เปิดราคา 1.13 – 1.46 ล้านบาทในสหรัฐฯ TOYOTA bZ 2026 ใหม่ 463 – 505 กม./ชาร์จ EPA

เปิดราคา 1.13 – 1.46 ล้านบาทในสหรัฐฯ TOYOTA bZ 2026 ใหม่ 463 – 505 กม./ชาร์จ EPA
Spread the love
Advertisement Advertisement

motortrend

Advertisement Advertisement

โตโยต้า bZ รุ่นปี 2026 (เดิมชื่อ bZ4X) – อัปเดตล่าสุดพร้อมราคาที่น่าประหลาดใจ

โตโยต้าสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการอัปเดตใหม่ให้กับครอสโอเวอร์ไฟฟ้าล้วน bZ ปี 2026 โดยราคาของรุ่นเริ่มต้นกลับถูกลงกว่ารุ่นก่อนถึง 2,170 ดอลลาร์  ในสหรัฐฯ แทนที่จะปรับขึ้นตามที่หลายคนคาดการณ์ ซึ่งอาจช่วยให้โตโยต้าเจาะตลาดสหรัฐฯ ได้ดีขึ้น หลังจากที่รุ่นก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก

ราคาและรุ่นย่อย

  • bZ XLE FWD
    ราคาใหม่ 34,900 ดอลลาร์ (ไม่รวมค่าขนส่ง 1,450 ดอลลาร์) หรือประมาณ 1.13 ล้านบาท
    ถูกลงจากเดิม 37,070 ดอลลาร์
    มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ 57.7 kWh ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า กำลัง 221 แรงม้า
    ดีไซน์ปรับใหม่ กระจังหน้าและแก้มข้างเป็นสีเดียวกับตัวรถแทนที่กรอบดำรุ่นเก่า

  • bZ XLE FWD Plus หรือประมาณ 1.22 ล้านบาท
    ราคา 37,900 ดอลลาร์
    ได้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น 74.7 kWh ใช้มอเตอร์หน้าเหมือนรุ่นเริ่มต้น

  • bZ XLE AWD
    ราคา 39,900 ดอลลาร์ (เพิ่มจากรุ่นเดิม 750 ดอลลาร์) หรือประมาณ 1.29 ล้านบาท
    ใช้แบตเตอรี่ 74.7 kWh พร้อมมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ

  • bZ Limited FWD
    ราคา 43,300 ดอลลาร์ (แพงขึ้น 1,500 ดอลลาร์) หรือประมาณ 1.40 ล้านบาท

  • bZ Limited AWD
    ราคา 45,300 ดอลลาร์ (แพงขึ้น 1,420 ดอลลาร์) หรือประมาณ 1.46 ล้านบาท

ความแตกต่างราคา (2026 vs 2025)

รุ่น 2026 bZ 2025 bZ4X ส่วนต่าง
bZ XLE FWD $34,900 $37,070 -$2,170
bZ XLE FWD Plus $37,900 N.A.
bZ XLE AWD $39,900 $39,150 +$750
bZ Limited FWD $43,300 $41,800 +$1,500
bZ Limited AWD $45,300 $43,880 +$1,420

TOOYTA bZ4X รุ่นใหม่: การอัปเกรดครั้งใหญ่ เพิ่มขีดความสามารถและความสะดวกสบาย

  • ขยายตัวเลือกแบตเตอรี่: ลูกค้าสามารถเลือกแบตเตอรี่ขนาด 57.7 kWh หรือ 73.1 kWh (ความจุรวม)
  • เพิ่มระบบปรับสภาพแบตเตอรี่: ปรับอุณหภูมิแบตเตอรี่เพื่อให้การชาร์จมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ที่ชาร์จ AC แบบใหม่: รองรับกำลังไฟ 22 kW สำหรับการชาร์จเร็วขึ้น
  • เพิ่มกำลังของระบบ eAxle: กำลังสูงสุด 338 HP
  • ดีไซน์ภายนอกใหม่: ปรับให้ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น
  • ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่: แผงคอนโซลกลางและหน้าปัดแบบใหม่ พร้อมหน้าจอมัลติมีเดีย 14 นิ้ว

