ทดสอบสุดขีด! Zhijie R7 ลุยๆไฟ 817°C เจาะแบตกลางแจ้ง ในประเทศจีน

ทดสอบสุดขีด! Zhijie R7 ลุยๆไฟ 817°C เจาะแบตกลางแจ้ง ในประเทศจีน
Spread the love
Advertisement Advertisement

วิ่งครบ 1 แสนกม.! แบตเตอรี่ NMC ใน Zhijie R7 ผ่าน 2 บททดสอบโหด ยืนยันความปลอดภัยรถยนต์ไฟฟ้า

แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบ NCM มักถูกตั้งคำถามเรื่องความทนทานและความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อใช้งานไปนาน ๆ จนระยะทางแตะหลักแสนกิโลเมตร ล่าสุดแบรนด์ Zhijie R7 ได้ออกมาโชว์ผลการทดสอบจริง ด้วยการนำแบตเตอรี่ที่ผ่านการใช้งานจริงกว่า 100,000 กิโลเมตร มาทดสอบความโหดทั้งด้านอุณหภูมิสูงและการเจาะทำลายเซลล์ เพื่อตอบคำถามว่า “แบต NCM ปลอดภัยแค่ไหน?”

ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่เพียงทำให้ผู้ใช้รถไฟฟ้ามั่นใจมากขึ้น แต่ยังสะท้อนถึงการออกแบบระบบความปลอดภัยของแพ็กแบตเตอรี่และระบบควบคุมความร้อนของ Zhijie ในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน


สรุปไฮไลท์การทดสอบแบตเตอรี่ Zhijie R7

  • แบตเตอรี่ผ่านการใช้งานจริงแล้ว 103,600 กม. จากรถรุ่นปี 2024
  • ค่าความสมบูรณ์ของแบต (SOH) ยังสูงถึง 97% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่อยู่ราว 75.6% – 89.3%
  • ผ่านการทดสอบขับผ่าน “ถนนไฟ” อุณหภูมิประมาณ 817°C เกิน 1 นาที โดยแบตไม่ไหม้ไม่ระเบิด
  • ผ่านการทดสอบเข็มแทงเซลล์แบต (Needle Test) กลางแจ้ง มีลมแรงระดับ 5 โดยไม่มีไฟลุกลาม
  • ระบบความปลอดภัยทำงานอัตโนมัติครบ ทั้งไฟฉุกเฉิน ประตู มือจับประตู กระจกลดลง และสายด่วนช่วยเหลือโทรเข้าทันที
หัวข้อทดสอบ รายละเอียด ผลลัพธ์
สถานะแบตเตอรี่ก่อนทดสอบ วิ่งมาแล้ว 103,600 กม. จากรถปี 2024 SOH ยังอยู่ที่ 97%
เทียบค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่เหลือ 75.6% – 89.3% Zhijie สูงกว่าชัดเจน
ถนนไฟ (Fire Road Test) ไฟจริงอุณหภูมิราว 817°C ระยะ 100 ม. วิ่งด้วยความเร็ว 5 กม./ชม. ไม่ไหม้ ไม่ระเบิด รถสตาร์ตติดปกติ
เข็มแทงแบต (Needle Test) เหล็กเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มม. แทงลึก 57 มม. กลางแจ้ง ลมระดับ 5 มีควัน แต่ไม่มีไฟไหม้/ระเบิด แร่งเตือนและระบบช่วยเหลือทำงาน

ภาพรวมการทดสอบแบตเตอรี่สามองค์ประกอบของ Zhijie R7

จุดเด่นของการทดสอบครั้งนี้คือ แบรนด์ไม่ได้ใช้แบตเตอรี่ใหม่จากโรงงาน แต่เลือกใช้แบตเตอรี่จากลูกค้าจริงที่ใช้งานบนท้องถนนจนระยะทางสะสมถึง 103,600 กิโลเมตร แล้วจึงนำมาติดตั้งบน Zhijie R7 รุ่นล่าสุด เพื่อเป็นเคสทดสอบเชิงสาธิตด้านความทนทานและความปลอดภัย

