เปิดขายอินเดีย 320,000 บาท Maruti SUZUKI FRONX Velocity Edition รุ่นพิเศษ

Maruti SUZUKI ประเทศอินเดีย ประกาศเปิดตัว Maruti Fronx Velocity Edition รุ่นพิเศษ ด้วยราคาจำหน่าย Rs 7.29 lakh หรือประมาณ 320,000 บาทในเวลาจำกัด Maruti ได้เปิดตัวชุดอุปกรณ์เสริมก่อนหน้านี้ ซึ่งเพิ่มการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ทั้งภายในและภายนอก

Maruti Fronx Velocity Edition มีจำหน่ายแล้วในรุ่นเบนซินและ CNG ทั้ง 14 รุ่น
รุ่นพื้นฐาน “Sigma” Fronx Velocity Edition เปิดตัวในราคาแนะนำ Rs 7.29 lakh

Fronx Velocity Edition เพิ่มการตกแต่ง กันชนหน้า กระจังหน้าสีแดง Opulent Red ไฟหน้า ขอบล้อ กาบข้าง สปอยเลอร์หลัง แผงหน้าปัดสีแดง, พรมปูพื้น 3D เบาะนั่งแบบ NexCross Bordeaux

ยอดขายของ Maruti Suzuki Fronx ทะลุกว่า 150,000 คันในเดือนที่ 14 ของการขายในประเทศอินเดีย ความสำเร็จอของยอดขาย 1 แสนคันในอีก 10 เดือน Maruti ขายรถ Fronx SUV เพิ่มขึ้น 50,000 คันในเวลาเพียงสี่เดือน ในอินเดีย

ยอดขายกว่า 150,000 คันใน 14 เดือน หลังจากการเปิดตัว 24 เมษายน 2023
เมื่อพิจารณาว่า Fronx มียอดขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 475 คัน

Maruti Suzuki ประเทศอินเดีย ประกาศราคาจำหน่าย Suzuki Fronx ราคาจำหน่ายรุ่น 1.0 Turbo 972,500 – 1,297,500 INR หรือประมาณ 408,000 – 544,000 บาท และ รุ่น 1.2L ราคาจำหน่าย 746,500 – 927,500 INR หรือประมาณ 313,900 – 389,000 บาท

Maruti FRONX Sigma CNG ราคาจำหน่าย Rs 8.46 Lakh หรือประมาณ 372,000 บาท

Suzuki Fronx หรือ Baleno CROSS เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศอินเดีย ที่งาน 2023 Auto Expo ซึ่งมีต้นแบบมาจาก Maruti Suzuki Baleno ภายใต้รหัส YTB

SUZUKI Fronx ด้านหน้าได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจาก Grand Vitara ใหม่ทั้งหมดในตลาดอินเดีย อย่างไรก็ตาม อย่างไรก็ตามมันยังอยู่บนตัวถัง Baleno ส่วนหน้าได้รับแถบโครเมียมกว้างตัดผ่านกระจังหน้าขนาดใหญ่ Maruti Suzuki กล่าวว่า Fronx ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์โดยมีด้านหน้าและด้านหลังตั้งตรง ไฟท้ายแบบ LED พร้อมแถบเชื่อมต่อกัน กันชนหลังออกแบบใหม่ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วดีไซน์สปอร์ต

ขนาดตัวถัง

ความยาว 3,995 มม.
กว้าง 1,765 มม.
สูง 1,550 มม.
ระยะฐานล้อ 2,520 มม.
พื้นที่เก็บสัมภาระ 308 ลิตร
ขนาดถังน้ำมัน 37 ลิตร

ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบทูโทน ระบบสาระบันเทิง SmartPlay Pro ระบบอินโฟเทนเมนท์ 9 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay และแผงหน้าปัดที่คล้ายกับ Baleno ที่ชาร์จในรถยนต์แบบไร้สายแ เบาะหนังเทียม

ลำโพง 6 ตำแหน่ง
ปุ่ม Start-Stop
ช่องระบายอากาศด้านหลัง
เบาะหลังแยกส่วน 60:40
รองรับอัพเดทแบบ over-the-air
เซ็นเซอร์ถอยจอด
กล้อง 360 องศา
ถุงลมนิรภัยคู่
ถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านนิรภัย

เครื่องยนต์เบนซิน Boosterjet 1.0 ลิตร ให้กำลัง 100 แรงม้า ที่ 5500 รอบต่อนาที แรงบิ 147.6 นิวตัน-เมตร ที่ 2000 – 4500 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ TC 6 สปีดพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์

รุ่นเกียร์ธรรมดา 21.5 กม./ลิตร
รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 20.04 กม./ลิตร

เครื่องยนต์ K-Series เทอร์โบ 1.2 ลิตร ให้กำลัง 90 แรงม้า ที่ 6000 รอบต่อนาที แรงบิด 113 นิวตัน-เมตร ที่ 1100 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ AMT 5 สปีด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์

รุ่นเกียร์ธรรมดา 21.79 กม./ลิตร
รุ่นเกียร์อัตโนมัติ 22.89 กม./ลิตร

นอกจากนี้ยังมีตัวเลือก CNG ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Dual-Jet Dual-VVT ขนาด 1.2 ลิตร ให้กำลัง 77.5 แรงม้า แรงบิด 98.5 นิวตัน-เมตร พร้อมเกียร์ธรรมดา 5MT

Mr. Hisashi Takeuchi กรรมการผู้จัดการและ CEO ของ Maruti Suzuki India Limited กล่าวว่า “เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อรถ SUV เรายินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า SUV 2 รุ่นที่เพิ่งเปิดตัว ได้แก่ Grand Vitara และ New Brezza ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดและเป็นไปตามความต้องการของลูกค้าที่แข็งแกร่ง Maruti Suzuki เป็นผู้บุกเบิกผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนเกมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคมาโดยตลอด

Indiatoday.in / Carwale.com/ Financialexpress.com