Urban Cruiser เข้ามาเติมเต็มไลน์อัป SUV ไฟฟ้า Toyota ในยุโรป

การเปิดตัว Urban Cruiser คือก้าวล่าสุดของ Toyota ในการเสริมความแข็งแกร่งของกลุ่ม SUV ไฟฟ้า โดยจะทำตลาดร่วมกับ bZ4X รุ่นปรับโฉมใหม่ และเตรียมต้อนรับรถรุ่นใหม่ในปี 2026 อย่าง Toyota C-HR+, bZ4X Touring และ Hilux BEV เพื่อให้ Toyota ครอบคลุม “ทุกเซกเมนต์สำคัญ” ของตลาด SUV ไฟฟ้า

แนวทางนี้สอดคล้องกับแนวคิด Multi-pathway ที่ Toyota เปิดทางเลือกพลังงานหลายรูปแบบให้ผู้ใช้ โดย Urban Cruiser (ไฟฟ้าล้วน) จะเข้ามาเป็นตัวเลือกควบคู่กับ Yaris Cross Hybrid สำหรับลูกค้า B-SUV ที่ต้องการทั้ง “ปล่อยไอเสียต่ำ” และ “ปล่อยไอเสียเป็นศูนย์” ตามรูปแบบการใช้งาน

รุ่นย่อยแบตเตอรี่และระยะทางวิ่ง (WLTP) เลือกได้ตามการใช้งานจริง

Urban Cruiser เปิดตัวใน 3 เวอร์ชันหลัก เพื่อให้ลูกค้าเลือกระยะทางและสมรรถนะที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์:

จุดเด่นสำคัญคือแบตเตอรี่ทั้งสองขนาดใช้เคมี LFP (Lithium Iron Phosphate) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ความปลอดภัย และความคุ้มค่า เหมาะกับการใช้งานระยะยาว

แพลตฟอร์ม BEV ใหม่โดยเฉพาะ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยและความนิ่งของตัวรถ

Urban Cruiser ถูกสร้างบน แพลตฟอร์ม BEV ใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อรถไฟฟ้าตั้งแต่ต้น โดยให้ความสำคัญกับ พื้นที่ห้องโดยสาร และ การจัดวางแบตเตอรี่ใต้พื้น เพื่อเพิ่มระยะทางวิ่งและเสถียรภาพการขับขี่

• โครงสร้างแข็งแรง และมีการใช้เหล็กกำลังสูงในจุดสำคัญเพื่อเพิ่มความแกร่งพร้อมลดน้ำหนัก
• จุดศูนย์ถ่วงต่ำ จากการวางแบตใต้พื้น ช่วยให้การทรงตัวนิ่ง เข้าโค้งมั่นใจ และคุมรถง่าย
• ปกป้องแบตเตอรี่ ด้วยเฟรมรอบนอกและจุดยึดซับแรงกระแทกด้านข้าง ลดความเสี่ยงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
• ปรับอากาศพลศาสตร์ ด้วยแผ่นปิดใต้ท้อง (aero covers) และรูปทรงแบตที่แบน/เตี้ย ช่วยลดแรงต้านอากาศ
• ลดเสียง NVH ด้วยกระจกกันเสียง แผงกันเสียงรอบตัวรถ และการออกแบบจุดยึด eAxle เพื่อลดแรงสั่น

ขุมพลังไฟฟ้าใหม่ (eAxle) และสมรรถนะ เร่งลื่น ตอบสนองไว

Urban Cruiser ใช้ชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบ eAxle ที่รวมมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์ และชุดเกียร์ทดไว้ในหน่วยเดียว ช่วยประหยัดพื้นที่และลดการรุกล้ำห้องโดยสาร พร้อมการออกแบบให้ชุดมอเตอร์มีขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงกำลังได้เต็ม

ตารางสมรรถนะ (ตามข้อมูลที่ประกาศ)

อีกจุดที่น่าสนใจคือ ลากจูงได้สูงสุด 750 กก. (มีเบรก) สะท้อนแนวคิด “SUV ใช้งานจริง” มากกว่ารถเมืองทั่วไป

ชาร์จเร็วและจัดการอุณหภูมิแบต เน้นใช้งานได้ในทุกสภาพอากาศ

Toyota ใส่มาตรการเพื่อเพิ่มระยะทางและคุมประสิทธิภาพให้เสถียร ทั้งในอากาศหนาวจัด/ร้อนจัดหรือการขับโหลดสูง เช่น การวิ่งความเร็วสูงต่อเนื่องและการชาร์จเร็วซ้ำ ๆ

• DC Fast Charge 10–80% ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
• AC 3 เฟส 11 kW ชาร์จ 15–100% ราว 6 ชั่วโมง
• AC 7 kW (เฟสเดียว) ชาร์จ 15–100% ราว 9.5 ชั่วโมง
• มีโหมด Battery Pre-conditioning อุ่น/ปรับอุณหภูมิแบตก่อนชาร์จได้ ทั้งจากในรถและผ่านแอป
• ระบบแอร์ Heat Pump เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ช่วยประหยัดพลังงาน
• มีโหมด My Room ใช้แอร์และเครื่องเสียงระหว่างชาร์จได้

