ลดราคาเหลือ 1.28 ล้านบาท AVATR 11 พร้อมรุ่น Dark Knight Edition 580 – 760 กม./ชาร์จ CLTC

วันที่ 27 เมษายน – Avatr 11 Dark Knight Edition เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยรุ่นใหม่นี้มีการปรับลดออปชันลงเพื่อจับกลุ่มกว้างขึ้น เปิดตัวทั้งหมด 5 รุ่นย่อย ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 289.900 – 429.900 หยวน เมื่อรวมส่วนลดเงินสดและสิทธิ์อัปเกรดอุปกรณ์ต่าง ๆ มูลค่ารวมกว่า 55,000 หยวน ราคาสุทธิจะเหลือเพียง 279,900 – 419,900 หยวน หรือ 1.28 – 1.93 ล้านบาท รุ่น Dark Knight Edition ราคา 389,900 หยวน หรือ 1.79 ล้านบาท
ไฮไลต์ของรุ่น Dark Knight Edition
- สีตัวถัง เทาแมตต์ (Matte Grey)
- ภายในตกแต่งด้วยสี แดงเบอร์กันดี
- มาพร้อม KONI High-Performance Suspension (ช่วงล่างสมรรถนะสูง) เป็นมาตรฐาน
สำหรับเจ้าของ Avatr 11 รุ่นเก่า: สามารถเลือกติดตั้งเพิ่มเติมชุดอัปเกรดได้ เช่น
- KONI Suspension
- Comfort Upgrade Package (เบาะ Zero-Gravity + พวงมาลัยพร้อมระบบทำความร้อน)
ออปชันและเทคโนโลยีจัดเต็ม!
- ช่วงล่างเทพ KONI High-Performance Suspension
- ระบบหอมอัจฉริยะ Smart Fragrance System
- ระบบขับขี่อัจฉริยะ Huawei ADS 3.0
- ห้องโดยสารอัจฉริยะ HarmonyOS Smart Cockpit
- เครื่องเสียงพรีเมียม British Audio
- เบาะ Zero Gravity Seats คู่หน้าแบบปรับไฟฟ้า
มาพร้อมฟังก์ชั่น
- มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขับขี่อัจฉริยะ 3 ตัว + เซ็นเซอร์ขับขี่อัจฉริยะ 34 ตัว รองรับการขับขี่อัจฉริยะ ADS 2.0 ของ Huawei
- Huawei ADS 2.0 Navigation Cruise Assist (NCA) ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติที่พัฒนาโดย Huawei ใช้การผสมผสานระหว่างเซ็นเซอร์ กล้อง และแผนที่ความละเอียดสูงเพื่อให้สามารถขับขี่แบบแฮนด์ฟรีบนทางหลวงและในเขตเมืองบางแห่งในประเทศจีน ระบบสามารถควบคุมความเร็ว การบังคับเลี้ยว และการเปลี่ยนเลนของรถได้ แต่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ผู้ขับขี่ยังคงรับผิดชอบในการตรวจสอบถนนและเตรียมพร้อมเข้าควบคุมหากจำเป็น
- การขับขี่แบบแฮนด์ฟรีบนทางหลวงและในบางพื้นที่ในเมืองของจีน
- การควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
- การบังคับเลี้ยวอัตโนมัติ
- การเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ
- การตรวจจับวัตถุและคนเดินถนน
- เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
- เทคโนโลยี iTRACK ช่วยติดตามยานพาหนะแบบเรียลไทม์ (real-time vehicle tracking) สามารถรับรู้สภาพถนนที่มีรายละเอียดสูงเป็นพิเศษด้วยความเร็ว 1,000 ครั้งต่อวินาที และการปรับแรงบิดแบบเรียลไทม์ 1,000 ครั้งต่อวินาที ตัวอย่างเช่น เมื่อเผชิญกับแรงกระแทกความเร็ว สามารถปรับและควบคุมแรงบิดได้ภายในมิลลิวินาที ช่วยลดความผันผวนของความเร็วล้อและระยะเวลาที่เกิดอาฟเตอร์ช็อก และได้กำลังสูงสุดภายใต้สภาพถนนที่แตกต่างกัน
- ระบบจดจำสิ่งกีดขวาง GAEB ของ Huawei เป็นระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติที่พัฒนาโดย Huawei โดยใช้เซ็นเซอร์เรดาร์และกล้องเพื่อตรวจจับวัตถุและคนเดินถนนที่อยู่ข้างหน้ารถ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนให้ผู้ขับขี่ทราบหากมีวัตถุหรือคนเดินถนนอยู่ใกล้เกินไป หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง ระบบจะทำการเบรกฉุกเฉินโดยอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
- ระบบนำทางอัตโนมัติ AVATR ของ Huawei เป็นระบบนำทางที่พัฒนาโดย Huawei เพื่อใช้ในรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ กล้อง และ LiDAR เพื่อตรวจจับสภาพแวดล้อมของรถ ระบบจะสร้างภาพรวมของสภาพแวดล้อมของรถและวางแผนเส้นทางที่ดีที่สุดเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง
- รุ่นอัปเกรดที่เปิดตัวในครั้งนี้ยังมาพร้อมกับที่นั่งวีไอพีที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น พื้นผิวหนังมีความแน่น นุ่ม ไร้ริ้วรอยหลายชั้น
ฟังก์ชั่นการขับขี่อัจฉริยะ NCA ในเขตเมือง
