โบกมือรถยนต์ไฟฟ้า Foxconn ขายโรงงาน EV ในสหรัฐฯกว่า 12,144 ล้านบาท
Foxconn ขายโรงงาน EV ในสหรัฐฯ มูลค่า 375 ล้านดอลลาร์ หรือ 12,144 ล้านบาท – พลิกเกมจากรถไฟฟ้าสู่ฮาร์ดแวร์ AI แต่ยังไม่ทิ้งฝัน EV
เมื่อพูดถึง Foxconn คนส่วนใหญ่มักนึกถึงชื่อผู้ผลิต iPhone ให้กับ Apple แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Foxconn ได้พยายามก้าวข้ามโลกของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เข้าสู่โลกของ “รถยนต์ไฟฟ้า” ด้วยความมุ่งหวังที่จะเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
แต่ล่าสุด กลับเกิดความเคลื่อนไหวสำคัญที่อาจสะท้อนถึงการเปลี่ยนทิศทางของยักษ์ใหญ่จากไต้หวันรายนี้ — Foxconn ตัดสินใจขายโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐฯ พร้อมเครื่องจักรและอุปกรณ์เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมมูลค่าดีลกว่า 375 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 12,144 ล้านบาท)
จากความหวังของ Lordstown… สู่การล่มสลายของดีล EV
โรงงานแห่งนี้เคยเป็นของ General Motors มาก่อน ก่อนที่ Lordstown Motors จะเข้าซื้อไปเพื่อพัฒนารถกระบะไฟฟ้า “Endurance” และต่อมาก็ขายต่อให้กับ Foxconn ในปี 2021 ด้วยความคาดหวังว่าจะใช้เป็นฐานการผลิต EV ในอเมริกาเหนือ
Foxconn เริ่มผลิตรถ Endurance ร่วมกับ Lordstown ได้เพียงไม่กี่คัน ก่อนที่ความร่วมมือจะล้มเหลว และ Lordstown Motors ต้องยื่นขอล้มละลายในปี 2023
อีกแผนหนึ่งที่ล่มไปเช่นกันคือความร่วมมือกับ Fisker เพื่อผลิตรถ SUV ไฟฟ้า “Ocean” ที่โรงงานนี้ ซึ่งไม่เคยเดินหน้าจริงจัง
เบื้องหลังดีลลับ – ใครคือผู้ซื้อ?
ตามเอกสารจากตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน Foxconn ขายที่ดินและโรงงานในราคา 88 ล้านดอลลาร์ และขายเครื่องจักร-อุปกรณ์ในเครือ EV ออกไปอีก 287 ล้านดอลลาร์
ผู้ซื้อคือบริษัทน้องใหม่ชื่อ “Crescent Dune LLC” ที่เพิ่งก่อตั้งในรัฐเดลาแวร์เพียง 12 วันก่อนหน้าดีลนี้ โดยมีรายงานว่าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเดิมของ Foxconn เอง
เปลี่ยนทิศสู่ AI แต่ยังไม่ล้มเลิก EV
แม้จะขายทรัพย์สินฝั่ง EV ออกไป แต่ Foxconn ยังระบุว่า “ยังคงดำเนินงานในพื้นที่โรงงานเดิมต่อไป” และมีแผนขยายไปสู่ ธุรกิจใหม่ โดยจะเน้นการผลิต ฮาร์ดแวร์สำหรับคลาวด์คอมพิวติ้ง และระบบ AI ซึ่งสอดคล้องกับกระแสอุตสาหกรรมโลกที่กำลังโฟกัสเรื่อง AI อย่างเข้มข้น
อย่างไรก็ตาม Foxconn ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีแผนผลิต รถ SUV ไฟฟ้า Model C ภายในไตรมาส 4 ปี 2025 ในโรงงานอีกแห่งในอเมริกาเหนือ
นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่าบริษัทกำลังจะจับมือกับผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นรายใหญ่อย่าง Nissan หรือ Mitsubishi เพื่อรับจ้างผลิตรถ EV ให้ในอนาคต
วิเคราะห์: Foxconn ไม่ล้มเลิก EV แต่มองเกมกว้างขึ้น
การขายโรงงานแห่งนี้อาจดูเหมือน “ยอมแพ้” ในสมรภูมิ EV แต่หากมองให้ลึก Foxconn กำลัง “กระจายความเสี่ยง” และสร้างความยืดหยุ่นทางธุรกิจ โดยไม่ทิ้งจุดแข็งเดิมด้านการผลิตอิเล็กทรอนิกส์
ในขณะที่ธุรกิจรถ EV ยังคงเผชิญความท้าทายเรื่องต้นทุน ซัพพลายเชน และการแข่งขันที่ดุเดือด Foxconn อาจมองว่าการเจาะตลาด AI และ Cloud Hardware ที่เติบโตเร็วคือโอกาสที่จับต้องได้มากกว่าในเวลานี้
แต่ด้วยการเตรียมเปิดสายการผลิตรถ Model C และเจรจากับพันธมิตรรถญี่ปุ่น การเดิมพันของ Foxconn ในตลาด EV ก็ยังไม่จบ — เพียงแต่อาจไม่ได้ใช้วิธีแบบเดิมอีกต่อไป
