เปิดขายญี่ปุ่น 557,000 – 999,000 บาท Nissan Serena ไมเนอร์เชนจ์ 2026

Nissan Serena ไมเนอร์เชนจ์ 2026 เปิดขายญี่ปุ่นกลางก.พ. ราคา 2.78–4.99 ล้านเยน อัปเดตดีไซน์ใหม่ + Google Built-in
นิสสันประกาศปรับโฉม Nissan Serena แบบไมเนอร์เชนจ์ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นช่วง กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2026 พร้อมเคาะราคา 2,785,200–4,998,400 เยน ครอบคลุมรุ่นเบนซิน 2.0, e-POWER และ e-4ORCE รวมถึงเปิดตัวทางเลือกใหม่อย่าง AUTECH LINE และรุ่นใช้งานอเนกประสงค์ Multi-Box
บทความนี้คำนวณราคา “เทียบเงินบาทไทย” ตามเรทที่คุณให้ไว้: 1 เยน = 0.20 บาท (หมายเหตุ: เป็นการแปลงเพื่ออ้างอิงเท่านั้น ไม่ใช่อัตราแลกเปลี่ยนจริง ณ วันใดวันหนึ่ง)
ไฮไลต์ Serena ไมเนอร์เชนจ์: เน้นความพรีเมียมขึ้น ชัดขึ้นทั้งหน้าตาและเทคโนโลยี
- รีเฟรชดีไซน์ภายนอก ในรุ่นเด่น LUXION และ Highway Star V ทั้งกระจังหน้าและล้ออัลลอยลายใหม่
- LUXION เพิ่มอินทีเรียร์เฉพาะรุ่น และใช้วัสดุเบาะยุคใหม่ “Tailor Fit” เน้นสัมผัสนุ่มและความโอบรับ
- เพิ่มสีตัวถังใหม่ 3 สี ให้ครบทุกเกรด: Moonbow Blue, Aqua Mint, Deep Ocean Blue
- NissanConnect รุ่นใหม่ (ออปชันโรงงาน) + Google Built-in ใช้งาน Google Maps/Assistant/Play ได้ในรถ
- อัปเกรด Intelligent Around View Monitor เพิ่มมุมมองใหม่แบบ 3D และช่วยลดจุดอับในทางแคบ/ทางแยก
- เพิ่มฟังก์ชันตอบโจทย์ครอบครัว เช่น “จดจำโหมด e-Pedal Step ล่าสุด” และ “เตือนตรวจเบาะหลัง”
ดีไซน์ใหม่แยกคาแรกเตอร์ชัด LUXION หรูขึ้น / Highway Star V สปอร์ตขึ้น
LUXION: โทนพรีเมียม เนี๊ยบขึ้นทุกมุม
รุ่น LUXION ได้งานออกแบบด้านหน้าใหม่ให้ดู “ผู้ใหญ่และหรู” มากขึ้น โดยเฉพาะกระจังหน้าและล้ออัลลอย ขณะที่ภายในให้ความสำคัญกับวัสดุสัมผัสและความสบายแบบยาว ๆ ด้วยเบาะ “Tailor Fit” ซึ่งนิสสันระบุว่าให้ความรู้สึกนุ่ม ละมุน และโอบรับร่างกายเหมาะกับการใช้งานครอบครัว/เดินทางไกล
Highway Star V: สปอร์ต ดุดัน และเน้น “ความมีตัวตน” บนถนน
ฝั่ง Highway Star V เน้นอารมณ์สปอร์ตและความโดดเด่นด้านภาพลักษณ์มากขึ้น ดีไซน์ภายนอกถูกออกแบบให้ “ดูแน่น” และสร้างความมั่นใจเวลาขับใช้งานจริง โดยยังคงจุดขายของ Serena เรื่องพื้นที่ใช้สอยและความเป็นมินิแวนสำหรับครอบครัวเอาไว้ครบ

NissanConnect ใหม่พร้อม Google Built-in รถเชื่อมต่อได้ลื่นกว่าเดิม
อีกจุดเปลี่ยนสำคัญคือ Serena ติดตั้ง NissanConnect อินโฟเทนเมนต์ (ออปชันจากโรงงาน) เป็นครั้งแรก โดยจุดขายหลักคือการ “มี Google อยู่ในรถ” รองรับ:
