TOYOTA YARIS (TNGA) ทดสอบ Euro NCAP ปี 2025 ได้ 4 ดาวความปลอดภัยการชน วิเคราะห์คะแนนจริง จุดแข็ง–จุดที่ยังไม่สุด

Toyota Yaris (TNGA) ทดสอบ Euro NCAP ปี 2025 ได้ 4 ดาวความปลอดภัยการชน วิเคราะห์คะแนนจริง จุดแข็ง–จุดที่ยังไม่สุด
วันที่ 10 ธันวาคม 2025 Toyota Yaris รุ่นล่าสุดที่เข้ารับการทดสอบความปลอดภัยตามมาตรฐาน Euro NCAP ปี 2025 ได้คะแนนรวมระดับ 4 ดาว ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ “ดี” สำหรับรถยนต์นั่งขนาดเล็ก แต่ยังมีรายละเอียดเชิงเทคนิคบางจุดที่ทำให้คะแนนไม่ถึง 5 ดาว บทความนี้จะพาไปดูคะแนนทั้ง 4 หมวด พร้อมอธิบายแบบเข้าใจง่ายว่า ได้ดีตรงไหน และ ควรพิจารณาอะไรเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจซื้อ
สรุปคะแนน Euro NCAP Toyota Yaris (ปี 2025)
- Adult Occupant (ผู้โดยสารผู้ใหญ่): 72%
- Child Occupant (เด็ก): 84%
- Vulnerable Road Users – VRU (คนเดินถนน/จักรยาน/มอเตอร์ไซค์): 83%
- Safety Assist (ระบบช่วยขับและป้องกันอุบัติเหตุ): 72%
รุ่นที่ทดสอบ
- Toyota Yaris เครื่องยนต์ 1.5 Hybrid
- ตัวถังแฮทช์แบ็ก 5 ประตู
- น้ำหนักรถประมาณ 1,240 กก.
วิเคราะห์เชิงลึก ทำไม Toyota Yaris ได้ 4 ดาว
1) Adult Occupant 72% – โครงสร้างดี แต่เสียคะแนนจากรายละเอียดชนด้านหน้า
จุดแข็งของ Yaris คือ โครงสร้างห้องโดยสารยังคงรูปได้ดี ในการชนด้านหน้าและด้านข้าง แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานตัวถังที่แข็งแรง อย่างไรก็ตาม คะแนนในหมวดนี้ลดลงจากรายละเอียดเชิงลึกของการชนด้านหน้า ได้แก่
- แรงดันถุงลมนิรภัยด้านหน้าอยู่ในระดับ “พอใช้” ทำให้ศีรษะคนขับมีโอกาสเคลื่อนเข้าใกล้พวงมาลัยมากกว่าที่ควร
- การปกป้องช่วงขาคนขับ โดยเฉพาะต้นขาและขาส่วนล่าง ได้คะแนนต่ำกว่ามาตรฐาน เนื่องจากโครงสร้างแดชบอร์ดและพื้นที่ใต้คอนโซล
ในทางกลับกัน การชนด้านข้างทั้งแบบชนกับรถและชนเสา คะแนนอยู่ในระดับดีมาก ช่วยชดเชยคะแนนรวมของหมวดนี้ได้พอสมควร
2) Child Occupant 84% แข็งแรงสำหรับครอบครัว
หมวดความปลอดภัยเด็กถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Toyota Yaris คะแนนอยู่ในระดับสูง โดยมีอุปกรณ์พื้นฐานที่ตอบโจทย์การใช้งานครอบครัว เช่น
- จุดยึดเบาะเด็กแบบ ISOFIX / i-Size
- สวิตช์ตัดการทำงานถุงลมผู้โดยสารหน้า สำหรับติดตั้งคาร์ซีทแบบหันหลัง
อย่างไรก็ตาม ระบบเตือนเด็กถูกทิ้งในรถ (Child Presence Detection) ยังไม่ถือเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรถที่ใช้ทดสอบ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ปกครองควรตรวจสอบสเปกรถจริงในตลาดก่อนตัดสินใจ
3) VRU 83% AEB ทำงานดีมากกับจักรยานและมอเตอร์ไซค์
คะแนนในหมวดผู้ใช้ถนนที่เปราะบางอยู่ในระดับน่าพอใจ จุดเด่นคือระบบ AEB ที่สามารถตรวจจับและเบรกอัตโนมัติได้ดี โดยเฉพาะกับ
- จักรยาน
- รถจักรยานยนต์
อย่างไรก็ตาม การออกแบบตัวถังด้านหน้า โดยเฉพาะบริเวณ เสา A ยังค่อนข้างแข็ง ทำให้การปกป้องศีรษะคนเดินถนนในบางตำแหน่งได้คะแนนต่ำ นอกจากนี้ ระบบเตือนการเปิดประตูตัดหน้าจักรยาน (Cyclist Dooring Prevention) มีให้เลือกเฉพาะบางสเปก และไม่ถูกนับในรถทดสอบมาตรฐาน
4) Safety Assist 72% ระบบช่วยขับดี แต่ Driver Monitoring ยังไม่เต็มรูปแบบ
ระบบช่วยขับของ Toyota Yaris ทำคะแนนได้ดีในหัวใจหลัก เช่น
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ รถชนรถ (AEB Car-to-Car)
- ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน
แต่ประเด็นสำคัญที่ทำให้คะแนนไม่ถึงระดับสูงสุด คือ ระบบตรวจจับสถานะผู้ขับ ที่เป็นแบบอ้อม (เช่น ตรวจจากพฤติกรรมพวงมาลัย) ซึ่งยังไม่ผ่านเกณฑ์เข้มงวดของ Euro NCAP หากเป็นระบบตรวจจับตรงด้วยกล้อง (Direct Driver Monitoring) จะช่วยเพิ่มคะแนนในหมวดนี้ได้
สรุป Toyota Yaris Euro NCAP 2025 เหมาะกับใคร
- เหมาะกับ: ผู้ใช้รถเมือง ครอบครัวขนาดเล็ก ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเด็กและระบบ AEB
- ควรพิจารณาเพิ่ม: ผู้ที่ต้องการคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาวเต็ม ควรถามรายละเอียดออปชันเสริม เช่น ระบบตรวจจับผู้ขับแบบกล้อง และระบบความปลอดภัยสำหรับจักรยาน
สรุปสั้น Toyota Yaris เป็นรถเล็กที่ “ปลอดภัยจริงในชีวิตประจำวัน” แต่ยังมีพื้นที่ให้พัฒนาในรายละเอียดเชิงเทคนิค หากเพิ่มอุปกรณ์บางรายการในอนาคต โอกาสขยับสู่ 5 ดาวก็ไม่ไกลเกินเอื้อม


Euro NCAP 2025 คืออะไร ?
