เปิดราคา 1.39 – 1.72 ล้านบาท Honda CR-V e:HEV ใหม่ (ไมเนอร์เชนจ์ 2025) ปรับอุปกรณ์ เพิ่ม BSI , CTM ทุกรุ่น เปิดราคา Motor EXPO 2025
Honda CR-V e:HEV Minorchange 2025 ราคาอย่างเป็นทางการ พร้อมโปรโมชั่นเปิดตัว
Honda ประเทศไทยเปิดตัว Honda CR-V e:HEV (Minorchange 2025) อย่างเป็นทางการ ยกระดับออปชั่นและเพิ่มรุ่นตกแต่งพิเศษ HuNT Package เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าครอบครัวและสายลุยมากขึ้น มาพร้อมราคาและโปรโมชั่นพิเศษช่วงเปิดจองภายในปีนี้
ราคา Honda CR-V e:HEV Minorchange 2025
| รุ่นย่อย | ราคา (บาท) |
|---|---|
| e:HEV E 2WD | 1,399,000 |
| e:HEV ES 2WD | 1,549,000 |
| e:HEV HuNT 2WD | 1,599,000 |
| e:HEV RS 2WD | 1,659,000 |
| e:HEV RS 4WD | 1,729,000 |
ทุกรุ่นมาพร้อมระบบขับเคลื่อน e:HEV Hybrid
เน้นฟีลลิ่งการขับขี่แบบรถไฟฟ้า ผสานความประหยัดและความนุ่มนวลในการใช้งานจริง
การรับประกันคุณภาพตัวรถและระบบ Hybrid
- รับประกันคุณภาพตัวรถ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
- ฟรีโปรแกรม Honda Ultimate Care ขยายรับประกันเพิ่ม 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร
- รุ่น e:HEV รับประกันระบบ Hybrid นาน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
- รุ่น e:HEV รับประกันแบตเตอรี่ Hybrid นาน 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
แพ็กเกจการรับประกันเน้นความคุ้มค่าระยะยาว ช่วยลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา โดยเฉพาะระบบ Hybrid และแบตเตอรี่ที่เป็นหัวใจหลักของตัวรถ
โปรโมชั่นพิเศษช่วงเปิดจอง
สำหรับลูกค้าที่ จองสิทธิ์ล่วงหน้า วันนี้ – 27 พฤศจิกายน 2568
และรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 จะได้รับสิทธิประโยชน์ดังนี้
- ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 20,000 บาท
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%
- ฟรีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 นาน 1 ปี
เงื่อนไขดอกเบี้ยและโปรโมชั่นอาจขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและสถาบันการเงินที่ร่วมรายการ ลูกค้าควรตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่โชว์รูม Honda ทั่วประเทศ
จุดเด่นรุ่น e:HEV HuNT 2WD
รุ่น e:HEV HuNT 2WD เป็นรุ่นตกแต่งพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อสายลุยและคนที่ชอบสไตล์เอาท์ดอร์ ตัวรถมีการเพิ่มชุดตกแต่งเฉพาะทางรอบคัน เช่น
- ชุดเสริมหลังคาคู่
- บันไดข้างดีไซน์สปอร์ต
- คิ้วตกแต่งกระจังหน้าและชิ้นส่วนรอบคันโทนสีทองแดง
- บุคลิกโดยรวมเน้นความดุดัน ลุยได้มากขึ้น แต่ยังคงความหรูหราตามสไตล์ CR-V
ทำให้ HuNT Package กลายเป็นรุ่นที่สร้างความแตกต่างจากรุ่น E และ ES อย่างชัดเจน เหมาะกับคนที่ต้องการภาพลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ตั้งแต่โรงงาน
