GWM ปิดฉาก Motor Expo 2025 อย่างยิ่งใหญ่ กวาดยอดจอง 4,609 คัน โตแรง 124% ตอกย้ำผู้นำรถยนต์ Multi-Powertrain ในประเทศไทย

GWM ปิดฉาก Motor Expo 2025 อย่างยิ่งใหญ่ กวาดยอดจอง 4,609 คัน โตแรง 124% ตอกย้ำผู้นำรถยนต์ Multi-Powertrain ในประเทศไทย
กรุงเทพฯ – 12 ธันวาคม 2568 – เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) หรือ GWM (Thailand) สร้างปรากฏการณ์สำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการปิดฉากงาน Motor Expo 2025 อย่างสวยงาม พร้อมยอดจองรถยนต์รวมทั้งสิ้น 4,609 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างก้าวกระโดดมากกว่า 124% สะท้อนถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของแบรนด์ GWM และความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคชาวไทยมีต่อรถยนต์ เทคโนโลยี และการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
ตัวเลขยอดจองดังกล่าวไม่เพียงเป็นความสำเร็จเชิงปริมาณ แต่ยังสะท้อนถึงการวางตำแหน่งแบรนด์ของ GWM ที่ชัดเจนในฐานะผู้ผลิตรถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้งาน ภายใต้แนวคิดระดับโลก “All Scenarios – All Powertrains – All Users” ซึ่งมุ่งตอบโจทย์ผู้ใช้ในทุกไลฟ์สไตล์ ผ่านระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายที่สุดในตลาดไทย
กลยุทธ์ All Powertrains หัวใจสำคัญของการเติบโตในตลาดไทย
ความสำเร็จของ GWM ในงาน Motor Expo 2025 เกิดจากการเดินเกมเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจน โดยนำเสนอรถยนต์ที่ครอบคลุมแทบทุกประเภทพลังงาน ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV), รถยนต์ไฮบริด, รถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ไปจนถึงรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง ซึ่งช่วยให้ GWM สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างกว่าแบรนด์คู่แข่งหลายราย
แนวทางดังกล่าวสอดรับกับสภาพตลาดรถยนต์ไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานทางเลือก ที่ผู้บริโภคยังมีความต้องการที่หลากหลาย ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังมองหาทางเลือกที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
ยอดจองและจำนวนทดลองขับ พิสูจน์การรับรู้แบรนด์ที่แข็งแกร่ง
นอกจากยอดจองที่เติบโตอย่างโดดเด่น GWM ยังสร้างสถิติใหม่ด้วยจำนวนผู้ลงทะเบียนทดลองขับและร่วมกิจกรรมภายในบูธที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงระดับการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และความสนใจของผู้บริโภคที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การชมรถ แต่พร้อมเปิดใจทดลองและตัดสินใจซื้อ
กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจ GWM ครอบคลุมตั้งแต่ครอบครัวรุ่นใหม่ คนทำงาน คนรุ่นใหม่ที่มองหารถไฟฟ้า ไปจนถึงนักธุรกิจและผู้บริหารที่ต้องการรถยนต์ระดับพรีเมียม ซึ่งถือเป็นการขยายฐานลูกค้าได้อย่างรอบด้าน

3 รุ่นไฮไลต์ที่เป็นแรงขับเคลื่อนยอดจองของ GWM
GWM TANK 300 Diesel – Premium Boxy SUV ที่ตอบโจทย์สายลุยตัวจริง
GWM TANK 300 Diesel ยังคงเป็นดาวเด่นของบูธ ด้วยยอดจองสูงสุดของแบรนด์ถึง 1,818 คัน โดดเด่นด้วยดีไซน์ SUV ทรงกล่อง (Boxy) ที่แข็งแกร่ง แตกต่างจาก SUV ทั่วไปในตลาด ผสานกับภาพลักษณ์พรีเมียมและสมรรถนะการขับขี่ที่รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ
หัวใจสำคัญคือเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ ที่ให้ทั้งพละกำลัง แรงบิด และความทนทาน เหมาะกับสภาพการใช้งานในประเทศไทย พร้อมจุดขายสำคัญคือ การรับประกันเครื่องยนต์ดีเซลนานถึง 1,000,000 กิโลเมตร หรือ 8 ปี ซึ่งนับเป็นหนึ่งในแพ็กเกจรับประกันที่ยาวนานที่สุดในตลาด
รุ่นพิเศษ TANK 300 Diesel Desert Storm Limited Edition ที่ผลิตจำกัดเพียง 300 คัน ยังช่วยสร้างกระแสและภาพลักษณ์เฉพาะตัวให้กับแบรนด์ โดยปัจจุบัน TANK 300 Diesel มียอดส่งมอบสะสมในประเทศไทยแล้วมากกว่า 6,000 คัน กลายเป็น SUV ดีเซลที่ได้รับความนิยมสูงสุดรุ่นหนึ่งของตลาด
GWM ORA Good Cat – รถไฟฟ้าไอคอนของคนรุ่นใหม่และครอบครัวยุค EV
GWM ORA Good Cat ยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดของตลาดไทย ด้วยยอดจองในงาน Motor Expo 2025 สูงถึง 1,566 คัน โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน
จุดแข็งสำคัญของ ORA Good Cat คือ แบตเตอรี่ที่ผลิตในประเทศไทย ซึ่งผ่านกระบวนการทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริโภคทั้งในด้านความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ช่วงเดือนธันวาคม 2568 ยังถือเป็นโค้งสุดท้ายของมาตรการสนับสนุน EV 3.0 ที่มอบสิทธิประโยชน์สูงสุดถึง 150,000 บาท ส่งผลให้ ORA Good Cat กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่ง และเป็น “รถคันแรก” ของใครหลายคน
WEY G9 – Luxury MPV แฟลกชิปสำหรับผู้นำและครอบครัวระดับไฮเอนด์
WEY G9 รถยนต์ MPV ระดับลักชัวรี่รุ่นแรกของแบรนด์ GWM WEY ได้รับการตอบรับเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริหารระดับสูง นักธุรกิจ และครอบครัวที่ต้องการรถ MPV ที่สะท้อนภาพลักษณ์และความหรูหรา
รุ่น Hi4 Ultra ทำยอดจองสูงสุดถึง 378 คัน โดดเด่นด้วยระบบไฮบริดขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ Hi4 ที่มอบทั้งสมรรถนะ ความนุ่มนวล และเสถียรภาพในการขับขี่ พร้อมความสะดวกสบายระดับแฟลกชิป เช่น เบาะแถวสองแบบ Zero-Gravity Seats และระยะทางการเดินทางมากกว่า 1,000 กิโลเมตร ต่อการเติมพลังหนึ่งครั้ง
ไลน์อัพ GWM ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ของตลาด
นอกเหนือจาก 3 รุ่นหลัก รถยนต์ GWM รุ่นอื่น ๆ ยังได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น GWM POER SAHAR Diesel กระบะพรีเมียมสายลุย, NEW GWM TANK 500 Diesel SUV ระดับพรีเมียมขนาดใหญ่ และ GWM HAVAL H6 PHEV รถปลั๊กอินไฮบริดยอดนิยม ซึ่งช่วยเสริมให้ GWM สามารถครอบคลุมตลาดรถยนต์ไทยได้อย่างรอบด้าน
ผู้บริหารย้ำชัด เดินหน้าลงทุนและพัฒนาระยะยาวในประเทศไทย
เวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) กล่าวว่า ความสำเร็จในงาน Motor Expo 2025 ไม่ได้สะท้อนเพียงยอดจอง แต่เป็นหลักฐานว่า GWM ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างมั่นคง ภายใต้กลยุทธ์ Multi-Powertrain ที่สามารถตอบโจทย์ตลาดรถยนต์ไทยได้มากถึง 85%
GWM ยังคงยึดหลัก User-Centric หรือการรับฟังเสียงของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และบริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายถัดไปของ GWM ในตลาดรถยนต์ไทย
ในระยะถัดไป GWM ตั้งเป้ายกระดับมาตรฐานบริการหลังการขายให้สูงยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าในทุกขั้นตอนการใช้งาน พร้อมมุ่งสู่การเป็น แบรนด์รถยนต์จีนอันดับ 1 ด้านบริการหลังการขายในประเทศไทย และเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคชาวไทยให้ความไว้วางใจสูงสุดในระยะยาว

