Advertisement

Advertisement

เตรียมขายไทยปลายเดือนนี้ NISSAN SERENA 2.0 ไฮบริด 150 แรงม้า

เตรียมขายไทยปลายเดือนนี้ NISSAN SERENA 2.0 ไฮบริด 150 แรงม้า

Advertisement

Advertisement

Nissan Serena  เตรียมเปิดตัวในประเทศไทย โดยนำเข้าตัวรถจากโรงงาน Tan Chong Motor Assemblies (TCMA) ประเทศมาเลเซีย อาศัยสิทธิประโยนชน์ทางภาษี ภายใต้กรอบ AFTA บนเครื่องยนต์ เบนซิน 2.0 ลิตรไฮบริด เป็นรุ่น C27 สำหรับ C28 อาจลุ้นเปิดตัวเช่นกัน

โยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น NISSAN ประกาศเปิดตัว Serena  (รหัส C28) รุ่นปรับปรุงใหม่ทั้งหมดในญี่ปุ่น โดยจะเริ่มขายในฤดูหนาวนี้ พร้อมขุมพลัง e-POWER ซึ่งจะเปิดขายในฤดูใบไม้ผลิ พร้อมการออกแบบที่เปลี่ยนแปลงทั้งภายนอก และ ภายในห้องโดยสาร ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง “ProPILOT 2.0” ProPILOT 2.0 กล้อง 7 ตัว เรดาร์ 5 ตัว และโซนาร์ 12 ตัวที่ติดตั้งบนรถจะตรวจจับเส้นสีขาว ป้ายจราจร และยานพาหนะโดยรอบ ด้วยการใช้ข้อมูลแผนที่ความละเอียดสูงแบบ 3 มิติ

  • รุ่นเบนซิน ราคาจำหน่าย  2,768,700 – 3,269,200 เยน หรือประมาณ 717,000 – 846,000 บาท
  • รุ่น e-POWER ราคาจำหน่าย 3,198,800 – 4,798,200 เยน หรือประมาณ 828,000 – 1,242,000 บาท

Nissan Serena ปี 2023 จากสิ่งพิมพ์ในญี่ปุ่นระบุว่าจะมีการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Nissan Ariya ภายใต้แนวคิด “Timeless Japanese Futurism” ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวมากขึ้น กระจังหน้าขนาดใหญ่ที่บ่งบอกแนวคิด V-Motion ของแบรนด์ ไฟหน้าแบบ LED  ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว

  • มีสีตัวเครื่อง 14 สี ได้แก่ สีทูโทน 4 สี และสีโมโนโทน 10 สี
  • NISSAN SERENA พัฒนาบนแพลตฟอร์มใหม่ของ Renault-Nissan ” CMF (Common Module Family) “

ขนาดตัวถัง

  • ยาว 4,690 มม.
  • กว้าง 1,695 มม.
  • สูง 1,870 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,870 มม.
  • ระบบขับเคลื่อน 2WD และ 4WD

Highway Star V, e-POWER Highway Star V, e-POWER LUXION ความยาวรวม 4765 มม. กว้างรวม 1715 มม., e-POWER LUXION สูงรวม 1885 มม. ภายในได้รับการออกแบบ มีให้เลือก 7 – 8 ที่นั่ง 7 ที่นั่งแบบ 2+2+3 และแบบ 8 ที่นั่งแบบ 2+3+3 ใช้โทนสีดำ ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบสวิตซ์ไฟฟ้า หน้าปัดสีขนาด 7 นิ้ว จอแสดงผลส่วนกลางขนาด 12.3 นิ้ว พร้อม Nissan Connect รองรับ “Apple CarPlay” และ “Android Auto” ลำโพง 6 ตำแหน่ง เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบแผงสัมผัส

  • รุ่น e-POWER มาพร้อมกับแหล่งจ่ายไฟ AC 100V (1500W) จ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกเป็นตัวเลือก
  • ระบบชาร์จมือถือไร้สาย Qi
  • หน้าจอ LCD ด้านบนของแถวที่ 2 แต่มีขนาดเพียง 11 นิ้วเท่านั้น
  • เปิด-ปิดประตูด้วยเซ็นเซอร์ท้าย
  • ประตูหลังเป็นแบบ Half Back Door ที่สามารถเปิดปิดได้ประมาณครึ่งหนึ่งของรถยนต์ทั่วไป คุณสามารถเปิดประตูเพื่อโหลดและขนสัมภาระของคุณได้อย่างง่ายดาย

1.4 e-POWER

  • เครื่องยนต์เบนซิน HR14DDe DOHC 3 สูบแถวเรียง 3 สูบ 1.4 ลิตร e-POWER ให้กำลัง 98 แรงม้า ที่ 5600 รอบต่อนาที แรงบิด 123 นิวตัน-เมตร ที่ 5600 รอบต่อนาที + มอเตอร์ รุ่น EM57 รวมกำลัง 163 แรงม้า ที่ 4400 – 5000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ที่ 2400 – 4000 รอบต่อนาที ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ CVT อัตราประหยัดน้ำมัน 18.4 – 20.6 กม./ลิตร WLTC

2.0 Hybrid

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส MR20DD 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลัง 2.6 แรงม้า 48 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ CVT อัตราสิ้นเปลือง 14.2 km/l

NISSAN 360° Safety Assist

Advertisement

Advertisement
  • เทคโนโลยีเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนอัจฉริยะ (IFCW)
  • เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (IEB)
  • เทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (LDW)
  • เทคโนโลยีช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกช่องทางอัจฉริยะ(ILI)
  • เทคโนโลยีเตือนจุดอับสายตา (BSW)
  • เทคโนโลยีป้องกันการชนจากจุดอับสายตาอัจฉริยะ (IBSI)
  • เทคโนโลยีตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (RCTA)
  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HBA)

  https://www.youtube.com/watch?v=NiLSaDdLuRQ&t=1s Response.jp

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้