เปิดราคา 1.03 ล้านบาทในสหรัฐฯ TOYOTA RAV4 HYBRID เจนที่ 6 ประหยัดน้ำมัน 18.7 กม./ลิตร EPA

เปิดราคา 1.03 ล้านบาทในสหรัฐฯ TOYOTA RAV4 HYBRID เจนที่ 6 ประหยัดน้ำมัน 18.7 กม./ลิตร EPA
Spread the love
Advertisement Advertisement

Advertisement Advertisement

 

All-New Toyota RAV4 รุ่นปี 2026 เจเนอเรชันที่ 6 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ – เพิ่มพลัง ประหยัดขึ้น พร้อมขุมพลัง Hybrid และ Plug-in Hybrid ใหม่หมดจด

โตโยต้าเปิดม่าน RAV4 เจเนอเรชันที่ 6 (รุ่นปี 2026) ในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ หลังจากทำตลาดมายาวนานเกือบ 30 ปี และขึ้นแท่น SUV คอมแพ็กต์ขายดีที่สุดในประเทศ ตลอดเส้นทางกว่า 6.4 ล้านคันทั่วอเมริกา คราวนี้ RAV4 ใหม่มาพร้อมดีไซน์ ภายนอก–ภายในปรับใหม่หมด เทคโนโลยีล่าสุดของโตโยต้า รวมถึงขุมพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ทั้งแบบ Hybrid (HEV) และ Plug-in Hybrid (PHEV) โดยไม่มีรุ่นเบนซินล้วนอีกต่อไป

ไลน์อัปแบ่งเป็น 3 แนวบุคลิก Core / Rugged / Sport รวม 7 เกรดย่อย ได้แก่ LE, XLE Premium, Limited (Core) / Woodland (Rugged) / SE, XSE และ GR SPORT (Sport) ทั้งหมดพัฒนาใหม่บนโครงสร้าง TNGA-K พร้อมช่วงล่าง–โครงสร้างเสริมความแข็งแรงและซับแรงสั่นสะเทือนดีกว่าเดิม

จาก 3 ขุมพลังเหลือเพียงไฮบริด—แต่กลายเป็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย

สิ่งแรกที่เปลี่ยนไปคือ RAV4 ใหม่ปี 2026 ไม่มีรุ่นเบนซินธรรมดาแล้ว ไม่มีรุ่นปลั๊กอินไฮบริดในปีแรกด้วย จะมีแค่ ไฮบริดล้วนทั้งไลน์อัป และ PHEV ตามมาภายในปีหน้า

เมื่อเทียบกับรุ่นปี 2025 ที่มีให้เลือก 3 แบบ การย้ายมาเป็น “ไฮบริด 100%” ทำให้ Toyota สามารถจัดออปชัน เครื่องยนต์ และราคาได้เป็นเส้นเดียว—ง่ายต่อความเข้าใจ และยกระดับภาพลักษณ์เป็นแบรนด์ที่จริงจังกับงานวิศวกรรมไฮบริดมากขึ้น


ราคาเริ่มต้น $31,900แพงขึ้นจากรุ่นเบนซินเดิม แต่กลับถูกลงกว่ารุ่น Hybrid เดิม

นี่คือความงงงวยเล็กๆ ที่หลายคนอาจถามว่า “แพงขึ้นหรือถูกลงกันแน่?”

  • รุ่นเริ่มต้น RAV4 Hybrid 2026: $31,900
  • รุ่นเริ่มต้น RAV4 เบนซินปี 2025: $29,800 (+$2,100)
  • รุ่น RAV4 Hybrid LE ปี 2025: $32,850 (แพงกว่ารุ่นใหม่ $950)

หรือสรุปสั้นๆ ได้แบบนี้:

แพงขึ้นจากรุ่นเบนซินเดิม แต่ถูกลงจากราคาไฮบริดเดิม
▶ ในขณะที่ได้รถที่แรงขึ้น ประหยัดขึ้น ช่วงล่างดีขึ้น และออปชันแน่นกว่าเดิมทุกจุด

สำหรับหลายคน จึงถือว่า “คุ้มกว่าเดิม” แม้ราคาป้ายจะขยับขึ้นเล็กน้อย

หมายเหตุ: ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง/แปรรูป $1,450


RAV4 ใหม่ดีกว่าเดิมตรงไหนบ้าง?

