NISSAN Frontier รุ่นปี 2025 ในสหรัฐฯ V6 3.8 ลิตร 310 แรงม้า ราคา 1.08 ล้านบาท
 
						
 
  
   
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
 
2025 Nissan Frontier กระบะขนาดกลางเปิดราคาจำหน่ายในสหรัฐฯ ราคาเริ่มต้นที่ 33,560 – 39,200$ หรือประมาณ 1.08 – 1.26 ล้านบาท ยังมีตัวเลือกกระบะบรรทุกขนาด 6 ฟุตของ Frontier ให้เลือกมากขึ้นด้วย
| Model | 2025 Price (w/dest.) | 2024 Price (w/dest.) | 
| Frontier S King Cab 4×2 | $33,560 | $32,020 | 
| Frontier SV King Cab 4×2 | $35,900 | $34,720 | 
| Frontier S King Cab 4×4 | $36,560 | $35,220 | 
| Frontier SV King Cab 4×4 | $39,200 | $37,920 | 
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
- แผงหน้าปัดใหม่
- ล้อล้ออัลลอยใหม่สำหรับ PRO-X/PRO-4X ขนาด 17 นิ้ว
- สีตัวถัง Afterburn Orange
- จอภาพ Intelligent Around View® Monitor 1พร้อมกล้อง Off-Road View ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ทำงานที่ความเร็วสูงขึ้นเพื่อการขับขี่ออฟโรดที่มั่นใจยิ่งขึ้น
- โครงฐานล้อยาวพร้อมกระบะขนาด 6 ฟุตมีให้เลือกใ
- ลากได้มากขึ้นด้วยอัตราการลากสูงสุดที่เพิ่มขึ้นถึง 3,243 กก.
- เทคโนโลยีที่ใช้งานง่ายยิ่งขึ้นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว และเพิ่ม Android Auto™ แบบไร้สาย
- พวงมาลัยแบบยืดหดได้มาตรฐาน
- เบาะรองนั่งปรับไฟฟ้าสองทิศทางมาตรฐานสำหรับเบาะนั่งคนขับในรุ่น SV และรุ่นที่สูงกว่า
Frontier เครื่องยนต์ในสหรัฐฯ
- รหัสเครื่องยนต์: VQ38DD
- ชนิด: เบนซิน V6 แบบ Naturally Aspirated (ไม่มีเทอร์โบ)
- ระบบจ่ายน้ำมัน: Direct Injection (หัวฉีดตรง)
- ความจุ: 3.8 ลิตร (3,798 ซีซี)
- วาล์ว: DOHC 24 วาล์ว พร้อมระบบแปรผันวาล์ว CVTCS (Continuous Variable Valve Timing Control System)
- กำลังสูงสุด: 310 แรงม้า (hp) @ 6,400 rpm
- แรงบิดสูงสุด: 381 นิวตันเมตร @ 4,400 rpm
- อัตราส่วนกำลังอัด: 11.2 : 1
- เชื้อเพลิงที่รองรับ: เบนซินไร้สารตะกั่ว (แนะนำ Octane 87 ขึ้นไป)
- ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ (9-speed automatic transmission)
- 
ระบบขับเคลื่อน: - 
4×2 (RWD) ขับเคลื่อนล้อหลัง 
- 
4×4 (Part-time 2-speed transfer case: 2H / 4H / 4LO) 
 
- 
- อัตราเร่ง: ยังไม่มีตัวเลขทางการ 0–100 km/h แต่สื่อทดสอบให้ 7.5–8.0 วินาที
- ความเร็วสูงสุด: 190 km/h (ประมาณการ)
- ความสามารถลากจูง (Towing Capacity): สูงสุด 7,150 ปอนด์ (≈ 3,244 กก.)
- บรรทุก (Payload): สูงสุดประมาณ 735 กก. (ขึ้นกับรุ่นย่อย/รูปแบบตัวถัง)
ขนาดตัวถัง NISSAN Frontier
- ยาว 5,339 มม. (SWB)
- ยาว 5,692 มม. (LWB)
- กว้าง 1,854 มม.
- สูง 1,838 มม.
- ระยะฐานล้อ SWB 3,200 มม.
- ระยะฐานล้อ LWB 3,550 มม.
การออกแบบภายนอก Frontier 2025
- 
ด้านหน้า – กระจังหน้าใหม่ทรงเหลี่ยมขนาดใหญ่ กันชนหน้าดีไซน์หนาแน่น เสริมแผ่นกันกระแทกด้านล่าง รุ่น PRO-4X ได้ไฟตัดหมอก LED เพิ่มความออฟโรด 
- 
ไฟส่องสว่าง – ไฟหน้า LED ดีไซน์คม พร้อมไฟวิ่งกลางวัน (DRL) ส่วนด้านหลังเป็นไฟท้าย LED ทรงใหม่ เข้ากับเส้นสายบอดี้ ดูทันสมัยขึ้น 
- 
ด้านข้าง – เส้นสายตัวถังเหลี่ยมคมชัด ซุ้มล้อโป่งใหญ่ รุ่น PRO-X / PRO-4X ใช้โป่งซุ้มสีดำด้าน เพิ่มลุคออฟโรด ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว ช่วยให้รถดูเต็มและมั่นคง 
- 
ด้านท้าย – ฝาท้ายสกรีนโลโก้ “Frontier” ตัวใหญ่เต็มแผง ไฟท้าย LED ทรงใหม่สวยเข้ากับบอดี้ ฝาท้ายมีระบบผ่อนแรง (Damped Tailgate) เปิด-ปิดง่ายขึ้น บางรุ่นมีแผงสีดำตกแต่งเพิ่มความสปอร์ต 
- 
สีตัวถัง – เพิ่มสีใหม่ Afterburn Orange สะดุดตา พร้อมสีมาตรฐาน เช่น ขาว ดำ เงิน เทา 
- 
บุคลิกรวม – Frontier 2025 มีสไตล์ “Rugged-Modern” แข็งแกร่งพร้อมลุย แต่ยังทันสมัยพอสำหรับขับในเมือง 
การออกแบบภายใน Nissan Frontier 2025
- 
ดีไซน์และวัสดุ Advertisement Advertisement- 
ห้องโดยสารถูกออกแบบให้ดูทันสมัยและแข็งแรงในสไตล์กระบะอเมริกัน 
- 
ใช้วัสดุทนทานผสมกับการตกแต่งที่ดูพรีเมียมมากขึ้น เช่น แผงคอนโซลเรียบหรู เส้นสายตรงและเหลี่ยมคม 
- 
รุ่นสูงอย่าง PRO-4X และ SL มีวัสดุตกแต่งพิเศษ เช่น เย็บด้ายตัดสี (contrast stitching) และเบาะหนัง 
 