Honda CR-V e:HEV ใหม่ (ไมเนอร์เชนจ์ 2025) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน มีทั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย, ฟีเจอร์ภายใน, การเชื่อมต่อ และการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ ดังนี้
อุปกรณ์ความปลอดภัยที่ “เพิ่มใหม่” (มีทุกรุ่นย่อย)
- ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information (BSI)
- ระบบเตือนรถตัดผ่านขณะถอย Cross Traffic Monitor (CTM)
- เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด + หลัง 4 จุด
- หน้าจอข้อมูลผู้ขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว (แทนจอเล็กเดิม)
ฟีเจอร์ภายใน / ความสะดวกสบายที่ “เพิ่มใหม่”
- ระบบ Google Built-in (ไม่ใช่แค่ Android Auto / Apple CarPlay)
- โหมดขับขี่แบบ Individual (ตั้งค่าตามสไตล์ผู้ขับ)
- เบาะคู่หน้าระบายอากาศ (ตั้งแต่รุ่น ES ขึ้นไป)
- เครื่องเสียง Bose 12 ลำโพง (ตั้งแต่รุ่น ES ขึ้นไป)
- ระบบ Honda CONNECT + Digital Key (มาตรฐานทุกรุ่น)
- อัปเกรดระบบแอร์ / ภายใน / ชุดแต่งเฉพาะรุ่นใหม่ ES / RS / HuNT
ด้านดีไซน์ / รุ่นย่อยที่ “เพิ่มหรือเปลี่ยน”
- เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ e:HEV HuNT (ลุคแนวลุย + ชุดแต่งพิเศษ)
- เปลี่ยนโมเดล RS ให้มี 2 ตัวเลือก : 2WD และ 4WD
- เพิ่มสีเทา Urban Gray (เฉพาะ RS / RS 4WD)
- ปรับลุคสปอร์ตใหม่ในรุ่น RS ทั้งภายนอกและภายใน
Honda CR‑V e:HEV RS ปี 2025
- ความยาว: 4,691 มม.
- ความกว้าง: 1,866 มม.
- ความสูง: 1,691 มม.
- ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,700 มม.
จุดสังเกตคือฮอนด้าพยายามใช้ราคาเริ่มต้นต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้าในเชิงจิตวิทยา แม้ว่ารุ่น E จะเป็นรุ่นเปิดตลาด แต่ก็ยังคงให้ฟีเจอร์ความปลอดภัยเต็มชุด และอุปกรณ์หลายรายการที่ปกติจะอยู่ในรุ่นกลางของคู่แข่ง เช่นจอ 10.2 นิ้ว และระบบ Google Built-in
ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เปิดตัว CR-V e:HEV รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับรูปแบบการทำตลาดครั้งใหญ่ด้วยการยกเลิกเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร และหันมาใช้ระบบฟูลไฮบริด e:HEV โหมดเดียวทั้งไลน์อัป นับเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ของ CR-V ให้เป็นเอสยูวีไฮบริดขนาดกลางเต็มตัวในตลาดไทย โดยตั้งราคาประมาณการรุ่นเริ่มต้นไม่เกิน 1.4 ล้านบาท และเตรียมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568
การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อตอบโจทย์การแข่งขันในตลาดเอสยูวีระดับ C-D Segment ซึ่งกำลังขยับไปสู่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบทางเลือก ทั้งไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และไฟฟ้าล้วน ขณะที่คู่แข่งสำคัญอย่าง Toyota RAV4 ยังไม่มีการทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ และ Mazda CX-60 PHEV ตั้งราคาสูงกว่ากลุ่ม CR-V อย่างชัดเจน ทำให้ Honda ต้องการยืนตำแหน่ง “ไฮบริดที่เข้าถึงได้” มากกว่าบทบาทพรีเมียม