การปรับปรุงครั้งใหญ่ของ Toyota bZ4X

หลังจากเปิดตัวในปี 2022 เพื่อเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ของโตโยต้า bZ4X กำลังได้รับการอัปเกรดครั้งสำคัญ ทั้งด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี และความสะดวกสบาย โดยตั้งเป้าให้เป็นรถยนต์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้นในกลุ่ม SUV ไฟฟ้า

bZ4X ถูกออกแบบให้เป็น SUV ที่แท้จริง พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางขรุขระ โดยอาศัยเทคโนโลยีระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่โตโยต้ามีความเชี่ยวชาญมายาวนาน นอกจากนี้ โตโยต้ายังให้ Battery Care Program ที่ครอบคลุมแบตเตอรี่ได้นานถึง 10 ปี หรือ 1 ล้านกิโลเมตร ขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ประจำปี

เพิ่มกำลังขับเคลื่อนด้วยระบบ eAxle ที่ปรับปรุงใหม่

eAxle ได้รับการพัฒนาให้ใช้ เซมิคอนดักเตอร์ซิลิคอนคาร์ไบด์ (SIC) ที่ช่วยเพิ่มกำลังขับเคลื่อน ทำให้ bZ4X รุ่นใหม่นี้เป็นหนึ่งในรถยนต์โตโยต้าที่ทรงพลังที่สุดในยุโรป (นอกเหนือจากรุ่นสมรรถนะสูงของ GR)

รุ่นย่อย Toyota bZ MY2026

  • bZ XLE FWD Plus
    • ขับหน้า, 221 แรงม้า
    • แบตเตอรี่ 74.7 kWh วิ่งได้ 505 กม./ชาร์จ EPA
    • อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ~8.0 วินาที
    • ชาร์จ DC 150 kW / AC 11 kW
  • bZ XLE AWD
    • ขับสี่ล้อ มอเตอร์คู่, 338 แรงม้า
    • แบตเตอรี่ 74.7 kWh วิ่งได้ 463 กม./ชาร์จ EPA
    • อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. 5.1 วินาที
    • ชาร์จ DC 150 kW / AC 11 kW
  • bZ Limited FWD
    • แบตเตอรี่ 74.7 kWh วิ่งได้ 481 กม./ชาร์จ EPA
    • ขับหน้า, 221 แรงม้า
    • อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. 8.0 วินาที
    • ชาร์จ DC 150 kW / AC 11 kW
  • bZ Limited AWD
    • แบตเตอรี่ 74.7 kWh วิ่งได้ 447 กม./ชาร์จ EPA
    • ขับสี่ล้อ มอเตอร์คู่, 338 แรงม้า
    • อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. 5.1 วินาที
    • ชาร์จ DC 150 kW / AC 11 kW
  • DC Fast Charge: สูงสุด 150 kW → ชาร์จ 10–80% ใน ≈30 นาที
  • AC Onboard Charge: 11 kW → ชาร์จผ่านที่บ้านได้เร็วขึ้น (จาก ~9 ชม. เหลือ ~7 ชม.)

รถทุกรุ่นรองรับอัตราการชาร์จสูงสุด 150 kW สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ภายใน ประมาณ 30 นาที ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม

  • แม้ยังเป็นระบบไฟฟ้า 400 โวลต์ที่จำกัดความเร็ว (เทียบกับคู่แข่งที่ใช้ 800V) แต่ Toyota ได้ปรับปรุงเส้นโค้งการชาร์จ (charging curve) และระบบ pre-conditioning ให้สามารถรักษากำลังชาร์จได้ต่อเนื่องขึ้น
  • การชาร์จผ่านไฟบ้าน (AC Onboard Charger) ได้รับการอัปเกรดใหม่จากรุ่นก่อน (7.4–7.6 kW) มาเป็น 11 kW ในปี 2026 ช่วยให้การชาร์จในบ้าน (Level‑2) รวดเร็วขึ้น — จากที่ใช้ประมาณ 9 ชั่วโมง ลดเหลือราว 7 ชั่วโมง

