HONDA ประกาศแผน เตรียมเปิดตัว HYBRID 13 รุ่นทั่วโลกระหว่าง 2027–2031 พร้อม ADAS รุ่นล้ำ! ใหม่

สรุปกลยุทธ์ใหม่ของ Honda ปี 2025
1. กลยุทธ์รถยนต์ (4 ล้อ)
- EV ชะลอแผนบางส่วน: EV ยังเป็นเป้าหมายระยะยาว แต่ตลาดชะลอ จึงปรับเป้า ขาย EV ปี 2030 จะต่ำกว่า 30%
- เน้น Hybrid ระยะสั้น: เตรียมเปิดตัว Hybrid รุ่นใหม่ 13 รุ่นทั่วโลก (2027–2031)
- พัฒนา ADAS รุ่นใหม่: ขับจากต้นทางถึงปลายทางได้ทั้งในเมืองและทางด่วน เริ่มใช้ปี 2027 ในญี่ปุ่น/อเมริกา
- Honda 0 Series: EV เจเนอเรชันใหม่เริ่มปี 2026 พร้อมระบบ ASIMO OS และ SoC ใหม่แรงระดับ 2,000 TOPS
- โลโก้ใหม่: ใช้ H Mark ใหม่ใน EV และ Hybrid ตั้งแต่ปี 2027
- ผสมสายการผลิต: EV + Hybrid ผลิตร่วมกันในสายเดียว ปรับตามความต้องการได้ยืดหยุ่น
2. กลยุทธ์มอเตอร์ไซค์ (2 ล้อ)
- ปี 2025 ขายได้กว่า 20.57 ล้านคัน กินส่วนแบ่งตลาดโลก 40%
- ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 60 ล้านคันภายในปี 2030 โดยเน้น Global South
- เร่งขายรถไฟฟ้ารุ่น CUV e:, ICON e: ในเอเชีย-ยุโรป
- ตั้งโรงงานรถไฟฟ้าเฉพาะทางในอินเดียปี 2028
- เป้าหมายส่วนแบ่งตลาดรถสองล้อโลก 50% และ ROS เกิน 15% ภายในปี 2031
3. กลยุทธ์การเงิน
- ปรับลดแผนลงทุนจาก 10 ล้านล้านเยน → เหลือ 7 ล้านล้านเยน (≈ 1.61 ล้านล้านบาท)
- เน้นลงทุน Hybrid มากขึ้น ลด EV ชั่วคราว
- ตั้งเป้า ROIC ปี 2031 ที่ 10%
- สร้างกระแสเงินสด 5 ปี (2027–2031) มากกว่า 12 ล้านล้านเยน
- คืนผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 1.6 ล้านล้านเยน (≈ 368,000 ล้านบาท)
Honda แถลงแนวทางใหม่ด้านยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและความอัจฉริยะ (ADAS) สำหรับยานยนต์สี่ล้อ
1. สถานการณ์ตลาด EV และการปรับแนวทางของ Honda
Honda ยืนยันเป้าหมายสำคัญคือ “ความเป็นกลางทางคาร์บอนในทุกผลิตภัณฑ์และกิจกรรมของบริษัทภายในปี 2050” และ “ไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถ Honda” พร้อมย้ำว่า EV เป็นทางออกระยะยาวสำหรับการเดินทางที่ยั่งยืน แต่สภาพตลาดปัจจุบันยังไม่แน่นอน ทั้งในแง่กฎระเบียบสิ่งแวดล้อมและนโยบายการค้าของแต่ละภูมิภาค
ดังนั้น Honda จะปรับกลยุทธ์ EV ด้วย 2 แกนหลัก:
- เสริมความแข็งแกร่งของ EV และ Hybrid ผ่านการพัฒนาด้านความอัจฉริยะ (ADAS)
- ปรับโครงสร้างกลุ่มระบบส่งกำลัง (Powertrain) เพื่อสร้างฐานธุรกิจที่มั่นคง
1-1. การพัฒนา ADAS รุ่นถัดไป
Honda พัฒนา ADAS ที่ช่วยขับรถจากต้นทางถึงปลายทางทั้งบนทางหลวงและในเมือง โดยเน้นการขับในเขตเมืองที่มีความซับซ้อน ด้วยเทคโนโลยีจากการพัฒนา AD (ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ)
ระบบใหม่นี้จะเริ่มใช้ใน EV และ Hybrid รุ่นหลักในอเมริกาเหนือและญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2027 โดยจะสามารถติดตั้งในรถขนาดเล็กได้ด้วยหลักการ “Man Maximum / Machine Minimum” ของ Honda (เพิ่มพื้นที่ให้ผู้โดยสารสูงสุด ลดพื้นที่ของเครื่องจักร)
Honda ยังจับมือกับ Momenta สตาร์ตอัปด้าน AD ของจีน เพื่อพัฒนา ADAS ที่เหมาะกับถนนในประเทศจีน โดยจะใช้ในรถใหม่ทุกคันในตลาดจีน
1-2. กลยุทธ์ใหม่ของ Hybrid
พัฒนาระบบ 2 มอเตอร์ “e:HEV” ให้มีประสิทธิภาพระดับโลก ด้วย:
