ในปี 2009 GEELY กู้เงินมาซื้อ VOLVO สุดท้ายสิ่งที่เขาทำ คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่พาบริษัทขึ้นสู่เวทีโลก

สรุป: การซื้อกิจการ Volvo ของ Geely
- ปี 2009: หลี่ซูฝู ประธาน Geely กู้เงิน 12,000 ล้านหยวน เพื่อซื้อ Volvo จาก Ford ในราคา 6 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 200,286 ล้านบาท
- ถูกมองว่าเป็นการ “ลงทุนที่ล้มเหลว” และถูกเย้ยว่าเป็น “กบอยากกินเนื้อหงส์”
- Geely ให้ Volvo บริหารอย่างอิสระ และใช้กลยุทธ์ “แบรนด์พี่น้อง” ไม่ใช่บริษัทลูก
- ปี 2013: ร่วมตั้งศูนย์วิจัยในยุโรป เสริมเทคโนโลยีและบุคลากร
-
ผลลัพธ์:
- Volvo ยอดขายโตจาก 450,000 คัน (2011) → 696,000 คัน (2021)
- มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้น 10 เท่า
- Geely ยังซื้อ Lotus, Proton, Polestar และสร้างแบรนด์ใหม่อย่าง Lynk & Co, Zeekr
- ปี 2022: Lotus และ Zeekr เข้าตลาดหุ้น
- การซื้อกิจการครั้งนี้ พา Geely สู่ระดับโลก และกลายเป็น กรณีศึกษาความสำเร็จ ของจีนในการซื้อแบรนด์ยุโรป
การซื้อกิจการด้วยการกู้เงินของ Geely เคยถูกเย้ยว่าเป็น “กบอยากกินเนื้อหงส์”
15 ปีผ่านไป การซื้อกิจการครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ Geely ลบล้างคำสบประมาทจากภายนอก แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่พาบริษัทขึ้นสู่เวทีโลก
ในปี 2009 “หลี่ซูฝู” ประธานของ Geely ตัดสินใจกู้เงินถึง 12,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 55,576 ล้านบาท เพื่อซื้อกิจการ Volvo จาก Ford ด้วยมูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 200,286 ล้านบาท ขณะนั้น Geely ยังเป็นเพียงแบรนด์เล็ก ๆ มียอดขายน้อย และไม่อาจเทียบชั้นกับ Volvo ได้เลย
เกือบทุกคนในเวลานั้นมองว่า Geely กำลังเสี่ยงเดิมพันอย่างบ้าคลั่ง เหมือนนักพนันที่ทุ่มสุดตัว แต่หลี่ซูฝูกลับยืนยันจะเดินหน้า เขาใช้ความเชื่อมั่นอันแน่วแน่ฝ่าฟันวิกฤตการเงิน พร้อมกู้เงินมาปิดดีล แม้แต่ Ford เองยังต้องปล่อยกู้ให้อีก 200 ล้านดอลลาร์
ในขณะที่บริษัทรถยนต์จีนรายอื่นมักล้มเหลวจากการซื้อกิจการต่างชาติ ก็ยิ่งทำให้ Geely ถูกมองด้วยความสงสัยมากขึ้น
แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นอย่างที่หลายคนคาดคิด — การซื้อกิจการ Volvo กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยน Geely ไม่ได้ทำให้ Volvo กลายเป็นเพียงแค่ “บริษัทลูก” แต่ให้ความเป็นอิสระ และเปิดตัวกลยุทธ์ “แบรนด์พี่น้อง” Geely – Volvo อย่างเป็นทางการ
ปี 2013 Geely และ Volvo ก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งยุโรปร่วมกัน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารระดับสูงจำนวนมาก วางรากฐานสู่ความเป็นสากลในอนาคต
Volvo ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง — จากยอดขาย 450,000 คันทั่วโลกในปี 2011 ขยับขึ้นเป็น 696,000 คันในปี 2021 ราคาหุ้น Volvo จากเดิม 6.64 ดอลลาร์ หรือ 221 บาทพุ่งไปแตะ 19.79 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 666 บาท เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า ไม่เพียงสร้างผลตอบแทนอันงดงามให้กับ Geely แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในระดับโลกอย่างแท้จริง