ไฮไลต์สำคัญของรุ่นไมเนอร์เชนจ์
จุดเปลี่ยนหลักอยู่ที่การเพิ่มอุปกรณ์ความปลอดภัยเชิงรุกและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกเกรด เช่น Blind Spot Information และ Cross Traffic Monitor ส่วนเทคโนโลยีภายในมีการติดตั้ง Google Services แบบ Built-in และหน้าจอ TFT 10.2 นิ้วทุกรุ่น ซึ่งถือเป็นการยกระดับอุปกรณ์พื้นฐานให้สูงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ยังปรับฟังก์ชันในรุ่นย่อย ES ขึ้นไป เช่น เบาะนั่งคู่หน้าระบายอากาศ ระบบเครื่องเสียง Bose 12 ลำโพง รวมถึงการเพิ่ม Honda CONNECT พร้อมระบบกุญแจดิจิทัลเป็นมาตรฐานทั้งไลน์ ซึ่งปกติจะพบเฉพาะในรถระดับราคา 1.7 ล้านบาทขึ้นไปในตลาดไทย
ระบบขับเคลื่อน e:HEV ไม่เปลี่ยนโครงสร้าง แต่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
CR-V ใหม่ยังใช้ระบบฟูลไฮบริด i-MMD ที่คุ้นเคย ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ E-CVT พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยฮอนด้าระบุอัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่ 19.6 กิโลเมตรต่อลิตรในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 18.5 กิโลเมตรต่อลิตรในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ
ถึงแม้ไม่มีการประกาศตัวเลขแรงม้าอย่างเป็นทางการในรอบนี้ แต่คาดว่าใช้สเปกร่วมกับรุ่นก่อนหน้า คือกำลังสูงสุดรวม 184 แรงม้า แรงบิด 335 นิวตันเมตร ซึ่งยังเป็นจุดเด่นของระบบไฮบริดฮอนด้าในแง่การออกตัวไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์
ไฮบริด (e:HEV)
- เครื่องยนต์: 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC (2,0 ลิตร) ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไออน
- รุ่น e:HEV RS 4WD: เครื่องยนต์ 1,993 cc ให้กำลัง 148 hp และแรงบิด 183 Nm + มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 184 ps / แรงบิด 335 Nm ให้กำลังรวมทั้งระบบ 207 แรงม้า
- อัตราสิ้นเปลืองรวม: ระบุโดยฮอนด้าไทยว่า ~20.8 กม./ลิตร (สำหรับรุ่น e:HEV)
- ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติแบบ e-CVT (Electrical Continuously Variable Transmission)
- ระบบขับเคลื่อน: ทั้ง 2WD (รุ่น e:HEV ES) และ 4WD (รุ่น e:HEV RS 4WD)
เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ e:HEV HuNT และปรับบทบาทรุ่น RS
ในครั้งนี้ ฮอนด้าเปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ชื่อ HuNT ซึ่งออกแบบเพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการภาพลักษณ์ลุยแบบไลฟ์สไตล์ โดยเพิ่มชุดแต่งรอบคัน แถบสี Copper ที่กระจังหน้าและไฟตัดหมอก รวมถึงอุปกรณ์ภายนอกที่เน้นความอเนกประสงค์ เช่น บันไดข้างและชุดเสริมหลังคา