- Google Maps นำทางและค้นหาสถานที่ได้สะดวก
- Google Assistant สั่งงานด้วยเสียง (ตามฟังก์ชันที่รองรับในระบบ)
- Google Play เติมแอป/ความบันเทิง (ตามที่ระบบอนุญาต)
นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันช่วยลด “ความลืม” ในชีวิตประจำวัน เช่น แจ้งเตือนลืมล็อกประตู, ลืมปิดไฟฉุกเฉิน, และ ลืมปิดกระจก ผ่านสมาร์ตโฟน รวมถึงบริการใหม่อย่าง Remote Photo Shot สำหรับช่วยดูแล/เฝ้ารถจากระยะไกล และมีออปชันจอหลังสำหรับผู้โดยสารตอนหลังขนาด 15.6 นิ้ว (ออปชันจากดีลเลอร์)
ความปลอดภัยและความสบายที่ “คิดเผื่อครอบครัว” มากขึ้น
- e-Pedal Step จำโหมดล่าสุด ลดขั้นตอนการต้องกดสวิตช์ตั้งค่าใหม่ทุกครั้งก่อนเริ่มขับ
เหมาะกับคนที่ใช้งาน e-Pedal เป็นประจำ - Rear Seat Reminder เมื่อดับเครื่อง จะมีข้อความให้ “ตรวจเบาะหลัง” พร้อมเสียงเตือน
ช่วยลดโอกาสลืมสัมภาระหรือเผลอมองข้ามผู้โดยสารตัวเล็กในสถานการณ์เร่งรีบ
Intelligent Around View Monitor ใหม่ มองรอบคันเข้าใจง่ายขึ้น โดยเฉพาะในที่แคบ Nissan Serena ไมเนอร์เชนจ์เพิ่มความสามารถให้ระบบ Intelligent Around View Monitor ด้วยโหมดการแสดงผลใหม่ 3 รูปแบบ เพื่อช่วยในสถานการณ์จอดรถ ทางแคบ และทางแยกที่มีจุดอับ
- 3D View แสดงภาพรอบคันแบบสามมิติ ช่วย “กะระยะ” ได้เป็นธรรมชาติ
- Front Wide View ช่วยดูซ้าย-ขวาด้านหน้าที่อาจเป็นมุมอับในทางแยก
- Side Mirror Closed View แสดงภาพด้านข้างได้แม้พับกระจก เหมาะกับการจอดในช่องแคบ
ราคา Nissan Serena 2026 (ญี่ปุ่น) พร้อมแปลงเป็นเงินบาท (1 เยน = 0.20 บาท)
รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร (CVT)
- X (FF / 8 ที่นั่ง): 2,785,200 เยน ≈ 557,040 บาท
- XV Package (FF): 3,043,700 เยน ≈ 608,740 บาท
- Highway Star V (FF): 3,228,500 เยน ≈ 645,700 บาท
- X (4WD): 2,990,900 เยน ≈ 598,180 บาท
- XV Package (4WD): 3,249,400 เยน ≈ 649,880 บาท
- Highway Star V (4WD): 3,494,700 เยน ≈ 698,940 บาท
รุ่น e-POWER (เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร + มอเตอร์)
- e-POWER X (FF): 3,293,400 เยน ≈ 658,680 บาท
- e-POWER XV Package (FF): 3,583,800 เยน ≈ 716,760 บาท
- e-POWER Highway Star V (FF): 3,775,200 เยน ≈ 755,040 บาท
- e-POWER LUXION (7 ที่นั่ง): 4,998,400 เยน ≈ 999,680 บาท
รุ่น e-4ORCE (ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
- e-4ORCE X (4WD): 3,599,200 เยน ≈ 719,840 บาท