- ขับขี่อัจฉริยะ NCA (No-Car-Ahead) หัวเว่ย เป็นระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติที่พัฒนาโดยหัวเว่ย ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ขับขี่ในเขตเมืองได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
- ระบบ NCA หัวเว่ย ใช้กล้องและเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อตรวจจับรถคันหน้าและสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ จากนั้นระบบจะคำนวณและควบคุมความเร็วและระยะห่างระหว่างรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ ระบบ NCA หัวเว่ย ทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ เช่น ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (ACC) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (PCS) และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LTA)
AVATR 11 ดำเนินการออกแบบโดย AVATR Global Design Center ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยมีแนวคิด “ล้ำยุค” เป็นแนวคิดในการออกแบบหลัก ซึ่งแสดงถึงเสน่ห์ด้านสุนทรียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ สร้างขึ้นบนพื้นฐานของแพลตฟอร์มเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ CHN รุ่นใหม่
เน้นความหรูหราแบบเรียบง่ายกระจังหน้าแบบปิด ชุดไฟหน้ารูปตัว F พร้อมไฟส่องสว่างกลางวัน ทำมุมทั้งสองข้าง แนวของหน้าต่างทั้งสองบานผสานกันอย่างลงตัว เพื่อสร้างมุมแหลมรูปตัว V ที่คมชัด และชี้ไปยังปลายเสา C แบบคูเป้ ให้พลังและไดนามิกอย่างงดงาม ด้านหลังมาพร้อมไฟแบบ LED ทะลุผ่านเรียวบาง กันชนหลังสีดำ ไม่มีท่อไอเสียเพราะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมระบบแสดงสัญลักษณ์ โฮโลแกรมบริเวณภายนอก กระจกหน้ารถ
ล้ออัลลอย 22 นิ้ว พร้อมยาง Continental PC6 คาลิปเปอร์เบรค Brembo 4 ลูกสูบอลูมิเนียมทั้งหมด มือจับประตูแบบซ่อน ติดตั้งประตูไฟฟ้าเหนี่ยวนำอัจฉริยะ และ ระบบลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ RNC
ขนาดตัวถัง AVATR 11
- ยาว 4,880 มม.
- กว้าง 1,970 มม.
- สูง 1,601 มม.
- ฐานล้อ 2,975 มม.
ภายในห้องโดยสารออกแบบภายใต้แนวคิด “Vortex Emotional Eddy Current” เน้นกึ่งกลาง พร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ เน้นความสปอร์ต และ หรูหราด้วยโทน น้ำเงิน-เทา และ แดงเบอร์กันดี เบาะหนัง Nappa คู่หน้า เบาะนั่งด้านหน้าเป็นแบบ Bucket-Shape เบาะหลังมีให้เลือกทั้ง 3 ที่นั่ง และ 2 ที่นั่ง รองรับการปรับไฟฟ้า ระบบทำความร้อน และ ฟังก์ชั่นนวด ที่พักแขนตรงกลางมาพร้อมระบบชาร์จไร้สาย และตู้เย็นบริเวณด้านล่าง
หน้าจอส่วนกลางแบบลอยขนาด 15.6 นิ้ว พร้อมระบบ Huawei Hongmen หน้าปัด Full LCD ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าจอสำหรับผู้โดยสารขนาด 10.25 นิ้ว
ลำโพง 14 ตำแหน่ง + เพาเวอร์แอมป์ภายนอก 12 ช่อง ติดตั้ง RNC (Road Noise Cancellation) การลดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ และ เทคโนโลยีคลื่นเสียงแบบแอ็คทีฟ ASE (Active Sound Enhancement) พร้อมโหมดน้ำหอมเป็นอุปกรณ์เสริม
- ASE (Active Noise Cancellation) Sound Enhancement) เทคโนโลยีคลื่นเสียงแบบแอคทีฟที่สามารถจำลองเครื่องยนต์ได้หลากหลาย
- ฟังก์ชันการชาร์จแบบไร้สาย สำหรับโทรศัพท์มือถือแถวหน้า ให้กำลังชาร์จสูงถึง 50W ซันรูฟพาโนรามาแบบแบ่งส่วนได้
- ระบบการจับคู่แผนที่มีความแม่นยำสูงช่วยให้ Avita 11 สามารถรับรู้ภาพได้สูง 360 องศา ทั้งกลางคืน แสงน้อย อุโมงค์ และ ความมืด ทำให้ไม่มีปัญหาในการรับรู้
- Avatr 11 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่สร้างร่วมกันโดยทั้งสอง มาพร้อมกับโซลูชันสมาร์ทคาร์แบบฟูลสแตกของ Huawei ซึ่งรวมถึง Huawei Smart Driving, Smart Cockpit, ระบบเชื่อมต่อัฉจริยะ อินเตอร์เน็ต Smart Electric และ บริการคลาววด์ในรถยนต์
AVATR 11 ติดตั้ง Lidar 3 ตัว, เรดาร์คลื่น 6 มม., เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว และกล้อง 13 ตัว พร้อมพลังประมวลผล 400TOPS สำหรับ Lidar ไม่เพียงแต่สามารถตรวจจับระยะไกลได้ 150 เมตรเท่านั้น แต่ยังมีความแม่นยำในการตรวจจับสูง พร้อมจำลองภาพ 3D เรนดาร์คลื่นมิลลิเมตร สามารถตรวจจับอย่างแม่นยำได้ไกลอีก 210 เมตร นอกจากนี้ยังตอบสนองต่อ การจดจำเลน การเปลี่ยนสัญญาณไฟจราจร ระยะห่างจากคนเดินถนน สิ่งกีดขวางวัตถุที่ต่ำ หรื เล็กจนมองไม่เห็น
