OMODA & JAECOO อะไหล่พร้อมกว่า 94% และจะครบ 100% ภายในตุลาคม 2568

OMODA & JAECOO เปิดศักยภาพบริการหลังการขายระดับพรีเมียม รองรับยอดจอง JAECOO 5 EV และทุกรุ่น ด้วยทีมช่างมาตรฐานสากล

กรุงเทพฯ, 23 กันยายน 2568 – OMODA & JAECOO (โอโมด้า แอนด์ เจคู่) แบรนด์ยานยนต์พลังงานใหม่ระดับพรีเมียมในเครือ Chery เดินหน้าตอกย้ำความมุ่งมั่นด้านการบริการหลังการขายในประเทศไทย ประกาศแผนยกระดับมาตรฐานสู่ระดับสากล รองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของยอดจอง JAECOO 5 EV รวมถึงรถยนต์ทุกรุ่นในอนาคต

ไฮไลท์สำคัญจากการแถลงข่าว

• อะไหล่พร้อมกว่า 94% และจะครบ 100% ภายในตุลาคม 2568

• รองรับการเข้าศูนย์จาก 1,200 คัน → 5,000 คัน ภายในสิ้นปี

• จัดส่งอะไหล่ด่วนพิเศษ กรุงเทพฯ และปริมณฑลภายใน 24 ชม. ต่างจังหวัดไม่เกิน 3 วันทำการ

• ศูนย์กระจายอะไหล่ DHL บางนา บนพื้นที่กว่า 2,500 ตร.ม. ได้มาตรฐาน ISO 9002, ISO 14001 และ ISO 45001

• สำรองอะไหล่ 30% ของยอดขาย สูงกว่ามาตรฐานตลาดทั่วไป

• อบรมทีมช่าง 3–4 หลักสูตร/เดือน โดยผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานใหญ่ ครอบคลุมทั้งพื้นฐาน–ขั้นสูง และเฉพาะทางด้าน EV

• ผู้จำหน่ายครอบคลุมแล้ว 56 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 60 แห่งภายในก.ย. 2568

  Advertisement Advertisement

เสริมความมั่นใจด้วยการลงทุนด้าน After-Sales

คุณบิล จาง กรรมการผู้จัดการ OMODA & JAECOO ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทไม่เพียงแต่มุ่งนำเสนอเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานใหม่ แต่ยังให้ความสำคัญกับ ความต่อเนื่องของการดูแลหลังการขาย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าไทย โดยเฉพาะในกลุ่ม รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ต้องการมาตรฐานการบริการเฉพาะด้าน

การลงทุนในศูนย์กระจายอะไหล่ขนาดใหญ่ที่ DHL บางนา ช่วยเสริมความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว มีอะไหล่ครบถ้วน และได้มาตรฐานความปลอดภัยในการเก็บชิ้นส่วนสำคัญอย่างแบตเตอรี่แรงดันสูง

พัฒนาบุคลากรไทยสู่ทีมช่างมาตรฐานโลก

หนึ่งในหัวใจสำคัญคือการสร้างทีมช่างผู้เชี่ยวชาญชาวไทยให้เทียบเท่าสากล โดยจัดให้มีการอบรมอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยเดือนละ 3–4 หลักสูตร โดยมีทั้งการ สอบก่อน-หลังการอบรม เพื่อวัดผลความรู้จริง ไม่ใช่แค่การเรียนเชิงทฤษฎี

การอบรมครอบคลุมตั้งแต่ ระดับพื้นฐาน–ขั้นสูง ไปจนถึง เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าเฉพาะทาง เพื่อให้ทีมงานสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นรถ OMODA หรือ JAECOO รุ่นปัจจุบันและอนาคต

สู่เครือข่ายผู้จำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ

ปัจจุบัน OMODA และ JAECOO มีผู้จำหน่าย 56 แห่งทั่วไทย และจะเพิ่มเป็น 60 แห่งภายในสิ้นเดือนกันยายน 2568 โดยทุกแห่งได้รับการรับรองมาตรฐานการบริการระดับสากล พร้อมทีมงานมืออาชีพที่ผ่านการฝึกอบรมเต็มรูปแบบ

การเปิดเกมรุกด้าน บริการหลังการขาย ครั้งนี้ของ OMODA & JAECOO ถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าคนไทยว่าการเลือกซื้อรถแบรนด์ใหม่ในตลาดจะไม่ใช่การ “ลองเสี่ยง” อีกต่อไป แต่เป็นการลงทุนใน เทคโนโลยี + การบริการที่ยั่งยืน

โดยเฉพาะ JAECOO 5 EV ที่กำลังมาแรง การเสริมทัพด้วยศูนย์กระจายอะไหล่ การฝึกอบรมทีมช่าง และการขยายโชว์รูม จะช่วยให้แบรนด์ใหม่รายนี้ยืนระยะในตลาดไทยได้อย่างมั่นคง และท้าทายคู่แข่งในกลุ่มพรีเมียม EV อย่างแท้จริง