หลังจากเชื่อมต่อระบบวิเคราะห์กับคอมพิวเตอร์ พบว่าแบตเตอรี่ยังมีค่าความสมบูรณ์ (State of Health – SOH) สูงถึง 97% ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของแบตเตอรี่รถไฟฟ้าในตลาดปัจจุบัน ที่มักจะลงมาอยู่ในช่วงประมาณ 75.6% – 89.3% เมื่อใช้งานถึงระยะทางระดับใกล้เคียงกัน

ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบด้านโครงสร้างโมดูลเซลล์ ระบบจัดการความร้อน (Thermal Management) และการควบคุมการชาร์จ/คายประจุที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดการเสื่อมของแบตในระยะยาว


รายละเอียดการทดสอบที่ 1: วิ่งผ่าน “ถนนไฟ” อุณหภูมิ 817°C

บททดสอบแรกคือการจำลองสภาวะไฟไหม้อย่างรุนแรงใต้ท้องรถ โดยทีมงานได้สร้าง “ถนนไฟ” ขึ้นมาหนึ่งช่วง ด้วยสเปกดังนี้

  • ความยาวถนนไฟประมาณ 100 เมตร
  • ความกว้างประมาณ 0.8 เมตร
  • ใช้ถ่านไม้เรียงเต็มพื้นที่ แล้วราดด้วยน้ำมันเบนซิน
  • จุดไฟให้ลุกไหม้ต่อเนื่อง จนอุณหภูมิพื้นผิวสูงถึงประมาณ 817°C
  • ให้รถวิ่งผ่านด้วยความเร็วคงที่ราว 5 กม./ชม. เป็นระยะเวลามากกว่า 1 นาที

เงื่อนไขดังกล่าวถือว่าโหดกว่าการทดสอบตามมาตรฐานใหม่ของจีน (New National Standard) ที่ใช้วัดความปลอดภัยของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่จำลองไฟเผาไหม้ต่อเนื่องในระดับนี้

ผลการทดสอบ:

  • แบตเตอรี่ใต้ท้องรถไม่เกิดการลุกไหม้
  • ไม่มีการระเบิดของเซลล์หรือแพ็กแบต
  • ระบบไฟฟ้ารถยังทำงานได้ตามปกติ
  • หลังจบการทดสอบ รถสามารถสตาร์ตติดและเคลื่อนที่ได้ตามปกติ

ผลลัพธ์นี้ตอกย้ำว่า การป้องกันความร้อนจากภายนอกของแพ็กแบต Zhijie R7 ถูกออกแบบมาให้เผชิญกับไฟจริงในระดับรุนแรง โดยไม่เกิดการลุกลามไปถึงแกนหลักของเซลล์แบตเตอรี่


รายละเอียดการทดสอบที่ 2 เข็มแทงเซลล์แบต (Needle Test) กลางแจ้ง

การทดสอบแบบเข็มแทงเซลล์ หรือ Needle Test ถือเป็นหนึ่งในบททดสอบที่ “อ่อนไหว” อย่างมากสำหรับแบตเตอรี่แบบสามองค์ประกอบ (NCM) เนื่องจากเป็นแบตที่มีความหนาแน่นพลังงานสูง และมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความร้อนสูงผิดปกติ (Thermal Runaway) หากเกิดความเสียหายภายในเซลล์

สำหรับการทดสอบครั้งนี้ ทีมวิจัยเพิ่มระดับความโหดด้วยเงื่อนไขดังนี้

  • ใช้เหล็กทรงกระบอกเส้นผ่านศูนย์กลาง 6 มม.
  • แทงเข้าไปในตำแหน่งที่ติดตั้งเซลล์แบตเตอรี่ลึกถึง 57 มม.
  • ทำการทดสอบแบบกลางแจ้ง ไม่ใช่ในห้องทดลองควบคุมสภาพแวดล้อม
  • ในขณะทดสอบมีลมความแรงระดับ 5 ซึ่งเพิ่มโอกาสที่ไฟจะลุกลามได้หากเกิดประกายไฟ

เมื่อเหล็กแทงเข้าสู่เซลล์แบตเตอรี่เต็มระยะ พบว่าที่รูแทงมีควันพุ่งออกมา แสดงว่ามีปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์เกิดขึ้นจริง

