เปิดตัว TOYOTA bZ 2026 ใหม่ อัปเกรดรอบด้าน ระยะวิ่ง 379 – 505 กม./ชาร์จ EPA ในสหรัฐฯ

เปิดตัว TOYOTA bZ 2026 ใหม่ อัปเกรดรอบด้าน ระยะวิ่ง 379 – 505 กม./ชาร์จ EPA ในสหรัฐฯ
Spread the love

Advertisement

Advertisement

  • ระยะทางสูงสุด 505 กม. ตามที่ผู้ผลิตประมาณการไว้ (รุ่น XLE, FWD Plus) เพิ่มขึ้น 25% จากรุ่นก่อนหน้า (ก่อนหน้านี้ประเมินไว้ที่ 405 กม.)
  • ติดตั้งพอร์ต North American Charging System (NACS) สำหรับการเข้าถึงสถานีชาร์จด่วน DC หลายพันแห่ง และยังมีคุณสมบัติ Plug & Charge ที่สะดวกอีกด้วย
  • แรงม้าเพิ่มขึ้นถึง 50% โดยมีแรงม้าสุทธิรวมของระบบ 338 แรงม้าในรุ่น AWD เพิ่มขึ้นจากแรงม้าสุทธิรวมของระบบ 214 แรงม้าในรุ่น AWD ก่อนหน้า
  • ภายนอกได้รับการออกแบบใหม่ โดยมีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบส่วนหน้าของแผงหน้าปัดและไฟส่องสว่าง พร้อมด้วยบังโคลนที่เข้าชุดกับสีใหม่เพื่อให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น
  • การออกแบบแผงหน้าปัดใหม่พร้อมหน้าจอสัมผัส Toyota Audio Multimedia ขนาด 14 นิ้วที่ใหญ่ขึ้นและไฟส่องสว่างรอบห้องโดยสารที่ปรับแต่งได้
  • มีให้เลือกทั้งรุ่น XLE และ Limited พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้าหรือทุกล้อ (FWD หรือ AWD)

Toyota bZ รุ่นปี 2026 – เปิดตัวอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ Plano, Texas – 13 พฤษภาคม 2025 Toyota เดินหน้ากลยุทธ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ประกาศเปิดตัว Toyota bZ รุ่นปี 2026 โดยเปลี่ยนชื่อจากเดิม bZ4X เป็นชื่อใหม่ที่เรียบง่ายว่า Toyota bZ พร้อมอัปเกรดรอบด้าน ทั้งระยะทาง สมรรถนะ ระบบชาร์จ ดีไซน์ และเทคโนโลยีภายในห้องโดยสาร

แบตเตอรี่ และระยะทางวิ่ง

มีให้เลือก 2 ขนาด:

  • 74.7 kWh (ใหม่)

  • 57.7 kWh (รุ่นพื้นฐาน)

ระยะทางวิ่งโดยประมาณ (ตามการประมาณของผู้ผลิต):

  • 505 กม. (XLE FWD Plus, 74.7 kWh)
  • 481 กม.(Limited FWD, 74.7 kWh)
  • 463 กม. (XLE AWD, 74.7 kWh)
  • 447 กม.(Limited AWD, 74.7 kWh)
  • 379 กม. (XLE FWD, 57.7 kWh)

เทคโนโลยีชาร์จไฟ

  • รองรับหัวชาร์จ NACS (แบบเดียวกับ Tesla)
  • ชาร์จเร็ว DC Fast Charge จาก 10% → 80% ภายใน ~30 นาที
  • Plug & Charge รองรับระบบจ่ายเงินอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้แอปหลายตัว
  • รองรับ AC Charging (ระดับ 1/2) กำลังไฟสูงสุด 11 kW (จากเดิม 7 kW)
  • ระบบ Pre-conditioning แบตเตอรี่ สำหรับช่วยให้ชาร์จเร็วขึ้นในสภาพอากาศหนาว

สมรรถนะ และขุมพลัง

  • AWD รุ่นใหม่ให้แรงม้ารวม 338 hp (เพิ่มขึ้น 50% จากรุ่นเดิมที่ 214 hp)
  • 0-60 ไมล์/ชม. ภายใน 4.9 วินาที
  • FWD ให้กำลัง สูงสุด 221 hp (จากเดิม 201 hp)
  • ใช้ eAxle แบบใหม่ พร้อม SiC semiconductor
  • ระบบขับเคลื่อน X-MODE + Grip Control ช่วยลุยทางออฟโรดในรุ่น AWD

