เปิดตัวพร้อมลดราคาเหลือ 410,000 – 562,000 บาทในจีน ORA 5 EV 480 – 580 กม./ชาร์จ CLTC

Spread the love

Advertisement Advertisement

ORA 5 เปิดตัวจีน! SUV รุ่นแรกของ ORA มี LiDAR ราคา 9.18–12.58 แสนหยวน (เริ่มราว 4.1 แสนบาท)

สรุปไฮไลต์ ORA แบรนด์พลังงานใหม่ของ Great Wall Motor เปิดตัว ORA 5 (欧拉5) รถ SUV รุ่นแรก ของแบรนด์ในจีน เปิดขาย 5 รุ่นย่อย มีให้เลือก 2 ระยะทางวิ่ง 480/580 กม. และบางรุ่นมาพร้อม LiDAR รองรับระบบช่วยขับขี่ทั้งในเมืองและทางหลวง

ราคา ORA 5 ในจีน ราคาแนะนำ vs ราคาพิเศษ “เปลี่ยนรถใหม่”

ORA 5 มีช่วงราคา 9.98–13.38 แสนหยวน (ราคาแนะนำ) และ 9.18–12.58 แสนหยวน (ราคาพิเศษช่วงเปลี่ยนรถใหม่/จำกัดเวลา)

อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้คำนวณ: 1 หยวน = 4.47 บาท (คำนวณเพื่ออ้างอิงเท่านั้น ราคาจริงในแต่ละประเทศยังขึ้นกับภาษี/โครงสร้างราคา)

รุ่นย่อย	ราคาแนะนำ (หยวน)	ราคาแนะนำ (บาท)*	ราคาพิเศษ (หยวน)	ราคาพิเศษ (บาท)*
480km Air	99,800	≈ 446,100	91,800	≈ 410,300
480km Pro	109,800	≈ 490,800	101,800	≈ 455,100
580km Max	119,800	≈ 535,500	111,800	≈ 499,700
480km LiDAR	123,800	≈ 553,400	115,800	≈ 517,600
580km LiDAR	133,800	≈ 598,100	125,800	≈ 562,300

*เป็นการคำนวณจาก 1 หยวน = 4.47 บาท เพื่อให้เห็นระดับราคาโดยประมาณ (ยังไม่รวมภาษี/ค่าการตลาด/ค่าขนส่งของแต่ละประเทศ)

มีรุ่น LiDAR จุดขายเด่นของ ORA 5

ไฮไลต์สำคัญคือ ORA 5 บางรุ่นติดตั้ง LiDAR ซึ่งช่วยยกระดับความสามารถของระบบช่วยขับขี่ ให้รองรับการใช้งานทั้ง ในเมือง และ ทางหลวง (เช่น กลุ่มฟังก์ชันช่วยควบคุมความเร็ว/รักษาช่องทาง/ลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ฉุกเฉิน)

รุ่นที่มี LiDAR: 480km LiDAR และ 580km LiDAR
แนวทางการใช้งาน: เน้น “เมือง + ทางไกล” เพื่อความสบายในการเดินทางและเพิ่มความปลอดภัย

เครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน (HEV / 1.5T / PHEV) ที่มีการกล่าวถึง

ในข้อมูลเพิ่มเติม มีการระบุว่า รถรุ่นใหม่นี้อาจมีทางเลือกขุมพลังมากกว่าเวอร์ชันไฟฟ้าล้วน โดยจะเพิ่มทั้ง HEV ไฮบริด, เครื่องยนต์ 1.5T เบนซินล้วน และ PHEV เพื่อรองรับความต้องการของตลาดต่างประเทศที่นโยบายและโครงสร้างพลังงานแตกต่างกัน

1) เวอร์ชัน HEV ไฮบริด 1.5T + มอเตอร์ไฟฟ้า (เน้นประหยัดน้ำมัน)

เวอร์ชัน HEV (น้ำมัน+ไฟฟ้า) จะใช้โครงสร้าง เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยสามารถอ้างอิงตัวอย่างจาก Haval H6 เวอร์ชัน HEV สำหรับตลาดต่างประเทศ ซึ่งมีสมรรถนะรวมประมาณ 179 kW 249 PS และแรงบิดสูงสุด 530 นิวตัน-เมตร

จุดเด่นของ HEV คือมุ่งเน้นการ ลดการสิ้นเปลือง และให้การขับขี่ลื่นไหลในชีวิตประจำวัน โดยเมื่อเทียบกับ PHEV หรือ EREV (ขยายระยะทาง) โครงสร้าง HEV จะ เรียบง่ายกว่า และน้ำหนักตัวรถมัก เบากว่า