หลังจากนั้น Geely ยังเข้าซื้อกิจการอื่น เช่น Proton, Lotus, Polestar จนสร้าง “พอร์ตแบรนด์” ที่ครอบคลุมหลากหลายตลาด
ปี 2022 Lotus และ Zeekr (Extreme Kr) เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นอย่างสำเร็จ กระบวนการสู่ความเป็นสากลของ Geely ก้าวไปอีกขั้น
Geely ไม่ใช่แบรนด์เล็ก ๆ อีกต่อไป พวกเขาไม่เพียงรับเทคโนโลยีจาก Volvo มาเท่านั้น แต่ยังใช้สร้างแบรนด์ใหม่อย่าง Lynk & Co ที่ประสบความสำเร็จ
หลี่ซูฝู ผู้ที่เคยถูกมองว่า “พนันด้วยชีวิต” วันนี้เขาไม่เพียงช่วยชุบชีวิต Volvo แต่ยังนำพา Geely ไปสู่จุดสูงสุดแห่งวงการรถยนต์ระดับโลก
มูลค่าของ VOLVO ในปัจจุบัน
ณ เดือนพฤษภาคม 2025 มูลค่าตลาด (Market Capitalization) ของ Volvo Car AB อยู่ที่ประมาณ 5.94 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 198,000 บาท ซึ่งลดลงอย่างมากจากมูลค่าประมาณ 18 พันล้านดอลลาร์ในช่วงที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2021
แม้จะมีการเติบโตด้านยอดขาย โดยในปี 2024 Volvo มียอดขายรถยนต์ทั่วโลกถึง 763,389 คัน เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า และรายได้รวมทะลุ 400 พันล้านโครนาสวีเดน (ประมาณ 36.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.21 ล้านล้านบาท) แต่ราคาหุ้นของบริษัทกลับลดลงถึง 75% ในช่วงสามปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน Geely Holding ยังคงถือหุ้นใหญ่ใน Volvo Cars ประมาณ 78% . อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า Geely กำลังพิจารณาขายหุ้นบางส่วนใน Volvo Cars เพื่อปรับโครงสร้างการถือหุ้น
ในด้านกลยุทธ์ Volvo ได้ปรับเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า โดยยกเลิกแผนเดิมที่จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2030 เนื่องจากความท้าทายของอุตสาหกรรม . แม้จะมีการเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า แต่บริษัทคาดการณ์ว่าปี 2025 จะเป็นปีที่ท้าทาย เนื่องจากความไม่แน่นอนในตลาดและการชะลอตัวของความต้องการ
สรุปมูลค่าและสถานการณ์ของ Volvo ในปี 2008:
- เจ้าของในขณะนั้น: Ford Motor Company (ซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 1999)
- สถานะในปี 2008: Ford กำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงินอย่างหนัก และพิจารณาขายแบรนด์ Volvo เพื่อรักษาสภาพคล่อง
-
ประมาณมูลค่าตลาด (Est. Value):
รายงานต่างประเทศในช่วงปลายปี 2008 ประเมินว่า Ford ต้องการขาย Volvo ในราคาประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (6 billion USD)
แต่ตลาดทั่วไปมองว่า มูลค่าที่แท้จริงอาจต่ำกว่านั้นมาก ประมาณ 2 – 4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 66,760 – 133,500 ล้านบาท เท่านั้น เพราะ:- ผลประกอบการขาดทุน
- การพึ่งพาตลาดยุโรปที่กำลังหดตัว
- ต้นทุนการผลิตสูงจากฐานโรงงานในยุโรปเหนือ
หมายเหตุ: ในท้ายที่สุด Geely ได้ซื้อกิจการ Volvo ในปี 2010 ที่มูลค่าเพียง 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 60,084 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่ Ford เคยตั้งราคาไว้มาก