ไซเบอร์ช็อกสะเทือน JLR สะเทือนโรงงานทั่วโลกหยุดผลิตยาว เสียหายกว่า 7 หมื่นล้านบาท!

Jaguar Land Rover (JLR) ผู้ผลิตรถหรูชื่อดังจากอังกฤษ ต้องเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ เมื่อเกิดเหตุโจมตีทางไซเบอร์ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2025 ทำให้ระบบไอทีของบริษัทต้องปิดตัวลง ส่งผลให้สายการผลิตรถยนต์ทั่วโลกต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะโรงงานหลักในสหราชอาณาจักรที่ Solihull, Halewood และ Wolverhampton
การหยุดผลิตครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลแค่ต่อ JLR เอง แต่ยัง กระทบทั้งห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ซึ่งเต็มไปด้วยบริษัทซัพพลายเออร์ขนาดกลางและเล็ก ที่พึ่งพารายได้จาก JLR เป็นหลัก ความเสียหายจึงกำลังลุกลามเป็นวงกว้างในอุตสาหกรรมยานยนต์อังกฤษ
ตอนนี้มีโรงงานของ JLR ที่ “หยุดการผลิต” เพราะเหตุโจมตีไซเบอร์ปลายเดือนสิงหาคม 2025
โรงงานที่ยืนยันแล้วว่าปิดชั่วคราว
-
Solihull (UK) – โรงงานผลิต Range Rover, Range Rover Sport และ Defender
-
Halewood (UK) – โรงงานผลิต Land Rover Discovery Sport และ Range Rover Evoque
-
Wolverhampton (UK) – Jaguar Land Rover Engine Manufacturing Centre (EMC) โรงงานผลิตเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
รวมแล้ว 3 โรงงานหลักในสหราชอาณาจักร ที่หยุดการผลิตแน่นอน
โรงงานต่างประเทศ
-
จีน (Changshu, JV กับ Chery)
-
สโลวาเกีย (Nitra)
-
บราซิล (Itatiaia)
-
อินเดีย (Pune)
กลุ่มนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันชัดว่าหยุดทั้งหมดหรือไม่ แต่เนื่องจากระบบไอทีโลกของ JLR ถูกปิด มีความเป็นไปได้ว่าส่งผลกระทบต่อการประกอบ / การจัดการชิ้นส่วนเช่นกัน
สถานการณ์ล่าสุด
-
JLR ยืนยันว่าจะไม่สามารถกลับมาผลิตได้จนถึง อย่างน้อย 1 ตุลาคม
-
แต่มีแหล่งข่าววงในบอกกับ BBC ว่า ความวุ่นวายอาจยืดเยื้อไปจนถึง พฤศจิกายน
-
มูลค่าความเสียหาย ณ ตอนนี้
-
ขาดทุนไปแล้ว 120 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,161 ล้านบาท)
-
สูญเสียรายได้กว่า 1.7 พันล้านปอนด์ (ราว 73,117 ล้านบาท)
-
เสียงจากรัฐบาล
รัฐมนตรีธุรกิจ Peter Kyle และรัฐมนตรีอุตสาหกรรม Chris McDonald เดินทางไปที่โรงงาน JLR เพื่อตรวจสถานการณ์ และรับฟังเสียงจากทั้งพนักงานและบริษัทซัพพลายเออร์
รัฐบาลย้ำชัดว่า มี 2 เป้าหมายหลัก
-
ทำให้ JLR กลับมาผลิตได้โดยเร็วที่สุด
-
ดูแลห่วงโซ่อุปทานและพนักงานที่ได้รับผลกระทบ
Chris McDonald กล่าวชัดว่า “นี่ไม่ใช่ความผิดของแรงงานหรือซัพพลายเออร์ แต่พวกเขากำลังเดือดร้อนเพราะการหยุดผลิต และรัฐบาลต้องยืนอยู่ข้างพวกเขา”
เสียงจากซัพพลายเออร์
บริษัทที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของ JLR ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใน West Midlands ซึ่งเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมยานยนต์อังกฤษ
-
Johnathan Dudley จาก Crowe UK (บริษัทที่ปรึกษา) เล่าว่า ผู้ประกอบการจำนวนมาก “อยากให้เสียงของพวกเขาถูกได้ยิน”
-
หลายบริษัทไม่กล้าโวยวายออกสื่อ เพราะกลัวถูกมองว่ากำลังโจมตี JLR
-
แต่เบื้องหลังคือ “เสียงร้องขอความช่วยเหลือ” เพราะบางบริษัทเริ่ม ไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างพนักงาน แล้ว
สถานการณ์แรงงาน
สหภาพแรงงาน Unite เปิดเผยว่า คนงานบางรายของซัพพลายเออร์ถูกเลิกจ้าง และบางส่วนถูกสั่งให้ไปลงทะเบียน Universal Credit (สวัสดิการว่างงาน)
-
บางโรงงานให้พนักงานหยุดทำงาน โดยได้ค่าจ้างลดลงหรือไม่ได้รับเลย
-
Unite เรียกร้องให้มี โครงการ furlough (พักงานพร้อมรับเงินชดเชย) เหมือนช่วงโควิด-19 เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ทำไมเรื่องนี้ร้ายแรง
-
ห่วงโซ่อุปทานอัตโนมัติ (Just-in-time supply chain)
-
โรงงานรถยนต์อย่าง JLR ทำงานแบบสต็อกน้อยมาก
-
เมื่อการผลิตหยุด ซัพพลายเออร์ที่ส่งชิ้นส่วน (ตั้งแต่เบาะ, ระบบไฟฟ้า, ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ฯลฯ) ก็หยุดงานทันที
-
ทำให้บริษัทเล็ก ๆ ขาดกระแสเงินสดอย่างรวดเร็ว
-
-
เศรษฐกิจท้องถิ่น
-
West Midlands พึ่งพาอุตสาหกรรมรถยนต์สูงมาก
-
การหยุดผลิตนานหลายเดือนอาจทำให้กิจการ SME ล้มละลาย และคนงานหลายพันคนตกงาน
-
-
ภาพลักษณ์ของ JLR
-
ปกติ JLR ต้องแข่งขันกับคู่แข่งเยอรมันอย่าง BMW, Mercedes-Benz, Audi
-
การหยุดผลิตนานแบบนี้ทำให้ เสียยอดขาย, เสียลูกค้า และเสียความเชื่อมั่น
-
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ
-
David Bailey ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัย Birmingham ประเมินว่า ผลกระทบทางการเงินจะทวีคูณหากการหยุดผลิตลากยาวเกิน 2 เดือน
-
JLR กำลังพยายาม “แก้ปัญหาด้วยตัวเอง” โดยช่วยเหลือซัพพลายเออร์ก่อน แทนที่จะขอความช่วยเหลือจากรัฐโดยตรง