รูปแบบระบบ: เครื่องยนต์ + มอเตอร์ไฟฟ้า + แบตเตอรี่ขนาดเล็ก
ช่วยได้ในสถานการณ์ใช้งานจริง: วิ่งไฟฟ้าล้วนความเร็วต่ำ, เงียบขึ้นเวลาเจอรถติด, เติมแรงบิดช่วงออกตัว/เร่งแซง
ลักษณะระบบ: “ไฟฟ้าเบา แต่น้ำมันเป็นหลัก” (Light Electric, Heavy Oil)

ที่ผ่านมา รถ HEV ของ Great Wall Motor มักทำตลาดใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ตะวันออกกลาง และ ออสเตรเลีย–นิวซีแลนด์ ซึ่งสัมพันธ์กับนโยบายรัฐและโครงสร้างพลังงานของแต่ละภูมิภาค

2) เวอร์ชันเครื่องยนต์เบนซิน 1.5T ล้วน 1.5T + 7DCT

สำหรับรุ่น เครื่องยนต์ 1.5T เบนซินล้วน มีการคาดการณ์ว่าจะใช้ชุดขุมพลังเดียวกับ Haval H6L รุ่นใหม่ คือ เครื่องยนต์ 1.5 เทอร์โบ + เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 จังหวะ (7DCT)

Advertisement Advertisement

กำลังสูงสุด: 130 kW หรือ 176PS
แรงบิดสูงสุด: 275 นิวตัน-เมตร
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่แบบเปียก 7 จังหวะ (7-speed Wet DCT)

ชุดขุมพลัง 1.5T+7DCT นี้ถือเป็นหนึ่งในระบบที่พบได้บ่อยในเครือ Great Wall Motor โดยเน้นความคุ้นเคยในการดูแลรักษา และเหมาะกับบางตลาดที่ยังต้องการรถเครื่องยนต์ล้วนเป็นหลัก

3) เวอร์ชัน PHEV 1.5T + มอเตอร์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงเวอร์ชัน PHEV ซึ่งจะเป็นรูปแบบ เครื่องยนต์ 1.5T ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มการใช้งานโหมดไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน และยังคงมีเครื่องยนต์รองรับเมื่อต้องเดินทางไกล

แนวคิด “หนึ่งรุ่น หลายขุมพลัง” เพื่อขายได้หลายประเทศ

ในข้อมูลการเปิดตัว มีการระบุแนวทางพัฒนารถให้รองรับขุมพลังหลากหลาย ได้แก่ ไฟฟ้าล้วน (BEV), HEV ไฮบริด, PHEV ปลั๊กอินไฮบริด และ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5T เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำตลาดต่างประเทศ

ข้อดีของแนวทางนี้คือการเพิ่ม อัตราการใช้ชิ้นส่วนร่วมกัน ช่วยให้ ต้นทุนงานบริการ/อะไหล่ และ เวลาซ่อมบำรุง ลดลงในระยะยาว โดยเฉพาะตลาดที่ EV ยังเติบโตไม่เท่ากัน

ดีไซน์ภายนอกสไตล์ “Cat Series” สุดโดดเด่น

Ora 5 ยังคงเอกลักษณ์การออกแบบตระกูล “แมว” ของแบรนด์ ORA ด้วยเส้นสายที่เน้นความทันสมัย น่ารัก และเข้าถึงง่าย ผู้ที่ชื่นชอบรถไฟฟ้าดีไซน์แฟชั่นจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน

บริเวณฝากระโปรงหน้ายังติดตั้ง LiDAR รวมถึงมี กล้องช่วยขับหลายตำแหน่ง ทั้งบนกระจกหน้า ซุ้มล้อหน้า และด้านข้างตัวรถ เพื่อรองรับระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติขั้นสูง หรือ High-Level ADAS

สีตัวถังทั้งหมด 6 สี

สีเขียว Aurora
สีขาว Cliff White
สีเทา Siena Grey
สีครีม Sand Beige
สีฟ้า Sailimu Lake Blue
สีแดง Linzhi Red

ข้อมูลทั่วไป

ประเภทรถ: รถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV)
ตัวถัง: SUV 5 ประตู
ระบบขับเคลื่อน: ล้อหน้า (FWD)
จำนวนรุ่นย่อย: 5 รุ่น
รุ่นย่อย: 480 Air / 480 Pro / 580 Max / 480 LiDAR / 580 LiDAR

มิติตัวถัง

ความยาว × กว้าง × สูง: 4,471 × 1,833 × 1,641 มม.
ความกว้าง (บางรุ่น): 1,844 มม.
ระยะฐานล้อ: 2,720 มม.
ระยะต่ำสุดจากพื้น: ประมาณ 170 มม.