ระบบความปลอดภัยของรถตอบสนองทันที

  • ไฟฉุกเฉินกระพริบโดยอัตโนมัติ
  • มือจับประตูไฟฟ้าเด้งออกมา เพื่อให้สามารถเปิดประตูได้สะดวก
  • กระจกรถลดลงบางส่วน เพื่อช่วยระบายควันและความร้อน
  • มีสัญญาณเตือนภายในรถเกี่ยวกับภาวะความร้อนผิดปกติของแบตเตอรี่
  • ระบบติดต่อช่วยเหลือฉุกเฉินโทรหาผู้ขับทันที เพื่อแจ้งสถานการณ์และแนวทางความปลอดภัย

หลังจากนั้นทีมงานได้ปล่อยให้รถจอดนิ่งอยู่กับที่เป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อติดตามอาการและความเสถียรของแพ็กแบตเตอรี่

ผลลัพธ์สุดท้าย

Advertisement Advertisement
  • ไม่มีการลุกไหม้ของแบตเตอรี่
  • ไม่มีการระเบิดของเซลล์หรือแพ็กแบต
  • ไม่มีการลุกลามของไฟไปยังส่วนอื่นของตัวรถ

การผ่าน Needle Test ในเงื่อนไขโหดระดับนี้ ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงการออกแบบโครงสร้างเซลล์และโมดูลแบตเตอรี่ ที่สามารถจำกัดความเสียหายไว้ในวงจำกัด ลดโอกาสเกิดเหตุร้ายแรงต่อผู้โดยสารและตัวรถ

ระบบความปลอดภัยของ Zhijie R7  ไม่ได้มีดีแค่ตัวแบตเตอรี่

จากทั้งสองบททดสอบหลัก จะเห็นว่า Zhijie ไม่ได้พึ่งพาเพียงโครงสร้างของแพ็กแบตเตอรี่เท่านั้น แต่ยังเสริมด้วยระบบความปลอดภัยเชิงรุกและเชิงรับหลายชั้น เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาและช่องทางเอาตัวรอดในกรณีฉุกเฉิน

องค์ประกอบสำคัญของระบบความปลอดภัยประกอบด้วย

  • ระบบจัดการความร้อน (Thermal Management System – TMS) ควบคุมอุณหภูมิของเซลล์ให้เหมาะสม ลดโอกาสเกิดความร้อนสะสม
  • ระบบตรวจจับความร้อนและความผิดปกติของแบตเตอรี่ แจ้งเตือนผู้ขับทันทีเมื่อพบค่าผิดปกติ
  • ระบบแจ้งเตือนและช่วยเหลือฉุกเฉิน ทั้งในรถและผ่านสายด่วนจากผู้ให้บริการ
  • การปลดล็อกประตูและลดกระจกอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารออกจากตัวรถได้สะดวก และระบายควัน ความร้อน หรือแก๊สที่อาจเกิดขึ้น

เมื่อรวมกับโครงสร้างแพ็กแบตที่ออกแบบให้จำกัดความเสี่ยงของความร้อนในระดับโมดูล ทำให้ Zhijie R7 กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่มีจุดขายด้านความปลอดภัยของแบตเตอรี่ ที่ชัดเจนในตลาดปัจจุบัน

สรุป แบตเตอรี่สามองค์ประกอบของ Zhijie R7 ผ่าน 2 บททดสอบสุดโหดอย่างสวยงาม

จากการทดสอบทั้งหมด สามารถสรุปภาพรวมความสามารถของแบตเตอรี่ Zhijie R7 ได้ดังนี้

  • ความทนทานระยะยาว: วิ่งมาเกิน 100,000 กม. แล้วยังมี SOH สูงถึง 97% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน
  • ทนความร้อนจากภายนอก: ผ่านบททดสอบถนนไฟ อุณหภูมิสูงกว่า 800°C โดยไม่เกิดการลุกไหม้หรือระเบิด
  • รับมือความเสียหายภายในเซลล์: ผ่าน Needle Test กลางแจ้ง มีลมแรง โดยระบบสามารถควบคุมไม่ให้ลุกลามเป็นไฟไหม้ได้
  • ระบบความปลอดภัยเชิงรุก: ไฟฉุกเฉิน กระจก ประตู และระบบติดต่อช่วยเหลือทำงานอัตโนมัติ เมื่อเกิดความผิดปกติของแบตเตอรี่

สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ NCM แต่กังวลเรื่องความปลอดภัย Zhijie R7 ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจ เพราะไม่ได้มีดีแค่สเปกบนกระดาษ แต่ยังผ่านการพิสูจน์ด้วยการทดสอบสุดโหดทั้งด้านความร้อนและการเจาะทำลายเซลล์จริง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับแบตเตอรี่ Zhijie R7

Q: แบตเตอรี่ที่วิ่งครบ 100,000 กม. แล้วเหลือความจุเท่าไหร่?