โหมดการขับขี่ ปรับคาแรกเตอร์ได้หลายแบบ พร้อม Pedal mode

ผู้ขับสามารถเลือกโหมดได้ตามสถานการณ์ โดยมี Eco / Normal / Sport และ Pedal mode ที่ช่วยให้ขับแบบใช้คันเร่งเป็นหลัก (ใกล้เคียง one-pedal) ด้วยระดับแรงหน่วงให้เลือก 3 ระดับ ซึ่งยังช่วยเพิ่มการชาร์จไฟกลับจากการชะลอความเร็ว

สำหรับรุ่น FWD จะมี Snow mode เพื่อช่วยลดอาการล้อฟรีบนพื้นลื่น

AWD ไฟฟ้า “จริงจัง” ตาม DNA SUV: มีโหมด Auto และ Trail

Urban Cruiser เวอร์ชัน AWD เพิ่มมอเตอร์ด้านหลัง 48 kW เพื่อยกระดับความมั่นใจบนทางลูกรัง/ลื่น ระบบสามารถควบคุมการกระจายแรงบิดหน้า-หลังได้แม่นยำและตอบสนองไว

• Auto mode ปรับการทำงานตามสภาพถนนอัตโนมัติ
• Trail mode ทำงานคล้าย LSD ด้วยการเบรกที่ล้อที่ลื่นและส่งแรงบิดไปยังล้อที่ยึดเกาะได้ดี
• มี Hill Hold และ Hill Descent ช่วยบนทางชัน
• Active Cornering Control ลดอาการหน้าดื้อโค้งด้วยการเบรกที่ล้อด้านใน

ช่วงล่างและเบรก: เน้นนุ่มนิ่งแต่ควบคุมง่าย

ช่วงล่างถูกปรับจูนให้บาลานซ์ระหว่าง ความสบาย ความนิ่ง และความคล่อง โดยใช้ MacPherson strut ด้านหน้า และ Multi-link ด้านหลัง พร้อมชิ้นส่วนความแข็งแรงสูงเพื่อลดแรงสั่นและเพิ่มการยึดเกาะ

ระบบเบรกเป็น ดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน 4 ล้อ พร้อม เบรกมือไฟฟ้า และฟังก์ชัน Brake Hold

ดีไซน์ภายนอก “Urban Tech” + มิติตัวถังใหญ่กว่า Yaris Cross

Urban Cruiser มาในภาพลักษณ์ SUV ชัดเจน ตั้งแต่ชิ้นตกแต่งซุ้มล้อ/ชายล่าง ไปจนถึงกันชนที่เน้นความบึกบึน ด้านหน้ามาพร้อมธีม Hammerhead เอกลักษณ์ Toyota และไฟหน้าดีไซน์เพรียว ส่วนท้ายใช้ไฟพาดยาวเต็มความกว้าง เสริมลุคกว้างและมั่นคง

มิติตัวถัง (เทียบกับ Yaris Cross)

แม้ฐานล้อยาวขึ้น แต่ยังคงความคล่องด้วยรัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.2 เมตร เหมาะกับการใช้งานในเมืองและที่จอดแคบ

ภายใน กว้างแบบรถใหญ่ ด้วยเบาะหลังเลื่อน + พับ 40:20:40

Toyota ให้ความสำคัญกับ “ความโปร่งและความยืดหยุ่น” เป็นหลัก แผงคอนโซลหน้าวางต่ำ เพิ่มมุมมองโล่ง และจัดวางสวิตช์สำคัญให้อยู่ใกล้มือผู้ขับ

จุดขายเรื่องพื้นที่ใช้สอย

• ฐานล้อ 2,700 มม. ช่วยให้ห้องโดยสารกว้างเด่นในคลาส
• เบาะหลังเลื่อนได้ ปรับระยะพื้นที่ระหว่างผู้โดยสารหน้า-หลังได้ราว 690–850 มม.
• เบาะหลังพับ 40:20:40 และปรับเอนได้
• ความจุสัมภาระ: 310 ลิตร (เลื่อนเบาะไปหน้า), 244 ลิตร (เลื่อนเบาะไปหลัง), และสูงสุด 566 ลิตร (พับเบาะ)

รุ่น High มีออปชันเพิ่มความสบาย เช่น Cold Pack (กระจกมองข้างอุ่น, ที่ปัดน้ำฝน/ไล่ฝ้า, เบาะหน้าอุ่น, พวงมาลัยอุ่น และช่องลมไปยังผู้โดยสารหลัง)