Toyota ไม่ได้แค่เปลี่ยนหน้ารถหรือปรับจอให้ใหญ่ขึ้น แต่ลงลึกถึงงานวิศวกรรม:

  • เครื่องยนต์ไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ ตอบสนองดีขึ้น เร่งดีขึ้น และกำลังเพิ่มขึ้นทุกเกรด
  • แพลตฟอร์มใหม่ที่แข็งขึ้น ส่งผลต่อการควบคุมที่มั่นคงกว่าเดิม เสียงรบกวนลดลง
  • ช่วงล่างปรับเซตใหม่ ขับสบายขึ้น โดยไม่เสียความมั่นใจเวลาเข้าโค้ง
  • ห้องโดยสารกว้างขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ผู้โดยสารตอนหลัง
  • ออปชันมาตรฐานเพิ่มขึ้นทุกรุ่นย่อย นับตั้งแต่จอใหญ่ขึ้น, ชุดความปลอดภัยใหม่, ระบบช่วยขับอัปเกรด ฯลฯ

รุ่น XLE Premium ได้ฝาท้ายไฟฟ้า
รุ่น Woodland Edition ได้กล้องรอบคัน Multi-Terrain Monitor
รุ่น LE ได้จออินโฟเทนเมนต์ใหญ่ขึ้น

Toyota ปรับออปชันอย่างมีเหตุผล ให้รุ่นเริ่มต้นดูคุ้มค่า และรุ่นสูงยังอยู่ในกรอบราคาที่จับต้องได้


ราคา Toyota RAV4 Hybrid 2026 ทั้งไลน์อัป

(อัตราแลกเปลี่ยน: 1 USD = 32.46 บาท)

รุ่น ราคา (USD) ราคา (บาทโดยประมาณ)
Hybrid LE FWD $31,900 1,035,474 บาท
Hybrid LE AWD $33,300 1,080,018 บาท
Hybrid SE FWD $34,700 1,125,442 บาท
Hybrid SE AWD $36,100 1,170,986 บาท
Hybrid Woodland AWD $39,900 1,295,754 บาท
Hybrid XLE Premium FWD $36,100 1,170,986 บาท
Hybrid XLE Premium AWD $37,500 1,215,450 บาท
Hybrid XSE AWD $41,300 1,341,000 บาท
Hybrid Limited AWD $43,300 1,404,258 บาท

ยังไม่รวมค่าขนส่ง/แปรรูป $1,450 (ราว 47,000 บาท)

PHEV จะประกาศราคาในต้นปี 2026


Toyota ตั้งใจคุมราคาไม่ให้แรงเกินเพดานตลาด

สิ่งที่น่าสนใจคือ Toyota ตั้งใจไม่ให้ราคาไหลไปแตะช่วง “ซื้อแล้วต้องคิดหนัก” คือระดับ $45,000–$50,000

เพราะถ้าข้ามเส้นนั้นเมื่อไหร่ ลูกค้ากลุ่ม C-SUV จะเริ่มลังเลว่าจะยอมเพิ่มอีกนิดเพื่อไปเล่นรถไซซ์ใหญ่กว่าไหม เช่น Highlander, Grand Highlander หรือแม้แต่แบรนด์พรีเมียม

ตอนนี้ RAV4 รุ่นสูงสุดยังอยู่ $43k ต้นๆ ถือว่า “โซนปลอดภัย” สำหรับรถครอบครัวระดับนี้

รุ่น GR Sport ไฮไลต์ใหม่ของปีหน้า

Toyota ยืนยันแล้วว่า RAV4 GR Sport จะเปิดตัวปีหน้า พร้อมพลังสูงสุดถึง 324 แรงม้า คาดว่าราคาจะอยู่ “เหนือ $50,000 เล็กน้อย” แต่ยังไม่ประกาศทางการ รุ่นนี้จะเป็นสายสปอร์ตเต็มตัว แข่งกับ CX-50 Turbo, Escape ST-Line, Tucson N Line, รวมถึงรุ่นแรงๆ จากจีน

รุ่นปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) คำถามใหญ่ต่อไป

หลายคนอยากรู้ว่า Toyota จะตั้งราคา PHEV ไว้ตรงไหน คาดการณ์ตอนนี้คือ $45,000–$49,000 ซึ่งจะเป็นช่วงราคาที่มีการแข่งขันสูง เพราะต้องชนกับ

  • RAV4 Prime เดิม
  • Hyundai Tucson PHEV
  • Ford Escape PHEV
  • Mitsubishi Outlander PHEV

