ปล่อยภาพ Roewe M7 DMH ปลั๊กอินไฮบริด วิ่งไฟฟ้า 150 กม. ออกแบบโดยอดีตนักออกแบบ Rolls-Royce
เผยภาพภายนอกอย่างเป็นทางการของ SAIC Roewe M7 DMH
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน SAIC Roewe ได้เปิดเผยภาพภายนอกอย่างเป็นทางการของรถยนต์รุ่น M7 DMH ใหม่ รถยนต์ Roewe M7 DMH จัดอยู่ในประเภทรถยนต์ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โดยเป็นรุ่นผลิตจริงของรถยนต์ต้นแบบ “Pearl” และคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ที่น่าสนใจคือ Roewe M7 DMH เป็นผลงานการผลิตชิ้นแรกที่ออกแบบอย่างพิถีพิถันโดย Jozef Kabaň รองประธานฝ่ายออกแบบระดับโลกของ SAIC Design Center นับตั้งแต่เข้าร่วม SAIC Jozef Kabaň มีประสบการณ์มากมายในการออกแบบรถยนต์หรูหรา และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากผลงานการออกแบบ Rolls-Royce ก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายออกแบบให้กับแบรนด์ระดับโลกอย่าง Bugatti, Audi และ BMW ซึ่งมีความสามารถในการดึงองค์ประกอบหลักจากประวัติศาสตร์ของแบรนด์มาตีความใหม่ในแบบร่วมสมัย
จุดเด่นด้านการออกแบบ
Roewe M7 DMH มีสัดส่วนตัวถังที่สง่างามและมั่นคง พร้อมกระจังหน้าแบบน้ำตกแนวตั้ง การออกแบบนี้ไม่เพียงแต่สานต่อคุณสมบัติการขยายภาพแนวตั้งอันโดดเด่นของรถยนต์ต้นแบบ “Pearl” เท่านั้น แต่ยังดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบคริสตัลไดมอนด์รางแสงเวกเตอร์ ได้รับการสืบทอดมาจากภาษาการออกแบบใหม่ของรถยนต์ต้นแบบ “Pearl” และมีการนำโลโก้ไฟส่องสว่างแบบหายใจ “ROEWE” มาใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยให้แสงสว่างสม่ำเสมอในเวลากลางคืนและยังคงความเงางามของโลหะในเวลากลางวัน ช่วยเพิ่มการจดจำ นอกจากนี้ยังมี “พรมต้อนรับอันทรงเกียรติ” ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะในรุ่น
มิติ
- ความยาว 4940 มม.
- กว้าง 1890 มม.
- สูง 1510 มม.
- มีระยะฐานล้อ 2820 มม.
ล้ออัลลอยหลายก้านให้ความรู้สึกหรูหรา ไฟท้ายแบบ 3D ที่เชื่อมต่อกัน ก็มาจากรถยนต์ต้นแบบเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับการออกแบบด้านหน้า และกันชนหลังโดยรวมดูแข็งแรงขึ้น
ระบบขับเคลื่อน
Roewe M7 DMH มาพร้อมกับ เทคโนโลยีไฮบริดขั้นสุดยอด DMH รุ่นที่ห้าของ SAIC โดยใช้ เครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.5 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุด 82kW และแรงบิดสูงสุด 135N·m เครื่องยนต์นี้มีประสิทธิภาพทางความร้อนสูงสุดเกิน 43% ซึ่งให้การตอบสนองกำลังที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งขึ้น และการสิ้นเปลืองพลังงานโดยรวมของรถยนต์ที่ต่ำลง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 137kW และแรงบิดสูงสุด 330N·m และคาดว่าระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนตามมาตรฐาน CLTC จะอยู่ที่ ประมาณ 150 กม.