ส่วนรุ่น RS มีการเปลี่ยนตำแหน่งทางการตลาด โดยเพิ่มรุ่นขับเคลื่อนสองล้อในราคาเริ่มต้นประมาณ 1.6 ล้านบาท เพื่อให้ลูกค้าเลือกได้ตามงบประมาณ ไม่จำเป็นต้องจ่ายถึงรุ่น 4WD เสมอไปเหมือนโมเดลก่อนหน้านี้
กลยุทธ์ทางการตลาด ทำไมต้องรีบเปิดจองก่อนประกาศราคา
การเปิดจองสิทธิ์ก่อนประกาศราคาเต็ม พร้อมโปรบัตรน้ำมัน 2 หมื่นบาท ดอกเบี้ย 0.99 เปอร์เซ็นต์ และประกันภัย 1 ปี สะท้อนว่า CR-V กำลังเผชิญแรงกดดันสูงจากตลาดที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่รถไฟฟ้า และลูกค้าบางส่วนกำลังตัดสินใจระหว่างรถยนต์ไฮบริดระดับล้านกลาง กับ BEV ช่วงราคาไล่เลี่ยกันจากค่ายจีนและยุโรป
ฮอนด้าจึงต้องการ “ล็อกลูกค้า” ก่อนช่วง Motor Expo 2025 ซึ่งจะเป็นจุดที่คู่แข่งทุกรายเปิดตัวโปรโมชั่นเข้มข้นที่สุดของปี
มุมมองตลาดหลังเปิดตัวจริง
หากฮอนด้าประกาศราคาอย่างเป็นทางการตามช่วงที่ระบุไว้ CR-V e:HEV ใหม่จะกลายเป็นเอสยูวีไฮบริดระดับ C Segment ที่ราคาต่ำสุดในไทยทันที และอาจมีผลทำให้คู่แข่งอย่าง Nissan X-Trail e-Power หรือ Mazda CX-60 ต้องปรับกลยุทธ์ด้านราคาในช่วงต่อไป
อย่างไรก็ตาม การทำตลาดแบบไฮบริดล้วน ยังมีความเสี่ยงในระยะยาว เนื่องจากเทรนด์รถไฟฟ้าในไทยกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงปี 2569 เป็นต้นไป หลังสิทธิสนับสนุน EV 3.5 เริ่มมีผลเต็มรูปแบบ
รุ่น e:HEV RS 4WD

รุ่น e:HEV RS

รุ่น e:HEV ES





Honda CR-V e:HEV HuNT Package (Minorchange) รุ่นตกแต่งพิเศษ สีดำ–ทองแดง Glossy Copper
Honda เปิดตัวแพ็กเกจตกแต่งพิเศษสำหรับ Honda CR-V e:HEV ภายใต้ชื่อ “HuNT Package” ซึ่งมาในลุคใหม่แบบออฟโรด-พรีเมียม ผสานสีพิเศษโทนทองแดง Glossy Copper กับตัวถังสีดำ มอบบุคลิกที่แข็งแรง ดุดัน และแตกต่างจากรุ่นย่อยปกติอย่างชัดเจน
ไฮไลต์โทนสีพิเศษ ดำ – ทองแดง Glossy Copper
เฉดสีทองแดง Glossy Copper ถือเป็นจุดเด่นของรุ่น HuNT ช่วยเน้นเส้นสายรอบคันให้ดูเข้มขึ้นอย่างเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งเมื่อจับคู่กับตัวถังสีดำเงา ตัวรถดูมีความพรีเมียม สปอร์ต และสไตล์ Outdoor มากขึ้นหลายระดับ
รายการอุปกรณ์ตกแต่งรอบคัน (HuNT Package)
แพ็กเกจ HuNT เพิ่มงานดีไซน์ที่มองเห็นได้ชัดเจนหลายจุด โดยเน้นไปที่การใช้งานจริงและความสวยงาม
-
ชุดเสริมหลังคาคู่ (Roof Garnish)
-
บันไดข้างดีไซน์ใหม่ เพิ่มความสะดวกเวลาเข้า-ออก
-
คิ้วตกแต่งกระจังหน้า สีทองแดง Glossy Copper
-
คิ้วตกแต่งกรอบไฟตัดหมอก สีทองแดง Glossy Copper
-
แผงตกแต่งใต้กันชนหน้า เพิ่มภาพลักษณ์แบบออฟโรด
-
คิ้วตกแต่งซุ้มล้อหน้า–หลัง ช่วยขยายมิติให้รถดูบึกบึนขึ้น
ภาพลักษณ์ใหม่ในสไตล์ HuNT: ลุยขึ้น หรูขึ้น
เมื่อรวมองค์ประกอบทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน Honda CR-V e:HEV HuNT จะได้ลุคที่ผสมผสานความหรูและความลุยเข้าด้วยกันแบบลงตัว เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการความแตกต่าง ต้องการรถครอบครัวที่ดูพร้อมลุยขึ้น แต่ยังคงความพรีเมียมตามแบบฉบับ Honda