โดยเฉพาะเมื่อหลายรุ่นเริ่มมีออปชันความปลอดภัยและแรงม้าใกล้เคียงกันมากขึ้น

ภายนอก RAV4 ดีไซน์ SUV สัดส่วนชัดเจน

RAV4 ใหม่คงเอกลักษณ์ตัวถัง SUV ทรงกล้า ฝากระโปรงมีกล้าม แนวขอบซุ้มล้อเหลี่ยม พร้อมกระจังหน้า Hammerhead Signature Grille โฉบเฉี่ยวร่วมสมัย ไฟท้าย LED ลายใหม่ให้ความรู้สึกกว้างมั่นคงเมื่อมองจากด้านหลัง ส่วนท้ายเน้นพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด

ชุดสีตัวถังมีทั้งหมด 10 สี รวม 4 สีใหม่ ได้แก่ Urban Rock (เฉพาะ Woodland), Meteor Shower, Everest และ Storm Cloud ขณะที่สียอดนิยมเดิมอย่าง Ice Cap, Wind Chill Pearl, Midnight Black Metallic, Ruby Flare Pearl และ Blueprint ยังคงอยู่ พร้อมตัวเลือกทูโทนใหม่ เช่น Meteor Shower หลังคาดำ หรือ Supersonic Red หลังคาดำ เฉพาะ GR SPORT

ภายในห้องโดยสารใหม่ จัดวางฉลาด พร้อมจอดิจิทัล 12.3″

คอนโซลกลางดีไซน์ใหม่รวมฟังก์ชันสำคัญ (จอสัมผัส Drive Mode ที่เก็บของ) เป็นแนวตั้ง ใช้พื้นที่คุ้ม และมีคันเกียร์ Shift-by-Wire แบบสวิตช์ Toggle บางเกรด

หน้าจอมาตรวัด Full Digital 12.3 นิ้ว เป็นมาตรฐาน ปรับการแสดงผลได้หลายรูปแบบ จอ LCD เคลือบด้านลดแสงสะท้อน พร้อม Head-Up Display ในรุ่น Hybrid Limited และ PHEV XSE เบาะหลังพับราบ ฝาท้ายไฟฟ้า Hands-Free รุ่นใหม่ ตรวจจับกว้างกว่าเดิม วัสดุตกแต่งภายในเลือกใช้ SofTex หรือ Ultrasuede ขึ้นกับรุ่น

โครงสร้างและช่วงล่าง TNGA-K ปรับใหม่ เพิ่มความนิ่งเงียบ

ตัวถัง TNGA-K ได้รับการเสริมความแข็งแรง ทั้งจุดยึดช่วงล่างหน้า-หลัง เสา A-D และ ซุ้มล้อ พร้อมเพิ่มวัสดุดูดซับการสั่นสะเทือน NVH หลายจุด เช่น พื้นหน้า-หลัง และ ใต้ท้องรถ ลดเสียงรบกวนในห้องโดยสาร

ระบบกันสะเทือนหน้า-หลังเปลี่ยนสปริงใหม่ลดแรงเสียดทาน โช้กอัพจูนใหม่ให้ตอบสนองแรงด้านข้างดีขึ้น นุ่มสบายขึ้นในทุกย่านความเร็ว ตำแหน่งเหล็กกันโคลงหน้าปรับใหม่ เพิ่มสัมผัสพวงมาลัย พร้อม Active Front Aero Spats เปิด-ปิดอัตโนมัติ ตามความเร็ว

ความสูงใต้ท้องแตกต่างตามเกรด 8.1 นิ้ว (206 มม.) ใน LE, XLE Premium, SE, XSE / 8.5 นิ้ว (216 มม.) ใน Woodland / 7.5 นิ้ว (191 มม.) ใน GR SPORT

ระบบเบรกและควบคุมตัวรถ (E-Brake Generation ใหม่)

  • Electronically Controlled Brake System รุ่นใหม่ ครั้งแรกในโตโยต้า ให้แรงดันเบรกตามคำสั่ง ตอบสนองไว ฟีลแป้นแน่น
  • Vehicle Braking Posture Control (VBPC) ลดอาการโคลงตัวขณะเลี้ยว
  • Cooperative Steering Driving Force Control (CSDFC) ประสานแรงบิดกับการหักพวงมาลัย ช่วยให้เข้าโค้งมั่นใจและแม่นยำ

ขุมพลัง Hybrid (HEV) รุ่นที่ 5

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร รหัส A25A-FXS จับคู่มอเตอร์ MG1 และ MG2 ผ่านเกียร์ e-CVT แบบดาวเคราะห์ ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือ เพิ่มมอเตอร์หลัง MGR สำหรับ AWD

