ฉางอานผลิต Deepal EV รุ่นเล็กราคา 5 แสนบาท เปิดตัวไทยต้นปี 2569 เดินหน้าตั้งโรงงาน–ศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่ครบวงจร
Changan Automobile ค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติจีนที่รัฐบาลกลางถือหุ้น 100% เดินเกมรุกไทยอย่างจริงจัง หลังประสบความสำเร็จจากการทำตลาด Deepal S07 และ L07 ในปี 2566 ก่อนขยายการลงทุนครั้งใหญ่ด้วยโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบฟูลสเกลแห่งแรกนอกประเทศจีน ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม WHA ESIE 4 จังหวัดระยอง ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท
โรงงานแห่งนี้สามารถรองรับการผลิตได้สูงสุด 100,000 คันต่อปี เพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก พร้อมรองรับการขยายไลน์ผลิต EV รุ่นใหม่ในปี 2569 โดยเฉพาะรถไฟฟ้าระดับเริ่มต้นราคาประมาณ 5 แสนบาท เพื่อทำยอดผลิตชดเชยตามมาตรการภาครัฐ EV3.5
ผลิต Deepal EV รุ่นเล็ก ราคา 5 แสนบาท เปิดตัวไทยต้นปี 2569
ฉางอานเตรียมเดินหน้าโครงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในปี 2569 โดยเป็นกลุ่มเอสยูวีไฟฟ้าราคาเข้าถึงง่าย ตั้งราคาจำหน่ายประมาณ 5 แสนบาท เพื่อทำตลาดแบบ Mass Market และรองรับเงื่อนไขการผลิตชดเชยตามโครงการ EV3.5 ซึ่งกำหนดให้
- นำเข้า EV 1 คัน → ต้องผลิตคืนในประเทศ 2 คัน (เริ่มผลิตปี 2569)
- การผลิตเพื่อส่งออกให้สิทธิพิเศษ “1 คัน = นับเป็น 1.5 คัน”
รถรุ่นนี้เป็นโมเดลเดียวกับ Qiyuan Q05 ที่เปิดตัวในจีน แต่รุ่นขายไทยจะใช้ชื่อแบรนด์ Deepal โดยมีการนำต้นแบบมาโชว์ในงาน Motor Expo 2025 เพื่อสร้างการรับรู้ก่อนผลิตจริงในไทย
ความคืบหน้าโครงการ EV3.0 – EV3.5 ของฉางอาน
ในปี 2566 ฉางอานเข้าร่วมโครงการรัฐ EV3.0 และปัจจุบันได้ดำเนินการผลิตชดเชยครบตามจำนวนแล้ว ส่วนโครงการ EV3.5 ยังต้องผลิตเพิ่มอีกประมาณ 30,000 คัน เพื่อให้ครบตามเงื่อนไข
การผลิตรถรุ่นใหม่ระดับ Entry EV ในไทย จึงเป็นกุญแจสำคัญในการปิดยอดผลิตคืน พร้อมลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์และเพิ่มโควต้าการส่งออกในอนาคต
เปิดโรงงานแบตเตอรี่ Cell-to-Pack จัดตั้งไลน์ผลิตในไทย
เพื่อสร้างระบบนิเวศด้าน EV ให้ครบวงจร ฉางอานยังได้เปิดโรงงานผลิตแบตเตอรี่แรงดันสูงภายใต้บริษัท Changan Auto Components (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งใช้เทคโนโลยี Cell-to-Pack โดยนำเข้าเซลล์จากบริษัท Time Changan (บริษัทร่วมทุน Changan + CATL) มาประกอบเป็นชุดแบตเตอรี่ในไทย
แผนเพิ่มสัดส่วนชิ้นส่วนภายในประเทศ (Localization Plan)
- ปี 2568: ชิ้นส่วนผลิตในประเทศ 70% (มูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านบาท)
- ปี 2573: ชิ้นส่วนผลิตในประเทศ 80% (มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท)
- เตรียมสร้างไลน์ผลิตแบตเตอรี่ครบวงจรภายในไทย
สิ่งนี้ช่วยเสริมความมั่นคงด้านต้นทุนและตอบโจทย์นโยบายรัฐบาลไทยที่ต้องการดึงซัพพลายเชน EV ให้เกิดในประเทศ
ตั้งศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่ 2–3 แห่ง เริ่มทดลองให้บริการมีนาคม 2569
หลังยอดขาย Deepal ในไทยเติบโตต่อเนื่อง ฉางอานเตรียมเปิดศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบเฉพาะทางจำนวน 2–3 แห่ง ภายในปี 2569 เพื่อรองรับการใช้งานหลังการขายและการเติบโตของตลาด EV
- เริ่มทดลองให้บริการ: มีนาคม 2569
- เปิดดำเนินงานเต็มรูปแบบ: กรกฎาคม 2569
ถือเป็นหนึ่งในค่ายรถที่ประกาศแผน “ศูนย์ซ่อมแบต” อย่างชัดเจนที่สุดในตลาดไทย มีผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคยุค EV
เป้ายอดขายปี 2568 และแผนเปิดตัว 7 รุ่นใหม่ภายใน 3 ปี
ฉางอานตั้งเป้ายอดขายในไทยปี 2568 ที่ 15,000 คัน ครอบคลุมรุ่นต่าง ๆ ได้แก่ Deepal S07, L07, E07, S05, Hunter K50, Lumin รวมถึง EV รุ่นเล็กใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2569 นอกจากนี้ค่ายยังวางแผนเปิดตัวรถพลังงานใหม่ (NEV) เพิ่มอีก 7 รุ่น ภายใน 3 ปี เพื่อรุกตลาดไทยและอาเซียนอย่างเข้มข้น
มุมวิเคราะห์ ไทยกำลังกลายเป็นฐานผลิต EV สำคัญของจีน
1) EV ราคา 5 แสนบาทกำลังเกิดขึ้นจริง
ราคานี้จะเป็น Game Changer ทำให้ผู้ใช้รถกลุ่มกว้างตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ EV ได้ง่ายขึ้น
2) การส่งออกคือหัวใจของการลงทุน
ด้วยกติกา EV3.5 แบบ 1:1.5 ค่ายสามารถผลิตเพื่อส่งออกแล้วนับเป็นผลิตชดเชยได้มากขึ้น ลดแรงกดดันต่อยอดขายในประเทศ
3) โครงสร้างพื้นฐานแบตเตอรี่ คือจิ๊กซอว์สำคัญ
โรงงานแบตเตอรี่ + ศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่ จะช่วยสร้างระบบนิเวศ EV แบบครบวงจรในไทย
4) ผลต่ออุตสาหกรรมไทย
ซัพพลายเออร์ไทยได้โอกาสเข้าสู่ห่วงโซ่ EV รายใหญ่ สร้างมูลค่าลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาทในปี 2573
สรุป
ฉางอานกำลังวางรากฐานสำคัญในไทยทั้งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การผลิตแบตเตอรี่ และการบริการหลังการขายแบบครบระบบ ตั้งเป้าพร้อมเปิดตัว Deepal EV รุ่นเล็กต้นปี 2569 ด้วยราคาเข้าถึงง่ายราว 5 แสนบาท พร้อมเร่งเครื่องสู่การเป็นฐานผลิต EV เพื่อนำส่งออกสู่ตลาดทั่วโลก