ระบบขับเคลื่อน & สมรรถนะ

มอเตอร์ไฟฟ้า: Permanent Magnet Synchronous Motor (PMSM)
กำลังสูงสุด: 150 kW 203 PS
แรงบิดสูงสุด: 260 นิวตันเมตร
ความเร็วสูงสุด: 170 กม./ชม.
โหมดการขับขี่: Eco / Normal / Sport
แบตเตอรี่: Lithium Iron Phosphate (LFP)
ระยะทางวิ่งมาตรฐาน CLTC
- 58Kwh 480 กม. (รุ่น 480)
- 69kWh 580 กม. (รุ่น 580)
ระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS)
- ควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่
- ระบบอุ่นแบตในอุณหภูมิต่ำ
- ระบบป้องกัน Thermal Runaway
- ระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง

ชาร์จเร็ว DC (30–80%): ≥ 20 นาที
ชาร์จ AC:
- แบต 480 กม.: ≥ 8.5 ชม.
- แบต 580 กม.: ≥ 10.5 ชม.
กำลังชาร์จ AC: 6.6 kW
รองรับระบบจ่ายไฟออกภายนอก (V2L) *

* ฟังก์ชันขึ้นกับรุ่นย่อย

ช่วงล่าง (Suspension System)

โครงสร้างช่วงล่าง

ช่วงล่างหน้า: MacPherson Strut อิสระ
ช่วงล่างหลัง: Multi-link อิสระ
การออกแบบช่วงล่างเน้นความสมดุลระหว่างความนุ่มนวลและการควบคุม
เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองและการเดินทางไกล

ระบบบังคับเลี้ยว

ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า (EPS – Electric Power Steering)
การปรับน้ำหนักพวงมาลัยตามความเร็วรถ
รัศมีวงเลี้ยวแคบ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในเมือง

ระบบเบรก

เบรกหน้า: ดิสก์เบรก
เบรกหลัง: ดิสก์เบรก
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB)
ฟังก์ชัน Auto Hold สำหรับการจอดติดไฟแดงหรือทางลาด

ระบบควบคุมการทรงตัวและการขับขี่

ABS – ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก
EBD – ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์
BA – ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน
ESP – ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
TCS – ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
HHC – ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
HDC – ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน

การเซ็ตอัปและลักษณะการขับขี่

ช่วงล่างเซ็ตมาเพื่อความนุ่มนวลในการใช้งานประจำวัน
ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากผิวถนนในเมือง
มั่นคงในความเร็วสูง เหมาะกับการขับทางไกล
รองรับน้ำหนักแบตเตอรี่ใต้พื้นรถได้อย่างสมดุล

ภายนอกทั้งหมด (Exterior Design & Equipment)

แนวคิดการออกแบบภายนอก

ตัวถัง SUV ดีไซน์สมัยใหม่ เน้นเส้นสายโค้งมน ผสานความสปอร์ตและความพรีเมียม
โครงสร้างตัวถังออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ลดแรงต้านลม
ดีไซน์เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้เมืองและครอบครัวรุ่นใหม่

ระบบไฟส่องสว่าง

ไฟหน้าแบบ LED
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED (Daytime Running Light)
ไฟท้าย LED ดีไซน์พาดยาว
ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED
ระบบเปิด–ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ระบบปรับระดับไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟตัดหมอกหลัง (Rear Fog Lamp)

กระจกและอุปกรณ์ภายนอก

กระจกบังลมหน้าแบบกันรังสี UV
กระจกหน้าต่างลดความร้อน (Heat-Insulating Glass)
กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
กระจกมองข้างพับไฟฟ้าอัตโนมัติ
ไฟเลี้ยวในกระจกมองข้างแบบ LED
ระบบไล่ฝ้ากระจกมองข้าง

หลังคาและองค์ประกอบด้านบน

หลังคาดีไซน์เรียบสมัยใหม่
เสาอากาศครีบฉลาม (Shark Fin Antenna)
กระจกหลังพร้อมระบบไล่ฝ้า
ที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง

ล้อและยาง

ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ยางขนาดตามมาตรฐานโรงงาน (แตกต่างตามรุ่นย่อย)
ออปชันล้อดีไซน์พิเศษ “四叶草轮毂” (Four-Leaf Clover Design)