- เพิ่มพื้นที่ทำงานของเครื่องยนต์ในโซนประหยัด
- ปรับปรุงประสิทธิภาพของชุด Hybrid
- พัฒนาแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ที่เบา ควบคุมแม่นยำ
- ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า (e-AWD) รุ่นใหม่
เป้าหมาย: ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น >10%, ลดต้นทุน Hybrid รุ่นใหม่ลง 30% เมื่อเทียบกับปี 2023 และ >50% เมื่อเทียบกับปี 2018 โดยลดต้นทุนผ่านการใช้ชิ้นส่วนร่วมกัน การผลิตที่มีประสิทธิภาพ และความร่วมมือกับพันธมิตร
ตลาดอเมริกาเหนือ: เตรียม Hybrid สำหรับรถขนาดใหญ่ที่เน้นพลังลากและสมรรถนะสูง เปิดตัวช่วงปลายยุค 2020s
แผนปี 2027–2031: เปิดตัว Hybrid เจเนอเรชันใหม่ 13 รุ่นทั่วโลก
1-3. การส่งเสริม EV ในอนาคต
แม้ยอดขาย EV จะต่ำกว่าเป้าหมายเดิม 30% ภายในปี 2030 แต่ Honda ยังยืนยันว่า EV คือทางออกที่เหมาะสมในระยะยาว โดยจะเดินหน้าพัฒนาตามแผนอย่างระมัดระวัง
EV หลักในอนาคตคือซีรีส์ “Honda 0” ซึ่งเริ่มขายในปี 2026
- ใช้ OS ที่พัฒนาจาก ASIMO หุ่นยนต์ของ Honda
- เป็นรถประเภท SDV (Software Defined Vehicle)
- พัฒนาชิป SoC ร่วมกับ Renesas: ประสิทธิภาพสูงถึง 2,000 TOPS ที่ 20 TOPS/W (ค่าประมาณ = 460 TOPS/วัตต์)
1-4. สรุปแนวทางใหม่ของกลยุทธ์ EV
Honda ต้องการให้รถของตนตอบสนองได้ทั้งแบบ “ขับเองอย่างเร้าใจ” และ “เดินทางสบายอัตโนมัติ” บนทุกเส้นทาง โดยจะเริ่มใช้โลโก้ H แบบใหม่กับ EV และ Hybrid รุ่นหลักตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป
1-5. ระบบการผลิตและจัดหาชิ้นส่วน
Honda วางแผนใช้สายการผลิตที่ยืดหยุ่น ผลิต EV และ Hybrid ร่วมกันเพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลง โดยจะใช้หลัก “ผลิตในที่ที่มีความต้องการ” ควบคู่กับการเสริมแกร่งซัพพลายเชนทั้งในและต่างประเทศ
2. กลยุทธ์รถจักรยานยนต์
- ปีงบ 2025 มียอดขาย 20.57 ล้านคัน ครองส่วนแบ่งตลาดโลก ~40%
- คาดยอดขายรวมทั่วโลกจะเพิ่มจาก 50 ล้านเป็น 60 ล้านคันในปี 2030
- จะเร่งพัฒนา EV 2 ล้อ และพัฒนาเครื่องยนต์ ICE ให้ประหยัดยิ่งขึ้น รองรับเชื้อเพลิงทางเลือก
รุ่นเด่นของปีนี้:
- ACTIVA e: และ QC1 ในอินเดีย
- CUV e: และ ICON e: วางจำหน่ายแล้วในอินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ และจะเปิดตัวในยุโรปและญี่ปุ่นภายในปีนี้
ภายในปี 2028 จะเปิดโรงงานผลิตรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเฉพาะทางในอินเดีย
เป้าหมายระยะยาว:
- ครองส่วนแบ่ง No.1 ในตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
- มีส่วนแบ่ง 50% ของตลาดมอเตอร์ไซค์โลก
- บรรลุ ROS (อัตรากำไรจากยอดขาย) ที่ >15% ในปี 2030
3. กลยุทธ์ด้านการเงิน
- เป้าหมาย ROIC (อัตราผลตอบแทนจากเงินลงทุน) = 10% ภายในปี 2031
- ปรับลดงบลงทุนจาก 10 ล้านล้านเยน → เหลือ 7 ล้านล้านเยน (ลดลง ~3 ล้านล้านเยน ≈ 690,000 ล้านบาท)
- EV ได้รับการเลื่อนลงทุนบางส่วน เช่น โครงการในแคนาดา
- วางแผนสร้างกระแสเงินสดมากกว่า 12 ล้านล้านเยน (~2.76 ล้านล้านบาท) ภายใน 5 ปีจากปี 2027
- ยังคงตั้งเป้าคืนผลตอบแทนผู้ถือหุ้นมากกว่า 1.6 ล้านล้านเยน (~368,000 ล้านบาท)
- จะนำระบบ DOE (Dividend on Equity) มาใช้ในการคำนวณเงินปันผลให้เหมาะสมกับการเติบโตของธุรกิจ