ในช่วงแรก ต้นทุนการซ่อม EV มักสูงกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE)

ในช่วงแรก ต้นทุนการซ่อม EV มักสูงกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE)
Spread the love
Advertisement Advertisement

ค่าซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าในเยอรมนีเริ่มลดลง หลังความคุ้นเคยเพิ่มขึ้น

รถยนต์รุ่นใหม่มักมาพร้อมกับช่วงเวลาในการเรียนรู้การใช้งาน และสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ความท้าทายนี้ไม่เพียงเกิดกับเจ้าของรถ แต่ยังรวมถึงอู่ซ่อม บริษัทลากจูง หน่วยกู้ภัย และผู้ประเมินความเสียหายด้วย

Advertisement Advertisement

ในช่วงแรก ต้นทุนการซ่อม EV มักสูงกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) อย่างเห็นได้ชัด โดยสมาคมประกันภัยเยอรมนี (GDV) เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ค่าสินไหมประกันภัยแบบครอบคลุมของ EV สูงกว่ารถ ICE ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันถึง 20-25% แต่ล่าสุด ตัวเลขนี้ลดลงเหลือเพียง 15-20% เท่านั้น

Anja Käfer-Rohrbach รองผู้อำนวยการ GDV อธิบายว่า “ยิ่งมีรถยนต์ไฟฟ้าบนถนนมากขึ้น ความแตกต่างด้านค่าสินไหมเมื่อเทียบกับรถเครื่องยนต์สันดาปก็ยิ่งลดลง” พร้อมเสริมว่า “การมีรุ่นรถที่หลากหลายทำให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องก็มีประสบการณ์มากขึ้นในการดูแลซ่อมแซมรถไฟฟ้าที่เสียหาย”

ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ต้นทุนการซ่อมลดลง และสะท้อนว่า EV กำลังกลายเป็น “เรื่องปกติใหม่” ในตลาดยานยนต์เยอรมนี โดยข้อมูลจาก GDV ระบุว่า ณ ต้นปี 2025 เยอรมนีมีรถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนแล้วราว 1.65 ล้านคัน เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากปี 2021 คิดเป็นสัดส่วน 3.3% ของรถจดทะเบียนทั้งหมดในประเทศ

ค่าซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ถูกกว่ารถน้ำมันในระยะยาว แต่ซ่อมใหญ่ยังแพง

รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ส่วนหนึ่งเพราะค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่อปีต่ำกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) อย่างมีนัยสำคัญ โดยข้อมูลจากหลายแหล่งระบุว่า งบประมาณบำรุงรักษา EV เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 10,000 บาทต่อปี ต่ำกว่ารถน้ำมันเกือบครึ่ง

ในด้านการซ่อมบำรุงทั่วไป ค่าใช้จ่ายก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ เช่น ค่าเช็คระยะตลอด 100,000 กิโลเมตรของ MG EP อยู่ที่ 7,829 บาท, MG ZS EV 8,941 บาท, NETA V 19,796 บาท และ ORA Good Cat 9,027 บาท ซึ่งถือว่าต่ำกว่ารถน้ำมันที่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและชิ้นส่วนสิ้นเปลืองอื่นๆ บ่อยกว่า

อย่างไรก็ตาม ค่าซ่อม EV อาจพุ่งสูงได้หากเกิดความเสียหายรุนแรง โดยเฉพาะกับแบตเตอรี่หรือระบบขับเคลื่อน ตัวอย่างเช่น กรณีซ่อม EV ทั้งระบบที่มีรายงานว่าค่าใช้จ่ายสูงถึง กว่า 1 ล้านบาท หรือหากเปลี่ยนแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวก็อาจต้องใช้เงิน 200,000 – 600,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นรถและความจุ

ข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ ยังเผยว่า ค่าเฉลี่ยการเคลมประกันภัยของ EV ต่อครั้งอยู่ที่ราว 24,000 บาท ซึ่งสูงกว่ารถน้ำมันที่เฉลี่ยประมาณ 15,500 บาท ส่วนหนึ่งเพราะต้องใช้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และอุปกรณ์ซ่อมที่ยังมีจำกัดในตลาด

Carscoop

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้