  • กำลังรวม: FWD 226 แรงม้า / AWD 236 แรงม้า
  • แรงบิดเครื่องยนต์  221 Nm
  • แรงบิดมอเตอร์หน้า (MG2) 208 Nm
  • แรงบิดมอเตอร์หลัง (MGR)  121 Nm
  • อัตราสิ้นเปลืองรวมสูงสุด: 44 MPG ≈ 18.7 km/L (รุ่น FWD)

ค่าประมาณรายเกรด (HEV)

รุ่น ระบบขับเคลื่อน อัตราสิ้นเปลือง (MPG) km/L ประมาณ
FWD 44 18.7
LE AWD 44 18.7
XLE Premium AWD 42 17.8
Woodland HEV AWD 39 16.6
SE/XSE/Limited AWD 42 17.8

ระบบ ECB (Electronic Control Brake) ประสานแรงเบรก รีเจนเนอเรชัน-ไฮดรอลิก ให้เหมาะสม เก็บพลังกลับสูงสุด พร้อม Brake Hold และ Active Hydraulic Booster เพิ่มฟีลแป้นเบรก

โหมดขับ NORMAL / ECO / SPORT / CUSTOM และ EV Mode ใช้พลังไฟฟ้าล้วนระยะสั้นในที่ปิด

ขุมพลัง Plug-in Hybrid (PHEV) รุ่นที่ 6 ใหม่หมด

มีให้เลือก 4 เกรด SE, XSE, Woodland, GR SPORT เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร + มอเตอร์ MG1, MG2 + มอเตอร์หลัง MGR และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุสูง

  • กำลังรวมสูงสุด: 324 แรงม้า
  • แรงบิดเครื่องยนต์ 233 Nm
  • แรงบิดมอเตอร์หน้า (MG2) 273 Nm
  • แรงบิดมอเตอร์หลัง (MGR) 123 Nm
  • อัตราสิ้นเปลืองรวม (เฉลี่ย SE/XSE): 41 MPG ≈ 17.4 km/L
  • ระยะทางขับด้วยไฟฟ้าล้วน (EV Mode): สูงสุด 52 ไมล์ หรือ 83.7 กม.

ตัวเลขประหยัดโดยประมาณ (PHEV)

รุ่น MPG รวม km/L โดยประมาณ ระยะทางไฟฟ้าล้วน (km)
SE/XSE 41 17.4 83.7
Woodland 38 16.2 78.9
GR SPORT 37 15.7 77.2

รุ่น XSE และ Woodland ติดตั้ง Onboard Charger 11 kW พร้อมพอร์ต CCS1 รองรับ DC Fast Charge 10→80 % ภายใน ≈ 30 นาที (ภายใต้เงื่อนไขเหมาะสม)

รุ่น SE และ GR SPORT ใช้ 7 kW (OBC) พอร์ต J1772 รองรับ Level 1–2 ใช้เวลาชาร์จ ≈ 4 ชม. 10→80 %
มีสายชาร์จ 2 แรงดัน (120 V/240 V) แถมทุกรุ่น

RAV4 GR SPORT ครั้งแรกในประวัติศาสตร์รุ่น

พัฒนาร่วม TOYOTA GAZOO Racing ติดตั้ง PHEV + AWD มาตรฐาน จูนช่วงล่าง-พวงมาลัยใหม่

จุดเด่นทางเทคนิค

  • ช่วงล่าง GR-tuned พร้อมโช้ก-สปริงเฉพาะ
  • ค้ำ Cross Member หลังและ Damper หน้า เสริมสมรรถนะ
  • ล้อ 20 นิ้ว น้ำหนักเบากว่ารุ่น XSE 2.2 กก. ออฟเซ็ต +20 มม. ลดความสูง 15 มม. (ระยะใต้ท้อง 7.5 นิ้ว ≈ 191 มม.)
  • ชุดอากาศพลศาสตร์ GR Functional Matrix Grille, ช่องดักลมแอคทีฟ, ลิ้นหน้า, สปอยเลอร์หลัง, ดิฟฟิวเซอร์ท้าย
  • คาลิเปอร์เบรกแดงโลโก้ GR ยาง Dunlop Sportmaxx Performance