- e-4ORCE XV Package (4WD): 3,889,600 เยน ≈ 777,920 บาท
- e-4ORCE Highway Star V (4WD): 4,141,500 เยน ≈ 828,300 บาท
หากมองตาม “ราคาเทียบเงินบาทไทย” ด้วยเรท 0.20 บาท/เยน จะเห็นว่า ตัวท็อป e-POWER LUXION แตะระดับเกือบ 1,000,000 บาท ซึ่งสะท้อนภาพการวางตำแหน่งให้เป็นมินิแวนที่ “พรีเมียมขึ้น” ชัดเจน
โดยเฉพาะเมื่อรวมงานออกแบบใหม่และชุดเทคโนโลยี Google Built-in ที่เป็นจุดขายหลักของรอบนี้
AUTECH LINE และ Multi-Box: เพิ่มทางเลือก “แต่งหล่อ” และ “สายใช้งานจริง”
Serena AUTECH LINE
NMC (Nissan Motorsports & Customizing) ประกาศเพิ่มรุ่นใหม่ AUTECH LINE เพื่อกลุ่มลูกค้าที่อยากได้ความแตกต่างแบบ “มีรสนิยม แต่ไม่ต้องจัดเต็มเกินไป” จุดเด่นคือโทนตกแต่งเมทัลลิกและความเข้มขอ รายละเอียด เช่น กระจังหน้าโครมเข้มและล้อเฉพาะรุ่น รวมถึงขยายการใช้เบาะ Tailor Fit ไปยังเกรด 8 ที่นั่งด้วย
- ราคา AUTECH LINE: 3,338,500–4,251,500 เยน ≈ 667,700–850,300 บาท
Serena Multi-Box
ส่วน Multi-Box คือแนวคิด “มินิแวนสายอเนกประสงค์” ที่เน้นพื้นที่เก็บของและการใช้งานจริง ด้วยผังเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง และกล่องเก็บของขนาดใหญ่ที่สามารถเป็นได้ทั้งโต๊ะและม้านั่ง เปิดได้ทั้งด้านบนและด้านข้าง มีแผงกั้นภายในเพื่อจัดระเบียบสัมภาระ และยังมีออปชันเบาะนอนวัสดุ CORDURA ที่ทน/กันน้ำ รองรับการใช้งานแบบรถแคมป์ได้
- ราคา Multi-Box: 3,572,800–4,735,500 เยน ≈ 714,560–947,100 บาท
สรุป Serena ไมเนอร์เชนจ์รอบนี้ “อัปเกรดให้ครบ” ทั้งภาพลักษณ์และประสบการณ์ใช้งาน
การไมเนอร์เชนจ์ของ Nissan Serena ครั้งนี้ไม่ได้หยุดแค่เปลี่ยนหน้าใหม่ แต่เป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งานให้ทันยุค ทั้งการเชื่อมต่อด้วย Google Built-in, ระบบมองรอบคันที่เข้าใจง่ายขึ้นแบบ 3D, ฟังก์ชันลดความยุ่งยากอย่างการ จำโหมด e-Pedal และการออกแบบที่แยกคาแรกเตอร์ชัดเจนระหว่าง LUXION (พรีเมียม) กับ Highway Star V (สปอร์ต) พร้อมทางเลือกใหม่ AUTECH LINE และ Multi-Box ที่ตอบโจทย์คนละสายได้ตรงจุด

Full SPEC SERENA MY2026
ขนาดตัวถัง Nissan Serena (C28) แยกตามรุ่น
ขนาดตัวถังภายนอก
- ความยาว (Length):
4,690 มม. (ตัวถังปกติ)
4,765 มม. (รุ่น HighWay Star / LUXION กันชนยาว) - ความกว้าง (Width):
1,695 มม. (ตัวถังปกติ)
1,715 มม. (รุ่น HighWay Star / LUXION) - ความสูง (Height):
1,870 มม. (2WD)
1,885 มม. (e-4ORCE / บางรุ่น 4WD)
1,895 มม. (เบนซิน 4WD) - ฐานล้อ (Wheelbase): 2,870 มม.
- ระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground Clearance):
135 มม. (2WD / e-POWER)
150 มม. (4WD / e-4ORCE)
มิติช่วงล้อ (Track Width)
- ล้อหน้า: 1,475 มม.
- ล้อหลัง:
1,485 มม. (2WD)
1,475 มม. (4WD บางรุ่น)
ขนาดห้องโดยสาร (Interior Dimensions)
- ความยาวภายใน:
3,145 มม.
(บางรุ่นที่ติดตั้ง NissanConnect ระบุ 3,135 มม.) - ความกว้างภายใน: 1,545 มม.
- ความสูงภายใน: 1,400 มม.
เครื่องยนต์ทั้งหมดของ Nissan Serena (ญี่ปุ่น)
1) เบนซิน 2.0 ลิตร (MR20DD) + CVT
- รหัสเครื่องยนต์: MR20DD
- ประเภท: DOHC เบนซิน 4 สูบเรียง
- ความจุ: 1.997 ลิตร (1,997 ซีซี)
- กำลังสูงสุด: 110 kW (150 PS) ที่ 6,000 rpm
- แรงบิดสูงสุด: 200 N·m ที่ 4,400 rpm
- ระบบส่งกำลัง: Xtronic CVT
- ระบบขับเคลื่อน: 2WD / 4WD (Auto Control 4WD)
- ความจุถังน้ำมัน: 2WD 54 ลิตร / 4WD 55 ลิตร
- 2WD: เฉลี่ย 13.0 km/L (เมือง 9.5 / นอกเมือง 13.6 / ทางด่วน 14.9)
- 4WD (Auto Control 4WD): เฉลี่ย 11.6 km/L (เมือง 8.6 / นอกเมือง 11.9 / ทางด่วน 13.4)
2) e-POWER (2WD) : เครื่องปั่นไฟ + มอเตอร์ไฟฟ้าขับล้อ
- เครื่องยนต์ปั่นไฟ: HR14DDe
- ประเภท: DOHC เบนซิน 3 สูบเรียง
- ความจุ: 1.433 ลิตร (1,433 ซีซี)
- กำลังเครื่องยนต์สูงสุด: 72 kW (98 PS) ที่ 5,600 rpm
- แรงบิดเครื่องยนต์สูงสุด: 123 N·m ที่ 5,600 rpm
- มอเตอร์หน้า: EM57 (มอเตอร์ซิงโครนัส AC)
- กำลังมอเตอร์สูงสุด: 120 kW (163 PS)
- แรงบิดมอเตอร์สูงสุด: 315 N·m
- แบตเตอรี่: Lithium-ion
- ความจุถังน้ำมัน: 52 ลิตร
- 2WD: เฉลี่ย 20.3 km/L (เมือง 21.3 / นอกเมือง 21.3 / ทางด่วน 19.3)
3) e-4ORCE (4WD) : e-POWER + มอเตอร์หลัง (ขับสี่ไฟฟ้า)
- เครื่องยนต์ปั่นไฟ: HR14DDe (พื้นฐานเดียวกับ e-POWER)
- มอเตอร์หน้า: EM57 (163 PS / 315 N·m)
- มอเตอร์หลัง: MM48 (มอเตอร์ซิงโครนัส AC)
- กำลังมอเตอร์หลังสูงสุด: 60 kW (82 PS)
- แรงบิดมอเตอร์หลังสูงสุด: 195 N·m
- แบตเตอรี่: Lithium-ion
- ความจุถังน้ำมัน: 52 ลิตร
- 4WD (e-4ORCE): เฉลี่ย 16.8 km/L (เมือง 17.5 / นอกเมือง 17.5 / ทางด่วน 16.1)
ช่วงล่าง Nissan Serena (C28) แยกตามรุ่นขับเคลื่อน
ช่วงล่างหน้า (ทุกรุ่น)
- แบบ: สตรัท (Strut)
ช่วงล่างหลัง (แตกต่างตามระบบขับเคลื่อน)
- รุ่น 2WD (ทั้งเบนซิน MR20DD และ e-POWER 2WD): ทอร์ชั่นบีม (Torsion Beam)
- รุ่น 4WD เบนซิน (Auto Control 4WD): มัลติลิงก์ (Multi-link)
