VOLVO อาจผลิตกระบะไฟฟ้า ในอนาคต ? * ภาพในจินตนาการ
วอลโว่ แบรนด์รถยนต์สัญชาติสวีเดน ภายใต้การนำของ Geely Auto มีความสามารถมากพอที่จะผลิตกระบะไฟฟ้า (นที่นี้เราหมายถึงกระบะไฟฟ้าที่สามารถแข่งขันกับในกลุ่มกระบะไฟฟ้าขนาดกลางที่กำลังได้รับความสนใจ ซึ่งตอนนี้แบรนด์ VOLVO ยังไม่มีแผนผลิตกระบะไฟฟ้าแต่อย่างใด
-
แต่มีความเป็นไปได้ที่ Volvo มุ่งเน้นไปที่การพัฒนากระบะไฟฟ้าขนาดใหญ่มากกว่า เนื่องจากมีตลาดที่ใหญ่กว่าและการแข่งขันน้อยกว่า กระบะไฟฟ้าขนาดเต็มของ Volvo คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2025 ซึ่งจะแข่งขันกับกระบะไฟฟ้าขนาดใหญ่อื่นๆ เช่น Tesla Cybertruck, Rivian R1T และ Ford F-150 Lightning ทั้งนี้ยังเป็นเพียงข่าวลือ
สำหรับกลุ่มธุรกิจของบริษัท วอลโว่ ประกอบด้วยหลากหลายบริษัทได้แก่
- Volvo Trucks : เน้นผลิตรถบรรทุกขนาดกลาง – ขนาดใหญ่ เน้นบรรทุกหนัก การใช้งานข้าามประเทศ รวมถึงกลุ่มเครื่องจักรกลหนัก
- Mac Truck : ผลิตรถบรรทุกขนาดเล็ก
- Renault Truck : ผลิตรถบรรทุกขนาดใหญ่ สำหรับบรรทุกหนักระยะไกลข้ามประเทศ และอุปกรณ์จักรกลหนัก
- Volvo Construction Equipment : ผลิตจักรกล เพื่องานก่อสร้างขนาดใหญ่
- volvo bus : เน้นผลิตรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ ขนส่งมวลชน
- Volvo Penta : ผลิตอุปกรณ์เรือเดินสมุทร
- Volvo Aero : ผลิตชิ้นส่วนไฮเทคสำหรับอากาศยาน เครื่องยนต์อวกาศยาน บริษัทการบิน
- Volvo Financial Service : ให้บริการทางการเงิน
ทั้งหมดนี้เป็นบริษัทย่อยในเครือ VOLVO และ ยังมีบริษัทแม่อย่าง Geely ที่มีธุรกิจมากมาย พร้อมทั้งกำลังก้าวไปสู่ยนตกรรมไฟฟ้า
VOLVO วางแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์ทุกรุ่นเป็นไฟฟ้าภายในปี 2030 และ ไม่มีภาพแผนการเปิดตัวกระบะแม้แต่รุ่นเดียว ในขณะที่บริษัทแม่อย่าง Geely ได้เปิดตัวกระบะไฟฟ้าขนาดกลางในประเทศจีนอย่าง RADAR RD6
Geely ได้แยกธุรกิจรถกระบะออกจาก Geely Commercial Vehicles และ วางแผนเปิดตัวกระบะไฟฟ้าระดับเดียวกับ Rivian R1T และ Tesla Cybertruck
-
ภายใต้กลยุทธ์ ‘Smart Geely 2025 Strategy มีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายต่อปีเป็น 3.65 ล้านคัน ภายในปี 2025 (ซึ่งจะมากกว่า 1.32 ล้านในปี 2020) รวมทั้งเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ ในรถยนต์ไฟฟ้า
มีเหตุผลมากมายที่ VOLVO ไม่อยากทำกระบะไฟฟ้ามาจำหน่ายในตอนนี้ เพราะทางแบรนด์เน้นกลุ่มตลาด ครอสโอเวอร์ และ SUV มากกว่า รวมถึงตอนนี้กำลังไปได้สวย
VOLVO เอาเงินทุนส่วนนี้ ไปลงทุนในการสร้างโรงงานแบตเตอรี่ของตัวเองจะดีกว่า เพราะธุรกิจรถกระบะของแบรนด์ สามารถทดแทนได้จากรถบรรทุกที่มียอดขายมหาศาลอยู่แล้ว และ ทั้งหมดกำลังมุ่งไปสู่พลังงานสะอาดอย่างเต็มตัว