- ระบบช่วยนำทางสำหรับการขับขี่อัจฉริยะของ NCA ในความเร็วสูง
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ APA
- ระบบช่วยจดจำสัญญาไฟจราจร
- ระบบจำกัดความเร็วอัจฉริยะ
- ระบบเตือนการเปิดประตู
BEV ไฟฟ้าล้วน
ติดตั้งมอเตอร์คู่ของ Huawei DriveONE ด้านหน้า ให้กำลัง 265 แรงม้า มอเตอร์หลัง ให้กำลัง 313 แรงม้า รวมกำลัง 578 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
- อัตราส่วนน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.98 วินาที
- แบตเตอรี่ลิเธียม CATL NMC 90kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้ 580 กม./ชาร์จ CLTC
- ชาร์จ 240KW SOS 0-80% ภายใน 25 นาที
- ชาร์จ 240KW SOS 30-80% ภายใน 15 นาที
- ชาร์จ AC 11KW SOS 0-100% ภายใน 10.5 ชม.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.98 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
ติดตั้งมอเตอร์คู่ของ Huawei DriveONE ด้านหน้า ให้กำลัง 265 แรงม้า มอเตอร์หลัง ให้กำลัง 313 แรงม้า รวมกำลัง 578 แรงม้า แรงบิตสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
- อัตราส่วนน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.98 วินาที
- แบตเตอรี่ลิเธียม CATL NMC 116kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้ 700 กม./ชาร์จ CLTC
- ชาร์จ 240KW SOS 0-80% ภายใน 35 นาที
- ชาร์จ 240KW SOS 30-80% ภายใน 25 นาที
- ชาร์จ AC 11KW SOS 0-100% ภายใน 13.5 ชม.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.5 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Huawei DriveONE ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร
- อัตราส่วนน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50
- แบตเตอรี่ลิเธียม CATL NMC 90kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้ 630 กม./ชาร์จ CLTC
- ชาร์จ 240KW SOS 0-80% ภายใน 25 นาที
- ชาร์จ 240KW SOS 30-80% ภายใน 15 นาที
- ชาร์จ AC 11KW SOS 0-100% ภายใน 10.5 ชม.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว Huawei DriveONE ให้กำลัง 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร
- อัตราส่วนน้ำหนักหน้า-หลัง 50:50
- แบตเตอรี่ลิเธียม CATL NMC 116kWh (แบตเตอรี่ของ CATL) วิ่งได้ 760 กม./ชาร์จ CLTC
- ชาร์จ 240KW SOS 0-80% ภายใน 35 นาที
- ชาร์จ 240KW SOS 30-80% ภายใน 25 นาที
- ชาร์จ AC 11KW SOS 0-100% ภายใน 13.5 ชม.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.9 วินาที
- ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
รุ่นไฟฟ้าช่วงขยาย
เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวหลัง
- ให้กำลัง 314 แรงม้า
- แรงบิด 367 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ LFP 39.05kWh สามารถวิ่งไฟฟ้า 230 กม. CLTC
- ครอบคลุมการวิ่ง 1,100 กม./ถังน้ำมัน
- ชาร์จ DC 30 -80% ภายใน 15 นาที
- ชาร์จ AC 100% ภายใน 7 ชั่วโมง
- ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.6 วินาที
เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้าคู่
- ให้กำลัง 492 แรงม้า
- แรงบิด 629 นิวตัน-เมตร
- แบตเตอรี่ LFP 39.05kWh สามารถวิ่งไฟฟ้า 220 กม. CLTC
- ครอบคลุมการวิ่ง 1,050 กม./ถังน้ำมัน
- ชาร์จ DC 30 -80% ภายใน 15 นาที
- ชาร์จ AC 100% ภายใน 7 ชั่วโมง
- ความเร็วสูงสุด 190 กม./ชม.
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.9 วินาที
ช่วงล่าง
- ระบบกันสะเทือนหน้า ปีกนกคู่อลูมิเนียมอัลลอยด์
- ระบบกันสะเทือนหลัง Five-link แบบอิสระ
- พวงมาลัยเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์แบบปรับความเร็วได้
- ดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อนทั้งหน้าและหลัง



















































