Euro NCAP 2025 คือกรอบมาตรฐานและแนวทางการทดสอบความปลอดภัยรถยนต์ขององค์กร Euro New Car Assessment Programme (Euro NCAP) ที่ใช้ในปี 2025 โดยมีการ ยกระดับเกณฑ์ให้เข้มงวดขึ้น เพื่อสะท้อนสภาพการใช้งานจริง เทคโนโลยีรถรุ่นใหม่ และพฤติกรรมผู้ใช้ถนนที่หลากหลายมากขึ้น
Euro NCAP คืออะไร (สรุปสั้น)
Euro NCAP เป็นองค์กรอิสระในยุโรป ทำหน้าที่ ทดสอบการชนและประเมินระบบความปลอดภัยรถยนต์ใหม่ จากผู้ผลิตต่าง ๆ แล้วให้คะแนนเป็น ดาว (0–5 ดาว) เพื่อให้ผู้บริโภคใช้เปรียบเทียบก่อนตัดสินใจซื้อ
สิ่งที่ “Euro NCAP 2025” แตกต่างจากเดิม
มาตรฐานปี 2025 ไม่ใช่แค่ชนแล้วดูถุงลม แต่เน้น “ป้องกันอุบัติเหตุก่อนเกิด” และ “ความปลอดภัยรอบด้าน” มากขึ้น โดยมีจุดเปลี่ยนสำคัญดังนี้
1) เน้นระบบช่วยขับขั้นสูง (ADAS) มากขึ้น
รถที่จะได้ 5 ดาว ต้องมีระบบช่วยขับที่ ทำงานได้จริงและแม่นยำ เช่น
-
AEB (เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ) ครอบคลุมรถ คนเดินถนน จักรยาน และมอเตอร์ไซค์
-
ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน (Lane Support)
-
ระบบเตือนและช่วยลดความเสี่ยงจากการชนในสถานการณ์ซับซ้อน
2) ให้ความสำคัญกับ “Driver Monitoring”
Euro NCAP 2025 ให้คะแนนสูงกับรถที่มี
-
ระบบตรวจจับผู้ขับแบบตรง (Direct Driver Monitoring) เช่น กล้องตรวจสายตา/ความง่วง
หากเป็นระบบตรวจจับแบบอ้อม (ดูจากพวงมาลัยหรือพฤติกรรม) อาจ ไม่ได้คะแนน หรือได้คะแนนต่ำ
3) คุ้มครองผู้ใช้ถนนที่เปราะบาง (VRU)
เพิ่มความเข้มงวดในการทดสอบกับ
-
คนเดินถนน
-
จักรยาน
-
รถจักรยานยนต์
รวมถึงการพิจารณารายละเอียดโครงสร้างด้านหน้า เช่น ฝากระโปรง กันชน และเสา A
4) ความปลอดภัยเด็กและผู้โดยสารรอบด้าน
-
การติดตั้ง ISOFIX / i-Size
-
การทำงานของถุงลมร่วมกับคาร์ซีท
-
เริ่มให้ความสำคัญกับระบบเตือนเด็กถูกทิ้งในรถ (Child Presence Detection)
คะแนน Euro NCAP คิดจากอะไรบ้าง
การให้ดาวในปี 2025 ยังอิง 4 หมวดหลัก แต่ “น้ำหนักและความเข้ม” เพิ่มขึ้น
-
Adult Occupant – ผู้โดยสารผู้ใหญ่
-
Child Occupant – เด็ก
-
Vulnerable Road Users (VRU) – คนเดินถนน/จักรยาน/มอเตอร์ไซค์
-
Safety Assist – ระบบช่วยขับและป้องกันอุบัติเหตุ
หมายเหตุ: รถบางรุ่นอาจ “โครงสร้างแข็งแรงมาก” แต่ได้ดาวไม่เต็ม เพราะระบบช่วยขับไม่ผ่านเกณฑ์ใหม่
ทำไมรถหลายรุ่นในปี 2025 ได้แค่ 4 ดาว
เหตุผลหลักที่พบได้บ่อย:
-
ไม่มี Driver Monitoring แบบกล้อง
-
AEB ทำงานได้ไม่ครอบคลุมทุกสถานการณ์
-
ระบบความปลอดภัยบางอย่างเป็น “ออปชัน” ไม่ใช่มาตรฐาน
-
โครงสร้างบางจุด (เช่น เสา A) ยังแข็งต่อศีรษะคนเดินถนน
ดังนั้น 4 ดาวในปี 2025 ไม่ได้แปลว่ารถไม่ปลอดภัย
แต่หมายถึง “ยังไม่ครบตามมาตรฐานสูงสุดใหม่ของ Euro NCAP”
