 ซีซี. 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ให้พละกำลังสูงสุด 108 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิด 140 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ล็อคพูเล่ย์ 7 จังหวะ รองรับน้ำมันสูงสุด E85
ระบบความปลอดภัยของ Honda City
- ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS)
- ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
- ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA)
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง
- เข็มขัดนิรภัยด้านหลังแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง 2 จุด 1 ตำแหน่ง
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย
- จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor)
- กุญแจแบบ Wave Key
- ไฟเบรกดวงที่ 3
- ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Auto Door Lock by Speed)
- กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
- ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะ (i-Side Airbags) – – –
- ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags)
ระบบความปลอดภัย Toyota Vios
- สัญญาณกะระยะถอยหลัง
- กล้องมองหลัง
- ไฟเบรกดวงที่สาม
- ระบบเบรก ABS/EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA
- ระบบควบคุมการทรงตัว VSC และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย คู่หน้า SRS
- เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ
- เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง
- เบาะนั่งคู่หน้าแบบ WIL (Whiplash Injury Lessening)
- ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
- ระบบเตือนการโจรกรรม TDS (Theft Deterrent System)
โดยภาพรวมแล้วทั้งสองรุ่นมีอะไรที่ใกล้เคียงกันมาก ซึ่งขอบอกว่ากินกันไม่ลงจริงๆ และแน่นอนว่ารถยนต์มันก็คืองานศิลปะที่คนเราชอบไม่เหมือนกันบางคนชอบการออกแบบภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ ระบบความปลอดภัย หรือ ราคาที่ถูก และอื่นๆ ซึ่งมันขึ้นอยู่ที่เรานั้นเอง สำหรับข้อมูลเบื้องต้นทางทีมงานได้นำเสนอเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ
สำหรับท่านที่ต้องการข้อมูลรถยนต์ทั้ 2 รุ่นเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่านในลิงค์ด้านล่างครับ
เรียบเรียงโดย Car250.com