ดีไซน์ใหม่และความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น

  • ภายนอก: กระจังหน้าใหม่ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวขึ้น พร้อมปรับปรุงหลักอากาศพลศาสตร์
  • ภายใน: คอนโซลกลางใหม่ รองรับการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลได้สะดวกขึ้น และมีแผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่
  • หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 14 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
  • ปรับปรุงช่วงล่างและตัวถัง: ลดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน เพิ่มความสบายขณะขับขี่

อัปเดตซอฟต์แวร์อัจฉริยะ

  • ฟังก์ชันปรับสภาพแบตเตอรี่ (Battery Pre-conditioning)

    • ควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ก่อนชาร์จ เพื่อให้ชาร์จได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
    • สามารถเปิดใช้งานได้ทั้งแบบ อัตโนมัติและแมนนวล
  • ระบบนำทาง BEV อัจฉริยะ

    • คำนวณเส้นทางและเลือกสถานีชาร์จที่เหมาะสม ตามระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่
    • ฟังก์ชันนี้มีให้ใช้งานแล้วใน bZ4X รุ่นปัจจุบันผ่านการอัปเดต OTA (Over-the-Air)

ระบบความปลอดภัย (Safety Features)

Toyota Safety Sense 3.0™ เป็นชุดระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในรถทุกรุ่นย่อยของ bZ MY2026 ซึ่งประกอบด้วยฟังก์ชันสำคัญหลายประการ เช่น:

  • ระบบ Pre-Collision System with Pedestrian Detection เตือนและเบรกอัตโนมัติเมื่อมีการชนด้านหน้า (รถ, คนเดินถนน, จักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์)

  • Dynamic Radar Cruise Control (DRCC) สามารถรักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าได้แม้ในความเร็วต่ำ

  • Lane Departure Alert with Steering Assist (LDA w/SA) และ Lane Tracing Assist (LTA) ช่วยเตือนและควบคุมพวงมาลัยให้อยู่ในเลนถ้าเกิดออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ

  • Road Sign Assist (RSA) อ่านป้ายจราจร เช่น ป้ายจำกัดความเร็ว, หยุด, ให้ทาง และแสดงข้อมูลผ่านหน้าจอผู้ขับ

  • Automatic High Beams (AHB) สลับไฟสูง–ไฟต่ำโดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม

  • Proactive Driving Assist (PDA) ช่วยเบรกหรือบังคับเล็กน้อยเมื่อจำเป็น เช่น ในจังหวะเลี้ยวเข้ามุมโค้งหรืออยู่ใกล้รถด้านหน้าหรือผู้คนฝ่ายหน้า

นอกจากนี้ ยังมีระบบพื้นฐานด้านความปลอดภัยเช่นกัน ได้แก่:

  • Blind Spot Monitor (BSM) พร้อม Rear Cross-Traffic Alert (RCTA) ช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาหรือมีรถวิ่งตัดผ่านตอนถอยหลัง

  • Safe Exit Alert เตือนเมื่อมีรถหรือจักรยานมาจากด้านหลังและเปิดประตูอาจก่อให้เกิดอันตราย

  • ระบบ Star Safety System รวมมาตรการพื้นฐานด้านความปลอดภัย (ABS, VSC, TRAC, EBD, Brake Assist, Smart Stop Technology)

เฉพาะในรุ่น Limited (FWD และ AWD) จะมีระบบช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น

  • Traffic Jam Assist สำหรับช่วยขับในช่วงรถติด

  • Lane Change Assist

  • Front Cross‑Traffic Alert

  • 360‑degree Panoramic View Monitor พร้อมกล้องรอบคันช่วยมองภาพในจังหวะถอยหรือจอดขณะความเร็วต่ำ

ในด้านคะแนนความปลอดภัย — แม้ข้อมูลเฉพาะของ bZ MY2026 ยังไม่เปิดเผยชัดเจน แต่จากรุ่นก่อนหน้า (bZ4X) ได้คะแนนสูงจาก IIHS และ NHTSA อย่างดี รวมถึงระบบป้องกันการชนกับคนเดินถนน

Carsccop

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้