A: จากการทดสอบครั้งนี้ แบตเตอรี่ของ Zhijie R7 ที่วิ่งมาแล้ว 103,600 กม. ยังมีค่าความสมบูรณ์ (SOH) สูงถึง 97% ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วไป

Q: แบตเตอรี่ NCM ปลอดภัยไหม?

A: เดิมทีแบต NCM ถูกมองว่ามีความเสี่ยงจากความร้อนสูงกว่า LFP แต่จากการทดสอบของ Zhijie R7 ทั้งถนนไฟและเข็มแทงเซลล์ แสดงให้เห็นว่า หากออกแบบแพ็กแบตและระบบความปลอดภัยดี ก็สามารถควบคุมความเสี่ยงได้ในระดับสูง

Q: ถ้าเกิดเหตุผิดปกติขึ้นกับแบตเตอรี่ ผู้ขับจะได้รับการแจ้งเตือนอย่างไร?

A: เมื่อระบบตรวจพบความร้อนผิดปกติหรือภาวะเสี่ยง รถจะเปิดไฟฉุกเฉิน ลดกระจก ปลดล็อกประตู พร้อมทั้งแสดงการเตือนในรถ และมีสายด่วนจากศูนย์ช่วยเหลือโทรติดต่อผู้ใช้ทันที

Q: การทดสอบเหล่านี้มีประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างไร?

A: การทดสอบสุดโหดช่วยให้ผู้บริโภคเห็นศักยภาพของระบบความปลอดภัยแบตเตอรี่ในสถานการณ์เลวร้ายจริง ไม่ใช่แค่ตัวเลขสเปกบนกระดาษ ทำให้ตัดสินใจเลือกรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

Luxeed R7 2025 สเปกจีนเต็มคัน เปิดตัวด้วย EV และ EREV แพลตฟอร์ม Huawei ระดับพรีเมียม

Luxeed R7 2025 SUV พรีเมียมรุ่นใหม่จากความร่วมมือของ Huawei x Chery เปิดตัวในจีนด้วยตัวเลือกทั้งแบบ EV ไฟฟ้าล้วน และ EREV แบบ Range-Extender ที่ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดกว่า 1,600 กม. พร้อมดีไซน์ทรง Coupe-SUV สุดโฉบเฉี่ยว จอ HarmonyOS ขนาดใหญ่ และระบบขับเคลื่อนขั้นสูงจาก Huawei Intelligent Drive

สรุปไฮไลต์ Luxeed R7 2025

  • มีทั้งรุ่น EV ไฟฟ้าล้วน 82–100 kWh และ EREV 53.4 kWh + เครื่องยนต์เสริม 1.5L
  • แรงม้าสูงสุด 512 แรงม้า (382 kW) ในรุ่นท็อป AWD
  • ระยะทางวิ่งสูงสุด EV สูงสุดกว่า 855 กม. (CLTC)
  • ระยะทางรวมของรุ่น EREV มากสุดถึง 1,673 กม.
  • สถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V รองรับชาร์จเร็ว
  • พรีเมียมเต็มระบบ: เบาะนวด, Zero-Gravity, หลังคา Panoramic, ระบบเสียง Huawei Sound
  • ระบบขับขี่อัจฉริยะ Huawei ADS (บางรุ่นมาพร้อม LiDAR)

ดีไซน์ภายนอก และมิติตัวถัง Luxeed R7

Luxeed R7 ออกแบบใหม่ทั้งหมดด้วยแนวคิด Coupe-SUV หลังคาไหลแบบ Fastback เน้นความหรูและสปอร์ต มีความยาวใกล้เคียงรถระดับ Mid-Large SUV

สเปกมิติ ตัวเลข
ความยาว 4,956 มม.
ความกว้าง 1,981 มม.
ความสูง 1,634 มม.
ฐานล้อ 2,950 มม.
ความจุสัมภาระท้าย 837 ลิตร

สเปกขุมพลังรุ่น EV (ไฟฟ้าล้วน) Luxeed R7 2025

รุ่น Motor เดี่ยว RWD

  • กำลัง: 215 kW (292 PS)
  • ขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD)
  • แบตเตอรี่ 82 kWh
  • ระยะทางขับ CLTC: 667 กม.

