สื่อออสเตรเลีย เผยข้อมูล HILUX ใหม่ พร้อม ดีเซล 2.8 เสริม Mild HYBRID 48V พร้อมรุ่นย่อย อื่นๆ

หลุดข้อมูล Toyota HiLux 2026 เวอร์ชันออสเตรเลีย

เตรียมยกเครื่องใหม่ ใช้ดีเซล 2.8 ลิตรเป็นมาตรฐาน เสริม Mild-Hybrid 48V – ตัดเครื่องเบนซินและ Extra Cab ออก

เริ่มมีเค้าลางชัดเจนขึ้นทุกทีสำหรับ Toyota HiLux รุ่นปี 2026 หลังจากเอกสารจาก ฐานข้อมูล ROVER ของรัฐบาลออสเตรเลีย ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2025 ทำให้มีข้อมูลสำคัญหลุดออกมาก่อนการเปิดตัวจริงหลายเดือน

ไฮไลต์ที่น่าสนใจ

• เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร (รหัส 1GD-FTV) มีแนวโน้มเป็น หัวใจหลักทุกรุ่น

• ระบบ 48V Mild-Hybrid จะมีให้ในหลายเกรด โดยเฉพาะรุ่นสูง

• ยกเลิกเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร และตัวถัง Extra Cab

• ภายในห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ทันสมัย พร้อมจอคู่ขนาดใหญ่

• คาดราคาเริ่มต้นพุ่งจาก 27,730 ดอลลาร์ออสเตรเลียไปแตะ 35,000 ดอลลาร์

รายละเอียดจากเอกสาร ROVER

ในเอกสารที่ยื่นเพื่อยืนยันมาตรฐานยานยนต์ พบการใช้รหัสรุ่น AN2 ซึ่งเชื่อว่าเป็น HiLux เจเนอเรชันใหม่ โดยมีการเปลี่ยนรหัสโมเดลจาก GUN1 (รุ่นปัจจุบัน) เป็น GUN2 ทั้งหมด

สิ่งที่เห็นชัดคือ ไม่มีการใช้รหัส “TUN” ซึ่งปกติใช้แทนเครื่องยนต์เบนซิน แปลว่า รุ่นใหม่จะตัดเครื่องยนต์เบนซินออกจากไลน์อัพ รวมถึงไม่มีการระบุ “CT” ที่เคยหมายถึง Extra Cab → บ่งชี้ว่าจะเหลือเพียง Single Cab และ Dual Cab เท่านั้น

ขุมพลังและระบบขับเคลื่อน

มีการอ้างถึงเครื่องยนต์ 1GD-FTV ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตรอยู่สองเวอร์ชันหลัก ได้แก่:

• 1GD-FTV (HI) – AT : ดีเซล 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ

• 1GD-FTV (MHV) : เวอร์ชัน Mild-Hybrid 48V (MHV = Mild Hybrid Vehicle)

ทั้งสองคาดว่าจะเป็นเกียร์อัตโนมัติทั้งหมด โดยรุ่น Mild-Hybrid จะไม่มีเกียร์ธรรมดาให้เลือก ซึ่งสอดคล้องกับ HiLux รุ่นปัจจุบันที่ใช้ระบบนี้

รหัสเครื่องยนต์ที่พบในเอกสาร ได้แก่ GUN226, GUN227, GUN236 และรุ่นที่มีตัวอักษร “R” ตอนท้าย (เช่น GUN237R) สื่อถึงการติดตั้ง ระบบ Mild-Hybrid 48V

ไลน์อัพและเกรดรุ่น

วิเคราะห์จากรหัสรุ่นที่หลุดออกมา คาดว่าจะมีเกรดหลัก 4 ระดับ ได้แก่

• L = WorkMate

• M = SR

• H = SR5

• P = รุ่นใหม่ที่อยู่เหนือหรือใกล้ SR5

โดยรุ่น WorkMate อาจยังคงใช้เกียร์อัตโนมัติขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่ไม่มีระบบ Mild-Hybrid

การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นว่า Toyota กำลังเดินตามรอย Mitsubishi Triton ใหม่ ที่ปรับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่เป็นมาตรฐาน ตัดรุ่นเล็กออกไป ทำให้ HiLux รุ่นใหม่จะเน้นไปที่ ขุมพลังใหญ่และทรงพลังยิ่งขึ้น