ระบบช่วยเหลือขับขี่ (TSS 3.0)

ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น:

  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า + ตรวจจับคนเดินเท้า/จักรยาน
  • Radar Cruise Control พร้อม Lane Tracing Assist
  • เตือนออกนอกเลน + ช่วยดึงพวงมาลัย
  • Road Sign Assist + ไฟสูงอัตโนมัติ
  • Blind Spot Monitor + Rear Cross Traffic Alert
  • Safe Exit Alert เตือนหากเปิดประตูขณะมีรถ/จักรยานมาจากด้านหลัง
  • Traffic Jam Assist, Lane Change Assist, Front Cross-Traffic Alert (รุ่น Limited)

ดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอก-ภายใน

  • ดีไซน์หน้าใหม่: ไฟ DRL LED แบบแฮมเมอร์เฮด, กระจังหน้าสลิม, ซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถ (ในบางสี)

  • ขนาดตัวรถ: ยาว 184.6 นิ้ว | กว้าง 73.2 นิ้ว | สูง 65 นิ้ว | ฐานล้อ 112.2 นิ้ว | ความสูงใต้ท้องรถ 8.2 นิ้ว

  • ห้องโดยสารใหม่:
    – หน้าจอสัมผัส 14 นิ้ว (มาตรฐานทุกรุ่น)
    – ระบบแสง Ambient Light 64 สี
    – Wireless Charger คู่หน้า (Qi-compatible)
    – พวงมาลัย 3 ก้านพร้อม Paddle Regenerative Brake
    – ช่องชาร์จ USB-C 4 จุด
    – พื้นที่วางขาด้านหน้า 42.1 นิ้ว / ด้านหลัง 35.3 นิ้ว
    – พื้นที่เก็บสัมภาระ 27.7 ลูกบาศก์ฟุต


ระดับการตกแต่ง (Grades)

XLE

  • เลือกได้ทั้ง FWD / FWD Plus / AWD
  • ล้ออัลลอย 18 นิ้ว
  • เบาะผ้า/SoftTex ปรับไฟฟ้าคู่หน้า
  • ระบบเสียง 6 ลำโพง
  • ฝาท้ายไฟฟ้าเปิดด้วยเท้า
  • ระบบ Paddle เบรกแบบ Regenerative
  • TSS 3.0 + Digital Key (ทดลองใช้ฟรี)

Limited (เพิ่มจาก XLE):

  • ล้ออัลลอย 20 นิ้ว
  • เบาะ SofTex ปรับไฟฟ้า 8 ทิศ พร้อมระบบทำความร้อน-ระบายอากาศ
  • Multi-LED Headlights
  • ระบบช่วยเปลี่ยนเลน, Traffic Jam Assist, Advanced Park
  • ระบบเสียง JBL 9 ลำโพง (ตัวเลือกเสริม)

การเชื่อมต่อ & Connected Services

  • Toyota Audio Multimedia พร้อม Intelligent Assistant (“Hey Toyota”)
  • Cloud Navigation ด้วยข้อมูล Google POI
  • Wi-Fi Connect (ทดลอง 30 วัน/3GB) ใช้งานได้สูงสุด 5 อุปกรณ์
  • รองรับ Apple Music / Amazon Music
  • Remote Connect (3 ปี): เปิดแอร์, ตั้งเวลาชาร์จ, ปลดล็อคท้าย, Digital Key
  • Safety Connect + Service Connect (5 ปี): แจ้งเตือนอุบัติเหตุ, รายงานสุขภาพรถ

การรับประกัน

  • รับประกันพื้นฐาน 3 ปี/36,000 ไมล์
  • ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า รับประกัน 8 ปี/100,000 ไมล์
  • ฟรีค่าบำรุงรักษา 2 ปี/25,000 ไมล์ และ Roadside Assistance 3 ปี

วันวางจำหน่าย: คาดว่าจะเริ่มเข้าสู่โชว์รูม Toyota ในช่วง ครึ่งหลังของปี 2025

ราคา: จะมีการประกาศใกล้วันวางจำหน่ายจริง

Advertisement

Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้