- รุ่น e-4ORCE (4WD ไฟฟ้า): ทอร์ชั่นบีม (Torsion Beam)
การออกแบบภายนอก Nissan Serena (C28 ไมเนอร์เชนจ์)
แนวคิดการออกแบบ
Nissan Serena รุ่น C28 ไมเนอร์เชนจ์ ถูกยกระดับภาพลักษณ์จาก “มินิแวนครอบครัว” ให้ดู พรีเมียม ทันสมัย และมีตัวตนชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในเกรด Highway Star และ LUXION ที่เน้นความหรูหราและเทคโนโลยี ควบคู่กับการใช้งานจริงของครอบครัว
ด้านหน้า (Front Design)
- กระจังหน้าดีไซน์ใหม่
- จากเดิมแนวนอน → ปรับเป็น ลายแนวตั้ง/เฉียง เพิ่มความหรูและพรีเมียม
- เกรด LUXION ใช้กระจังหน้าพิเศษ พร้อมโลโก้เฉพาะรุ่น
- ไฟหน้า LED เต็มระบบ
- ไฟหน้า LED แบบ High / Low Beam
- Signature LED Position Lamp เพิ่มเอกลักษณ์เวลากลางคืน
- รองรับ Adaptive LED Headlight (ออปชัน)
- กันชนหน้าทรงใหม่
- รุ่น Highway Star และ LUXION ใช้กันชนสปอร์ตพร้อมคิ้วโครเมียม
- ช่องรับอากาศดีไซน์กว้าง เสริมภาพลักษณ์มั่นคง
ด้านข้าง (Side Design)
- สัดส่วนตัวถังทรงกล่อง (Boxy Design)
- หลังคาสูง เสา A–D ตั้งตรง เน้นพื้นที่ห้องโดยสาร
- ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองฝั่ง (พร้อมระบบแฮนด์ฟรีในบางรุ่น)
- กระจกบานใหญ่รอบคัน
- เพิ่มทัศนวิสัยรอบคัน
- กระจก Privacy Glass สำหรับประตูสไลด์และด้านหลัง
- ล้ออัลลอย 16 นิ้ว
- ลายเฉพาะรุ่น Highway Star
- รุ่น LUXION ใช้ล้อดีไซน์เฉพาะ เสริมความพรีเมียม
ด้านหลัง (Rear Design)
- ไฟท้าย LED แนวตั้ง
- ออกแบบให้สอดรับกับทรงตัวถัง
- มองเห็นชัดเจน เพิ่มความปลอดภัย
- ฝาท้ายแบบ Dual Back Door
- เปิดได้ 2 รูปแบบ: เปิดเต็มบาน หรือเปิดเฉพาะกระจก
- สะดวกในพื้นที่จำกัดหรือจอดชิดกำแพง
- คิ้วตกแต่งโครเมียม
- เสริมความหรู โดยเฉพาะรุ่น Highway Star และ LUXION
สีตัวถังภายนอก
- มีการเพิ่ม สีใหม่ 3 สี ในการไมเนอร์เชนจ์
- ครอบคลุมทั้งโทน
- สีสุภาพสำหรับครอบครัว
- สีพรีเมียม/สปอร์ต สำหรับรุ่นบน
การออกแบบภายในห้องโดยสาร Nissan Serena (C28 ไมเนอร์เชนจ์)
แนวคิดการออกแบบห้องโดยสาร
ห้องโดยสารของ Nissan Serena C28 ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Living Space for Family” ให้ความรู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่นเคลื่อนที่ เน้น โปร่ง โล่ง ใช้งานง่าย และปลอดภัย พร้อมยกระดับความพรีเมียมชัดเจนในรุ่น Highway Star และ LUXION
แดชบอร์ด & ตำแหน่งผู้ขับขี่
- แดชบอร์ดทรงเรียบแนวนอน
