ลือเลิกผลิต? MAZDA2 ตอบกลับแรงด้วยรุ่นปี 2026 ในญี่ปุ่น ทั้งที่อายุโมเดลเกิน 10 ปี
Mazda2 รุ่นปี 2026 ในญี่ปุ่น ปรับออปชัน เพิ่มความคุ้มค่า ยืดอายุทำตลาด แม้กระแสเลิกผลิตยังคงหนาหู
Mazda2 หนึ่งในฮัทช์แบ็กไซส์เล็กที่อยู่คู่ตลาดมานาน ได้รับการปรับปรุงครั้งใหม่สำหรับปีรุ่น 2026 ในญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการขยายอายุตลาดของรถรุ่นนี้ออกไปอีก แม้ตลอดปี 2024–2025 จะมีข่าวลือหนาหูว่า Mazda เตรียมปลดประจำการรถรุ่นนี้ในหลายภูมิภาคก็ตาม แต่ในญี่ปุ่น ผู้ผลิตยังคงเดินหน้าปรับปรุงรถให้ทันสมัยขึ้น พร้อมเพิ่มออปชันและอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อรักษาความแข่งในตลาดรถเล็กที่ยังมีความต้องการอยู่
ภูมิหลัง Mazda2 ที่ยังคงอยู่ แม้หลายตลาดเริ่มโบกมือลา
Mazda2 เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ปี 2002 (ในญี่ปุ่นเดิมใช้ชื่อ “Demio”) และเจเนอเรชันปัจจุบันคือรุ่นที่ 3 ซึ่งเปิดตัวในปี 2014 ถือเป็นหนึ่งในรถที่มีอายุโมเดลยาวนานที่สุดของแบรนด์
ที่ผ่านมา Mazda2 ผ่านการไมเนอร์เชนจ์หลัก ๆ มาแล้ว 2 รอบ (2019 และ 2023) โดยเฉพาะการปรับปี 2023 ที่ได้รับดีไซน์หน้าใหม่และห้องโดยสารปรับลุคให้สปอร์ตขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดโลกเริ่มลดความสำคัญของรถเล็กจากต้นทุนการพัฒนาและความต้องการที่หดตัว ทำให้ Mazda2 ถอนตัวจากตลาดยุโรปหลายประเทศ รวมถึงสหราชอาณาจักรในปี 2025
แต่ในญี่ปุ่น Mazda ยังยืนยันว่า Mazda2 ยังไม่หายไปไหน พร้อมเผยการปรับออปชันใหม่เพื่อเดินหน้าอีกระลอกในปี 2026
สิ่งที่ “เพิ่มใหม่” ใน Mazda2 รุ่นปี 2026
Mazda ตั้งใจให้การอัปเดตครั้งนี้ช่วยเพิ่มคุณค่าในกลุ่ม Entry Level โดยไม่แตะต้องโครงสร้างหลักและสายการผลิต เพียงปรับอุปกรณ์ให้สอดคล้องกับความต้องการจริงของลูกค้า
รุ่น 15C II (รุ่นเริ่มต้น) คุ้มค่าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ได้รับการเพิ่มออปชันพื้นฐานที่ผู้ใช้ขอมากที่สุด
-
เบาะหลังแยกพับ 60:40 (จากเดิมเป็นเบาะตอนเดียว)
-
กระจกหลังแบบ Privacy Glass
ถือเป็นการปรับที่ “จับต้องได้จริง” เพิ่มความใช้งานในชีวิตประจำวัน
รุ่น 15 BD i Selection II เทคโนโลยีมาเต็ม
ได้รับแพ็กเกจ Mazda Connect ใหม่
-
หน้าจออินโฟเทนเมนต์ 8.8 นิ้ว (ใหญ่ว่ารุ่นเดิม)
-
กล้องมองรอบคัน 360°
-
เซนเซอร์กะระยะด้านหน้า
-
กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
Advertisement Advertisement
ถือเป็นรุ่นที่เพิ่ม “เทคโนโลยีช่วยขับ” มากที่สุดในไลน์อัป
รุ่น 15 Sport II พร้อมใช้งานในหน้าหนาว
Mazda เติมออปชันที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ในญี่ปุ่นโดยเฉพาะ
-
เบาะนั่งปรับอุ่น
-
พวงมาลัยปรับอุ่น
เพิ่มความสบายในสภาพอากาศหนาว
รุ่น 15MB และ 15Sport+ คงเดิม ไม่ปรับอะไร
ลูกค้ายังสามารถเลือกชุดแต่ง AutoExe ได้เหมือนเดิม ประกอบด้วย:
-
สปลิตเตอร์หน้า
-
ดิฟฟิวเซอร์หลัง
-
สปอยเลอร์ท้าย
-
ช่องดักลมในกันชนหลัง
-
ปลายท่อโครเมียม
ยังคงเป็นชุดแต่งที่ถูกใจกลุ่มแฟน Mazda สายสปอร์ต
เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน ยังคงของเดิมทั้งหมด
Mazda2 รุ่นปี 2026 ไม่ได้ปรับเปลี่ยนทางเทคนิค เครื่องยนต์ยังคงเดิมแบบที่ลูกค้าญี่ปุ่นคุ้นเคย:
เครื่องยนต์ 1.5 Skyactiv-G
-
รุ่นทั่วไป: 110 แรงม้า / 142 นิวตันเมตร
-
รุ่น 15MB: 116 แรงม้า / 149 นิวตันเมตร
ระบบส่งกำลัง
-
เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
-
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ระบบขับเคลื่อน
-
ขับหน้า (FWD)
-
หรือขับสี่ (4WD) สำหรับบางรุ่น
การคงสเปกเดิมทำให้ต้นทุนการผลิตไม่สูงขึ้น ในขณะเดียวกันยังรักษาความทนทานและต้นทุนการถือครองให้เหมาะสมกับตลาดญี่ปุ่น
ราคาในญี่ปุ่น
Mazda เริ่มเปิดรับจองแล้ว โดยจะเริ่มขายจริง ต้นเดือนธันวาคม 2025
| รุ่นย่อย | ราคา (เยน) | ประมาณราคา (บาท)* |
|---|---|---|
| 15C II (เริ่มต้น) | 1,720,400 เยน | 354,000 บาท |
| 15MB (รุ่นสปอร์ต) | 1,768,800 เยน | 364,000 บาท |
| รุ่นท็อปสุด | 2,501,400 เยน | 515,000 บาท |
*อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนในบทความต้นฉบับ