รุ่น Motor คู่ AWD (ตัวท็อป)

  • กำลังรวม: 365 kW (489–496 PS)
  • ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD
  • แบตเตอรี่ 100 kWh
  • ระยะทางขับ CLTC: 802–855 กม.
  • รองรับระบบไฟฟ้า 800V ชาร์จเร็ว

สเปกขุมพลังรุ่น EREV (Range-Extender)

รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้รถไฟฟ้าที่วิ่งใกล้/ไกลได้หมด ชาร์จไฟก็ได้ ใช้น้ำมันก็ได้

รุ่น RWD

  • กำลังมอเตอร์: 227 kW (304 PS)
  • แบตเตอรี่ 53.4 kWh
  • EV-mode: 284 กม. CLTC
  • รวมระยะทาง: 1,673 กม.
  • 0–100 กม./ชม.: ~7.4 วินาที

รุ่น AWD (ท็อปสุด)

  • กำลังรวม: 382 kW (512 PS)
  • EV-mode: ~258 กม. CLTC
  • ระยะรวมสูงสุด: 1,551–1,673 กม.
  • 0–100 กม./ชม.: ~4.9 วินาที

ฟีเจอร์ภายในห้องโดยสาร

Luxeed R7 ใช้คอนเซ็ปต์ “Yacht-Style Cockpit” พร้อม HarmonyOS เต็มระบบ

  • จอหลัก 15.6 นิ้ว + จอเรือนไมล์ 12.3 นิ้ว
  • ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS
  • ระบบเสียงพรีเมียม Huawei Sound
  • เบาะคู่หน้า: อุ่น / ระบายอากาศ / นวด / Zero-Gravity
  • ตู้เย็นคอนโซลกลาง (บางรุ่น)
  • หลังคา Panoramic เต็มบาน
  • ช่องเก็บสัมภาระรวมสูงสุด 837 ลิตร

ระบบความปลอดภัย และระบบช่วยขับ (ADAS)

เทคโนโลยีจาก Huawei ช่วยให้ R7 กลายเป็นหนึ่งในรถที่มีระบบช่วยขับล้ำสุดในจีน

  • Huawei ADS รุ่นท็อปใช้เซนเซอร์ LiDAR
  • กล้อง + เรดาร์รอบคันชุดใหญ่
  • ระบบช่วยขับอัตโนมัติบนทางด่วน
  • ระบบถอยจอดอัตโนมัติเต็มรูปแบบ

ราคาในจีน Luxeed R7 2025

  • ราคาเริ่มต้น: 249,800 หยวน (ประมาณ 1.12–1.18 ล้านบาท)
  • รุ่นท็อปเกิน 300,000 หยวน

*หมายเหตุ: ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่นในจีน

ข้อดี – ข้อสังเกต Luxeed R7

ข้อดี

  • ดีไซน์สวย แนว Coupe-SUV ไซซ์ใหญ่
  • มีทั้ง EV และ EREV ในตัวเลือกเดียว
  • ระยะทางรวมของ EREV สูงมาก เหมาะเที่ยวไกล
  • ภายในหรูหรา ฟีเจอร์จัดเต็มระดับรถยุโรป
  • รองรับชาร์จเร็ว 800V

ข้อสังเกต

  • ตัวเลข CLTC สูงกว่า WLTP/การใช้งานจริง
  • ฟีเจอร์ ADAS มีความต่างกันตามรุ่นย่อย

Luxeed R7 2025 คือหนึ่งใน SUV ไฟฟ้า/EREV ที่ครบที่สุดในตลาดจีน ณ ตอนนี้ ทั้งกำลัง แบตใหญ่ ออปชั่นระดับเรือธง และระบบอัจฉริยะจาก Huawei ใครมองหารถขนาดกลาง-ใหญ่ ภายในสบาย ฟีเจอร์แน่น — รุ่นนี้คือหนึ่งในตัวเต็งที่มาแรงที่สุดของปี 2025

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้