ภายใน

เบาะ Brin Naub & SofTex ทูโทน ดำ-แดง, โลโก้ GR ที่พนักพิงศีรษะ, พวงมาลัยหนัง GR พร้อม Paddle Shift, แป้นคันเร่ง-เบรก อะลูมิเนียม, หน้าจอ 12.9 นิ้ว + คลัสเตอร์ 12.3 นิ้ว พร้อม GR Start-up Animation ครบ

RAV4 Woodland รุ่นลุย

เกรด Rugged ใหม่ เลือกได้ทั้ง HEV หรือ PHEV AWD

  • HEV 236 แรงม้า 44 MPG → 18.7 km/L
  • PHEV 324 แรงม้า 38 MPG → 16.2 km/L ขับไฟฟ้าล้วน ≈ 78.9 กม.
  • ยาง Dunlop GrandTrek All-Terrain, ล้อ 18″ Matte Metallic Grey
  • ฮิทช์พ่วง 2″ รับแรงดึง 3,500 ปอนด์ (≈ 1,588 กก.)
  • หลังคาระบบรางยกสูงพร้อมคาน Cross Bar โลโก้ Woodland
  • ไฟ LED Rigid Industries ที่กันชนหน้า, พรม All-Weather โลโก้ Woodland, ช่องจ่ายไฟ 120 V-1500 W ท้ายรถ

 เกรด Sport – SE และ XSE

  • SE HEV FWD/AWD: 226–236 แรงม้า ประหยัดสุด ≈ 18.7 km/L
  • SE PHEV AWD: 324 แรงม้า ≈ 17.4 km/L EV ≈ 83.7 กม.
  • XSE HEV AWD: 236 แรงม้า ≈ 17.8 km/L
  • XSE PHEV AWD: 324 แรงม้า ≈ 17.4 km/L EV ≈ 83.7 กม. รองรับ 11 kW + DC Fast

อุปกรณ์เด่น: ล้อ 18–20 นิ้ว, หลังคาแก้ว, ชาร์จไร้สาย, เบาะ Ultrasuede พร้อมระบายอากาศ, ฝาท้าย Hands-Free, กล้อง 3D รอบคัน

 เทคโนโลยีเชื่อมต่อ Toyota Audio Multimedia เจเนอเรชันใหม่ + 5G ครั้งแรก

  • พัฒนาโดย Toyota Motor North America / Toyota Connected North America
  • ใช้เครือข่าย AT&T 5G
  • หน้าหลักปรับวิดเจ็ตได้ Voice Assistant “Hey Toyota” ตอบเร็วขึ้น
  • รองรับ SiriusXM 360L / Spotify Streaming (สมัครแยก)
  • เนวิเกชันเต็มจอที่มาตรวัด ครั้งแรกของโตโยต้า
  • ติดตั้ง Drive Recorder ในตัว บันทึกเหตุการณ์ 20 วินาที
  • รองรับ Wireless Apple CarPlay / Android Auto และ Bluetooth คู่

พื้นฐานซอฟต์แวร์ทั้งหมดสร้างบน Arene Platform โดย Woven by Toyota เปิดทางสู่ยุครถยนต์ Software-Defined ของโตโยต้า

ความปลอดภัย  Toyota Safety Sense 4.0 มาตรฐานทุกคัน

  • PCS w/ PD เตือน-เบรกอัตโนมัติ ตรวจจับรถ คน จักรยาน มอเตอร์ไซค์
  • Full-Speed DRCC ควบคุมความเร็วอัตโนมัติเต็มช่วง
  • LDA w/ Steering Assist ประคองพวงมาลัยเมื่อออกนอกเลน
  • AHB ไฟสูงอัตโนมัติ
  • LTA ช่วยรักษากลางเลน
  • RSA อ่านป้ายจราจรแสดงบนจอมาตรวัด
  • PDA ช่วยเบรก-เลี้ยวอ่อนโยน ควบคุมระยะรถหน้า

เสริมด้วย Star Safety System (VSC, TRAC, EBD, BA, ABS, SST) พร้อมระบบอำนวยความสะดวก เช่น กล้อง 3D รอบคัน, Park Assist อัตโนมัติ, BSM + RCTA, Hill-Start Assist, Rear Seat Reminder ฯลฯ

การรับประกันและการบำรุงรักษา

  • รับประกันพื้นฐาน 36 เดือน / 57,936 กม.
  • ระบบสายกำลัง 60 เดือน / 96,561 กม.
  • การผุกร่อน 60 เดือน ไมล์ไม่จำกัด
  • ส่วนระบบ

 

Carscoop

 

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้