- 
- 
พื้นที่และการจัดวาง - 
King Cab นั่งได้ 4 คน, Crew Cab นั่งได้ 5 คน 
- 
พื้นที่กว้างขวาง โดย Crew Cab มีปริมาตรห้องโดยสาร ~100.1 ลูกบาศก์ฟุต 
- 
เบาะหลังพับได้ เพิ่มพื้นที่เก็บของในห้องโดยสาร 
 
- 
- 
เบาะนั่ง - 
เบาะมาตรฐานเป็นผ้า (Cloth) ในรุ่นล่าง 
- 
รุ่นกลางขึ้นไปมีเบาะหนังหรือหนังสังเคราะห์ พร้อมระบบปรับไฟฟ้า 
- 
เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมดันหลัง (Lumbar) 
- 
เบาะผู้โดยสารหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น PRO-4X, SL) 
 
- 
- 
แผงหน้าปัดและจอแสดงผล - 
มาตรวัดผสมแบบอนาล็อก+จอดิจิทัล 
- 
จออินโฟเทนเมนท์กลาง 12.3 นิ้ว (รุ่น SV ขึ้นไป) รองรับ Apple CarPlay/Android Auto แบบไร้สาย 
- 
รุ่นล่างจะได้จอขนาดเล็กกว่า 
 
- 
- 
ระบบเสียงและความบันเทิง - 
ลำโพงมาตรฐานในรุ่นเริ่มต้น 
- 
ระบบเสียง Fender Premium Audio 10 ลำโพง (พร้อมซับวูฟเฟอร์) ในรุ่นท็อป 
 
- 
- 
ความสะดวกสบาย - 
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกฝั่ง (Dual-Zone) 
- 
ช่องเก็บของรอบห้องโดยสาร เช่น กล่องเก็บของเหนือศีรษะ (Overhead Console Sunglass Holder) 
- 
ที่ชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ตโฟน 
- 
ช่อง USB-A/USB-C และปลั๊กไฟ 120V AC 
 
- 
- 
บรรยากาศและฟังก์ชันเสริม - 
หน้าต่างหลังเลื่อนเปิดได้ (Sliding Rear Window) 
- 
ไฟส่องสว่างภายในเป็น LED 
- 
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนังในรุ่นสูง 
 
- 
ระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีการขับขี่ Frontier 2025
- 
ถุงลมนิรภัย (Airbags) - 
ถุงลมคู่หน้าแบบ Dual-stage 
- 
ถุงลมด้านข้าง (Side-impact airbags) 
- 
ถุงลมม่านด้านข้าง (Side curtain airbags) 
- 
ถุงลมป้องกันเข่าคนขับ 
 
- 
- 
โครงสร้างและระบบช่วยทรงตัว - 
โครงสร้างตัวถังแบบ Zone Body เพิ่มการดูดซับแรงกระแทก 
- 
ระบบควบคุมเสถียรภาพ VDC (Vehicle Dynamic Control) 
- 
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction Control System) 
- 
ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ ABS + EBD + Brake Assist 
- 
ระบบ Active Brake Limited Slip (ABLS) 
 
- 
- 
ระบบช่วยการขับขี่มาตรฐาน - 
Intelligent Forward Collision Warning (แจ้งเตือนชนด้านหน้า) 
- 
Automatic Emergency Braking พร้อมตรวจจับคนเดินถนน 
- 
Blind Spot Warning (เตือนมุมอับสายตา) 
- 
Lane Departure Warning (เตือนออกนอกเลน) 
- 
Rear Cross Traffic Alert (เตือนรถตัดด้านหลังขณะถอย) 
- 
Rear Automatic Braking (เบรกอัตโนมัติขณะถอยหลัง) 
 
- 
- 
ระบบอำนวยความสะดวกในการขับ - 
Intelligent Cruise Control (ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน) 
- 
High Beam Assist (ปรับไฟสูงอัตโนมัติ) 
- 
Traffic Sign Recognition (อ่านป้ายจราจร) 
- 
Hill Start Assist (ช่วยออกตัวบนทางชัน) 
- 
Hill Descent Control (ควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน – เฉพาะรุ่น 4×4) 
 
- 
- 
เทคโนโลยีเสริมการใช้งาน - 
กล้องมองรอบคัน Intelligent Around View Monitor (พร้อมโหมด Off-road ในรุ่น PRO-4X) 
- 
RearView Monitor (กล้องถอยหลังมาตรฐาน) 
- 
Rear Sonar (เซนเซอร์ถอยจอด) 
- 
ระบบเตือน Rear Door Alert (กันลืมเด็ก/ของไว้ที่เบาะหลัง) 
 
- 

 
  
  
  
  
  
  
  
 
 
  
  
  
  
  
  
  
 