การออกแบบและห้องโดยสาร

แม้จะเป็นรุ่นใหม่ปี 2026 แต่ข้อมูลจาก Spyshot ยืนยันว่า HiLux ครั้งนี้ ไม่ได้พัฒนาใหม่ทั้งหมด หากแต่ใช้พื้นฐานเดิมจากรุ่นปัจจุบัน แต่ปรับดีไซน์ด้านหน้าและด้านท้ายใหม่ให้ทันสมัยกว่าเดิม

ห้องโดยสารภายในคาดว่าจะมีการยกเครื่องครั้งใหญ่ เช่น

• จอคู่ขนาดใหญ่ (Dual Widescreen Display)

• แผงควบคุมและสวิตช์สไตล์ Prado

• คอนโซลใหม่ที่เน้นความหรูหราทันสมัย

กำหนดการเปิดตัว

แม้ Toyota Australia จะยังไม่ออกมาให้ความเห็น แต่มีรายงานจากประเทศไทยระบุว่า Toyota HiLux 2026 จะเปิดตัวครั้งแรกในงานมอเตอร์โชว์ที่กรุงเทพฯ ปลายเดือนพฤศจิกายน 2025 ก่อนจะเริ่มขายจริงในปี 2026

บทสรุป

การเปลี่ยนแปลงของ Toyota HiLux 2026 ถือเป็นการปรับครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปี โดยเน้นเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตรเป็นมาตรฐาน พร้อมเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V เพื่อตอบโจทย์ทั้งพลังและความประหยัด ขณะเดียวกันยังตัดรุ่นเบนซินและ Extra Cab ทิ้งไป ทำให้ไลน์อัพถูกย่อให้ชัดเจนขึ้น

แฟน ๆ HiLux ในไทยและออสเตรเลียคงต้องจับตา ว่ารุ่นใหม่นี้จะสามารถยืนหนึ่งในตลาดกระบะที่แข่งขันกันดุเดือดได้ต่อไปหรือไม่

Drive.au

ล่าสุดทดสอบวิ่งกระบะตอนเดียวสำหรับ Hilux Travo ใหม่ ก่อนเปิดตัวปลายปีนี้

ขออนุญาติเจ้าของภาพนะครับ

ภาพโดย คุณ Pom Buddy / Revo GR Sport Club

bestcarweb

เครดิตภาพคุณ รัตน์ ระยอง

 

Drive

 

 

เครดิตภาพ kolesa

 

ขอบคุณภาพ FB กฤษดา ก่อแก้ว

Hilux TRAVO ว่าที่กระบะใหม่จาก Toyota ที่โลกต้องจับตา จาก Revo สู่ TRAVO – การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของรถกระบะขวัญใจคนไทย

ถ้าถามว่ารถประเภทไหนคือ “พระเอกตัวจริง” ของถนนเมืองไทย คำตอบไม่ต้องคิดนานครับ – ก็คือ รถกระบะ นี่แหละ!
ไม่ว่าจะขับบรรทุกของไปตลาด ขนปูนไปไซต์งาน หรือแม้แต่เอาไปแต่งหล่อซิ่งสุดสตรีท รถกระบะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันคนไทยแบบแยกไม่ออก

และหนึ่งในตำนานที่ครองใจคนไทยมาตลอดกว่า 50 ปี ก็คือ Toyota Hilux จากรุ่น RN10 ในปี 1968 จนมาถึง Hilux Revo ที่เราคุ้นเคย… กระบะรุ่นนี้กลายเป็น “เจ้าตลาด” ที่ใคร ๆ ก็ยอมรับเรื่องความอึด ความทน และค่าตัวที่ยังขายต่อได้ดี

แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่ Toyota จะก้าวข้ามเส้นเดิม ๆ สู่ยุคใหม่กับชื่อที่ทุกคนกำลังพูดถึง – Hilux TRAVO

Hilux TRAVO: ยกสูงนำร่อง เปิดด้วยความบึกบึน

Toyota เลือกเปิดเกมด้วย รุ่นยกสูง (Hi-Floor) ก่อนเป็นด่านแรก

• 2WD Pre-Runner

• 4WD 4×4

• ตัวถังครบทั้ง Double Cab 4 ประตู, Smart Cab และ Single Cab

ที่เด็ดกว่าคือการส่ง เวอร์ชันไฟฟ้า (Hilux TRAVO EV) ลงสนามพร้อมกัน ถือว่า Toyota กล้าและจริงจัง เพราะนี่คือ ครั้งแรกที่มีกระบะ BEV ประกอบในไทยเพื่อขายจริง