- ลดเส้นสายซับซ้อน เพิ่มความโปร่งทางสายตา
- วัสดุ Soft-touch ผสมผ้าหรือหนังสังเคราะห์ในรุ่นสูง
- หน้าจอผู้ขับขี่แบบดิจิทัล
- หน้าจอมาตรวัดดิจิทัล 7 นิ้ว
- รุ่นบนใช้จอ 12.3 นิ้ว แสดงข้อมูลการขับขี่ครบถ้วน
- คันเกียร์ไฟฟ้าแบบปุ่ม (Electric Shift)
- ลดพื้นที่เกียร์แบบเดิม
- เพิ่มพื้นที่วางของบริเวณคอนโซลกลาง
ระบบอินโฟเทนเมนต์ & เทคโนโลยีภายใน
- หน้าจอกลาง NissanConnect
- ขนาด 12.3 นิ้ว
- รองรับ Google Built-in (Maps, Assistant, Play)
- รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
- ระบบแสดงผลเสริม
- Head-Up Display (รุ่น LUXION)
- Intelligent Around View Monitor แบบ 3D
- Intelligent Room Mirror แสดงภาพจากกล้องหลัง
การจัดวางเบาะนั่ง & พื้นที่โดยสาร
- รองรับผู้โดยสาร 7–8 ที่นั่ง
- เบาะแถวที่ 2 แบบ Ultra-Long Slide
- เลื่อนหน้า–หลังได้ยาวเป็นพิเศษ
- ปรับเลื่อนซ้าย–ขวาได้ เพิ่มความยืดหยุ่น
- รุ่น 4WD / LUXION ใช้ Captain Seat เพิ่มความหรู
- เบาะแถวที่ 3 แบบ Smart Up Third Seat
- พับเก็บต่ำลงพื้น เพิ่มพื้นที่สัมภาระ
- ยังคงพื้นที่ทางเดินสะดวก
วัสดุภายใน & ความพรีเมียม
- วัสดุเบาะ
- ผ้าคุณภาพสูง / ผ้ากันน้ำ (Neo-Sofeel®)
- หนังสังเคราะห์ผสมผ้าในรุ่นบน
- ลวดลายตกแต่ง
- ลายไม้สีดำ / น้ำตาล (ขึ้นกับเกรด)
- LUXION ใช้ลายไม้เฉพาะ พร้อมโทนสีเข้มพรีเมียม
ฟังก์ชันเพื่อครอบครัว & การใช้งานจริง
- โต๊ะพับส่วนตัวทุกแถว พร้อมที่วางแก้ว
- ช่องเก็บของรอบคันมากกว่า 10 จุด
- พอร์ต USB Type-C สูงสุด 6 ตำแหน่ง
- ปลั๊กไฟ AC 100V (1,500W) สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า
- ระบบปรับอากาศแยกอิสระ หน้า–หลัง–โซนผู้โดยสาร
บรรยากาศห้องโดยสารโดยรวม
- โปร่ง โล่ง จากหลังคาสูงและกระจกบานใหญ่
- เงียบ นุ่ม โดยเฉพาะรุ่น e-POWER / e-4ORCE
- เหมาะทั้งใช้งานครอบครัว เดินทางไกล และรับ–ส่งเด็ก
ระบบความปลอดภัย Nissan Serena (C28 ไมเนอร์เชนจ์)
แนวคิดด้านความปลอดภัย
Nissan Serena C28 ถูกพัฒนาให้เป็นมินิแวนครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับ ความปลอดภัยเชิงป้องกัน (Preventive Safety) และ ความปลอดภัยขณะเกิดเหตุ (Passive Safety) โดยติดตั้งระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง Nissan Safety Shield มาให้เป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
ระบบช่วยขับขี่ขั้นสูง (ADAS)
- ProPILOT
- ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control)
- รักษารถให้อยู่กลางเลน ลดความเหนื่อยล้าในการเดินทางไกล
- ทำงานร่วมกับพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
- ProPILOT 2.0 (เฉพาะรุ่น LUXION)
- รองรับการขับขี่แบบ Hands-off บนทางด่วนที่รองรับ
- ระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ
- แสดงข้อมูลผ่าน Head-Up Display
- ProPILOT Parking / Remote Parking
- ช่วยจอดอัตโนมัติทั้งแนวตั้งและแนวขนาน
- สามารถสั่งจอดจากภายนอกรถผ่านรีโมต (บางรุ่น)
ระบบป้องกันการชน & ช่วยควบคุมรถ
- Intelligent Emergency Braking
- ตรวจจับรถคันหน้า คนเดินถนน และจักรยาน
- ช่วยเบรกอัตโนมัติเมื่อมีความเสี่ยงการชน
- Forward Collision Warning (FCW)
- เตือนการชนล่วงหน้า แม้รถคันหน้าจะยังไม่เบรก
- Lane Intervention (LI) & Lane Departure Warning (LDW)
- เตือนและช่วยดึงพวงมาลัยเมื่อรถออกนอกเลน
- Blind Spot Intervention (BSI) / Blind Spot Warning (BSW)
- เตือนและช่วยควบคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในมุมอับสายตา
- Rear Cross Traffic Alert (RCTA)
- เตือนรถที่วิ่งตัดขณะถอยหลัง
- Intelligent Driver Alertness (DA)
- ตรวจจับอาการล้าของผู้ขับขี่ และแจ้งเตือนให้พัก
- Pedal Misapplication Prevention
- ป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาดขณะจอดหรือความเร็วต่ำ
ระบบช่วยการมองเห็น & กล้อง
- Intelligent Around View Monitor
- กล้องรอบคัน 360 องศา
- มุมมอง 3D (รุ่นสูง)
- ระบบตรวจจับวัตถุเคลื่อนไหว
- Intelligent Room Mirror
- กระจกมองหลังแสดงภาพจากกล้อง
- มองเห็นชัดแม้มีผู้โดยสารหรือสัมภาระเต็มคัน
- High Beam Assist
- ปรับไฟสูง–ต่ำอัตโนมัติ
ระบบความปลอดภัยเชิงโครงสร้าง (Passive Safety)
- ถุงลมนิรภัยรอบคัน
- คู่หน้า
- ด้านข้างคู่หน้า
- ม่านถุงลมตลอดแนวห้องโดยสาร
- โครงสร้างตัวถังดูดซับแรงกระแทก (Zone Body Concept)
- เข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด ทุกที่นั่ง
- ISOFIX สำหรับติดตั้งคาร์ซีตในแถวที่ 2
- ระบบล็อกประตูนิรภัยสำหรับเด็ก
ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน (Standard Safety)
- ABS / EBD / Brake Assist
- VDC (Vehicle Dynamic Control) + TCS
- Hill Start Assist
- Front & Rear Sonar
- Emergency Stop Signal
- ระบบแจ้งเตือนลืมผู้โดยสารตอนหลัง (Rear Seat Reminder)