หน้าจอคู่ “รวมเป็นชิ้นเดียว” + เชื่อมต่อ MyToyota

Urban Cruiser ยกระดับประสบการณ์ดิจิทัลด้วยการรวม จอเรือนไมล์ 10.25 นิ้ว และ จอมัลติมีเดีย 10.1 นิ้ว ให้เป็นชุดเดียว ปรับแต่งรูปแบบการแสดงผลได้ตามความถนัด

• รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
• มีแท่นชาร์จไร้สาย (ตามเกรดรุ่น)
• แอป MyToyota ใช้ตั้งเวลาชาร์จ, เช็กสถานะแบต, และสั่งเปิดแอร์ล่วงหน้าได้

ความปลอดภัยและช่วยขับ ให้มา “เกินคลาส” ตามแนวคิด Toyota

Urban Cruiser ติดตั้งระบบช่วยขับและความปลอดภัยเชิงรุกแบบจัดเต็มในทุกเวอร์ชัน เพื่อยกระดับความปลอดภัยในชีวิตจริง ทั้งในเมืองและการเดินทางไกล

• Brake Support System ตรวจจับความเสี่ยงชนกับรถ จักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินเท้า พร้อมเตือนและช่วยเบรก
• Adaptive Cruise Control ทำงานร่วมกับ Lane Keep Assist ช่วยขับให้ผ่อนคลายขึ้น
• Traffic Sign Recognition แสดงป้ายจำกัดความเร็วและคำเตือนหลักบนหน้าจอ
• Driver Monitoring System ตรวจจับอาการเหนื่อยล้า/เสียสมาธิ พร้อมเตือนให้พัก
• Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert เพิ่มความปลอดภัยเวลาเปลี่ยนเลนและถอยออกจากช่องจอด
• รุ่น High เพิ่ม กล้อง 360 องศา ช่วยมองรอบคันและขับผ่านทางขรุขระได้มั่นใจขึ้น

นอกจากนี้ โครงสร้างตัวถังยังออกแบบให้ปกป้องทั้งผู้โดยสารและชิ้นส่วนแรงดันสูง โดยมีโซนดูดซับแรงกระแทกด้านหน้า/ท้าย และจุดยึดซับแรงด้านข้างเพื่อปกป้องแบตเตอรี่

การรับประกันแบตเตอรี่: เน้นความอุ่นใจระยะยาว

Toyota สื่อสารความมั่นใจเรื่องคุณภาพแบตเตอรี่อย่างชัดเจน โดยรับประกันว่าแบตเตอรี่จะคงความจุอย่างน้อย 70% ภายในกรอบระยะเวลาและเงื่อนไขที่กำหนด ผ่านการรับประกันตัวรถและ Battery Care Program ที่ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพแบตเตอรี่ประจำปี

• รับประกันคงความจุขั้นต่ำ 70% สูงสุด 10 ปี
• หรือระยะทางสูงสุด 1,000,000 กม. (ตามเงื่อนไขโปรแกรมและประเทศ)

สรุป Urban Cruiser คือ B-SUV ไฟฟ้าที่ “ทำได้ครบ” ทั้งระยะทาง พื้นที่ และภาพลักษณ์ SUV

ด้วยแบตเตอรี่ LFP 2 ขนาดให้เลือก, ระบบขับเคลื่อนทั้ง FWD และ AWD, ระยะทางสูงสุด 426 กม. (WLTP), การชาร์จเร็ว 10–80% ราว 45 นาที และห้องโดยสารที่ยืดหยุ่นด้วยเบาะหลังเลื่อน Urban Cruiser ถูกวางตัวให้เป็น “B-SUV ไฟฟ้าใช้งานจริง” ที่ตอบโจทย์คนเมืองและคนเดินทางได้ในคันเดียว พร้อมเป็นกำลังสำคัญในการขยายตลาด SUV ไฟฟ้าของ Toyota ในยุโรป

FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Toyota Urban Cruiser (EV)

Urban Cruiser มีแบตเตอรี่กี่ขนาด?

• มี 2 ขนาด คือ 49 kWh และ 61 kWh โดยรุ่น 49 kWh มีเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)

Urban Cruiser วิ่งได้ไกลสุดเท่าไร?

• ระยะทางสูงสุดตามมาตรฐาน WLTP คือ 426 กม. (รุ่น FWD แบต 61 kWh)

ชาร์จเร็ว DC 10–80% ใช้เวลากี่นาที?

• ประมาณ 45 นาที (ตามข้อมูลที่ประกาศ)

Urban Cruiser มีรุ่นขับสี่ไหม?

• มีรุ่น AWD ที่เพิ่มมอเตอร์หลัง 48 kW และมีโหมด Auto/Trail สำหรับถนนลื่นและทางขรุขระ

รับประกันแบตเตอรี่เป็นอย่างไร?

• Toyota ระบุการรับประกันให้แบตเตอรี่คงความจุอย่างน้อย 70% สูงสุด 10 ปี หรือ 1,000,000 กม. (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและการตรวจสุขภาพแบตเตอรี่ประจำปี)