ทำไมต้องเริ่มจากรุ่นยกสูง? คำตอบง่าย ๆ ครับ → เพราะกลุ่มนี้คือตลาดที่คนไทย “เล่นจริงจ่ายจริง” มากที่สุด ไม่ว่าจะเอาไปขับทำงาน ลุยน้ำ ลุยไร่ หรือแต่งออฟโรด ยกสูงคือภาพจำของคำว่ากระบะที่สมบุกสมบัน

งานวิศวกรรม เฟรมเดิม แต่ช่วงล่างใหม่

แม้ยังคงใช้เฟรม IMV2 (ไม่ใช่ TNGA-F แบบ Land Cruiser) แต่ Toyota ก็ปรับปรุงใหม่ให้ดีกว่าเดิม

• ช่วงล่าง เฟิร์มขึ้น แต่ไม่กระด้าง

• อาการเด้งหายไปเยอะ แต่ยังคงความนุ่ม โดยเฉพาะเบาะหลังที่นั่งสบายขึ้น

• แก้จุดด้อยที่คนเคยบ่นกัน เช่น ขับทางไกลแล้วโยน หรือวิ่งทางขรุขระแล้วสะเทือนมากเกินไป

เรียกได้ว่า TRAVO คือ Hilux ที่ Toyota “ตั้งใจอัปเกรดให้ครบทุกจุด”

ขุมพลัง ดีเซล 2.8L ใหม่ + BEV

หัวใจหลักยังเป็น ดีเซล 2.8 ลิตร เทอร์โบ ที่ปรับจูนใหม่ พร้อมเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่

• เพิ่มระบบ Start & Stop (S&S)

• ประหยัดน้ำมันขึ้น 5–7% เทียบกับรุ่นเครื่อง 2.4 ลิตรเดิม

• รุ่นเกียร์ธรรมดาก็ยังมีให้เลือก → ตอบโจทย์คนชอบทนทาน ค่าซ่อมไม่จุกจิก

ส่วน Hilux TRAVO EV ก็มาพร้อม มอเตอร์คู่ AWD

• ใช้เทคโนโลยีบางส่วนจาก Toyota bZ4X (MC)

• ระยะวิ่งไม่ไกลมาก แต่ถือว่า เพียงพอสำหรับตลาดไทย

• ที่สำคัญ Toyota จะเป็น ค่ายแรกที่ทำตลาดกระบะ BEV ในไทย

แล้วรุ่นตัวเตี้ยไปไหน?

คนที่เล็งกระบะ Low-Floor (Z-Edition) อาจต้องรออีกพักใหญ่ เพราะ Toyota ติดปัญหาเรื่อง การขออนุญาต Certificated จากญี่ปุ่น ทำให้ Revo Z-Edition ปัจจุบัน (2.4L) ยังขายต่ออีกอย่างน้อย 1 ปี

ดังนั้นไลน์อัพ Hilux ช่วงนี้จะแบ่งชัดเจนว่า:

• Travo = ยกสูง (Diesel 2.8 & BEV)

• Revo Z-Edition = ตัวเตี้ย (Diesel 2.4)

• Champ = ไม่เปลี่ยนแปลง

ไทย = เวที World Premiere

รถล็อตแรกของ TRAVO จะถูกส่งออกไป Australia และ New Zealand ก่อน เพื่อจัดการกฎหมายและการทดสอบ แต่ จะไม่มีการเปิดตัวที่นั่นก่อนประเทศไทย

เพราะ Toyota เลือกไทยให้เป็น เวที World Premiere

• เหตุผลชัดเจน → ไทยคือตลาดกระบะ Mid-Size ใหญ่สุดอันดับ 2 ของโลก (รองจากสหรัฐฯ)

• และเป็นฐานการผลิตที่สำคัญที่สุดของ Hilux

กำหนดการเปิดตัว: คาดว่าจะเกิดขึ้น ก่อนงาน Motor Expo ปลายปีนี้

 

https://www.car250.com/toyota-tacoma-trailhunter-11-2025.html

สิ้นเปลือง 8.5 กม./ลิตร EPA TOYOTA TACOMA TRD PreRunner กระบะแค็บ 2 ประตู 2.4T i-FORCE 278 แรงม้า ขายในสหรัฐฯ 1.32 ล้านบาท

https://www.car250.com/toyota-tacoma-limited-i-force-max.html

อัตราสิ้นเปลือง 8.5 กม./ลิตร EPA TOYOTA TACOMA SR รุ่นเริ่มต้น 2 ประตู และ 4 ประตู 2.4T i-FORCE 278 แรงม้า 1.28 ล้านบาทในสหรัฐฯ

https://www.car250.com/toyota-tacoma-trd-pro-i-force-max-10.html

https://www.car250.com/toyota-tacoma-x-runner-2024.html