ประตูและการใช้งานภายนอก

มือจับประตูดีไซน์เรียบเนียนเข้ากับตัวถัง
ระบบปลดล็อก–ล็อกรถอัตโนมัติเมื่อเข้า–ออกจากตัวรถ
ฝาท้ายเปิด–ปิดแบบแมนนวล (บางรุ่นอาจรองรับระบบไฟฟ้า)
ไฟส่องสว่างบริเวณด้านท้ายรถ

กล้องและอุปกรณ์ภายนอกที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย

กล้องมองหลัง
กล้องรอบคัน 360 องศา (ตามรุ่น)
กล้องด้านหน้าและด้านข้างสำหรับระบบช่วยขับขี่
เซ็นเซอร์อัลตราโซนิกสำหรับช่วยจอด (ตามรุ่น)
LiDAR 1 ตัว (เฉพาะรุ่น LiDAR)

รายละเอียดภายนอกอื่น ๆ

กันชนหน้า–หลังดีไซน์สปอร์ต
ซุ้มล้อสีเข้ม เพิ่มความแข็งแกร่งสไตล์ SUV
สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรก LED
ชุดตกแต่งภายนอกสีทูโทน (ขึ้นกับรุ่นและตลาด)

ภายในห้องโดยสารทั้งหมด (Interior Full Specification)

ภาพรวมการออกแบบห้องโดยสาร

ห้องโดยสารสไตล์ “ดิจิทัล-มินิมอล” เน้นจอใหญ่ และการควบคุมผ่านซอฟต์แวร์
คอนโซลกลางออกแบบให้ใช้งานง่าย พร้อมพื้นที่วางของหลายจุด
โทนห้องโดยสารและวัสดุตกแต่งแตกต่างตามรุ่นย่อย/แพ็กเกจ

หน้าจอและระบบอินโฟเทนเมนต์

หน้าจอแสดงข้อมูลผู้ขับขี่ (Digital Instrument Cluster): 10.25 นิ้ว
หน้าจอกลางระบบมัลติมีเดีย (Center Touchscreen): 15.6 นิ้ว
ระบบปฏิบัติการรองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ผ่าน OTA (Over-the-Air)
รองรับการสั่งงานด้วยเสียง และผู้ช่วยอัจฉริยะ AI (Coffee GPT / DeepSeek)

การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนและระบบออนไลน์

HUAWEI HiCar
ICCOA Carlink
Apple CarPlay (ระบุว่าเปิดใช้งาน/อัปเดตได้ผ่าน OTA ตามแพลตฟอร์ม)
ระบบออนไลน์และบริการเชื่อมต่อ (Connected Services) ตามตลาด/แพ็กเกจ
รองรับการนำทางและแผนที่ (Navigation) ตามระบบในรถ

ระบบเสียง (Audio System)

รุ่น 480 Air / 480 Pro / 480 LiDAR: ลำโพง 6 ตำแหน่ง
รุ่น 580 Max / 580 LiDAR: ลำโพง 9 ตำแหน่ง
ปรับโทนเสียงและเอฟเฟกต์ผ่านหน้าจอกลาง (ตามระบบของรถ)

ระบบปรับอากาศและคุณภาพอากาศ

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
ควบคุมอุณหภูมิแยกซ้าย–ขวา
ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
โหมดไล่ฝ้ากระจกหน้า/หลัง
ออปชันฮีตเตอร์ PTC สำหรับระบบแอร์: 1,200 หยวน (ในตลาดจีน)

เบาะนั่งและการปรับตำแหน่ง

เบาะนั่งหน้าออกแบบรองรับสรีระ (ตามรุ่นย่อย)
เบาะผู้ขับปรับระดับได้หลายทิศทาง (บางรุ่นเป็นระบบไฟฟ้า)
เบาะผู้โดยสารตอนหน้าปรับตำแหน่งได้ (ตามรุ่น)
เบาะหลังพับได้เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
วัสดุหุ้มเบาะแตกต่างตามรุ่น/แพ็กเกจ (ผ้า/หนังสังเคราะห์ ฯลฯ)

พวงมาลัย ชุดควบคุม และความสะดวกในการขับ

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมระบบหลักผ่านปุ่มบนพวงมาลัย
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC/ICC) ควบคุมผ่านสวิตช์บนพวงมาลัย (ตามรุ่น)
โหมดการขับขี่ Eco / Normal / Sport
เบรกมือไฟฟ้า (EPB) พร้อม Auto Hold