ยอดขาย BYD ตกครั้งแรกในรอบ 5 ปี! แม้จะมีการพยุงด้วยยอดส่งออกมากขึ้น

BYD ยอดขายทั่วโลกลดครั้งแรกในรอบ 5 ปี กำลังเผชิญแรงกดดันในบ้านเกิด แต่ยังพยุงตัวได้ด้วยแบรนด์ลูกและการส่งออก
กันยายน 2025 – ยักษ์ใหญ่รถยนต์ไฟฟ้าจีนอย่าง BYD Group ประกาศยอดขายเดือนกันยายนลดลง 5.9% เหลือเพียง 393,060 คัน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้สองเดือนติดกัน (กรกฎาคม–สิงหาคม) ยอดขายแทบไม่เติบโต นับเป็นสัญญาณสะท้อนว่า “ความร้อนแรง” ของ BYD ในตลาดจีนเริ่มชะลอตัวลง
จุดอ่อน แบรนด์ BYD และ PHEV ที่ร่วงไม่หยุด
สาเหตุสำคัญมาจาก แบรนด์ BYD เอง ที่ยอดขายเดือนกันยายนลดลง 11.4% เหลือ 355,774 คัน ต่อเนื่องจากเดือนสิงหาคมที่หดตัว 3.6% โดยเฉพาะตลาดบ้านเกิดจีนที่กำลังเผชิญ สงครามราคา ซึ่งรุนแรงจนแทบไม่มีค่ายไหนสามารถลดราคาลงได้อีก
ตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายของ BYD ในจีนลดลงเฉลี่ยกว่า 20% ขณะที่กลุ่ม PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด) ซึ่งเคยเป็นหมัดเด็ดของ BYD ก็เจอวิกฤตหนัก ยอดขายเดือนกันยายนร่วงถึง 25.6% เหลือ 188,010 คัน และถือเป็นการลดลงติดต่อกันยาวนานถึง 6 เดือนตั้งแต่เดือนเมษายน
จุดแข็ง ซับแบรนด์ใหม่, BEV และการส่งออก
แม้ตัวเลขรวมจะลดลง แต่ BYD ยังไม่ถึงขั้น “ร่วงหนัก” เพราะมีสามแรงหนุนสำคัญคือ
-
ซับแบรนด์ใหม่ในเครือ
-
Fang Cheng Bao (รถ SUV สมรรถนะสูง) โตพุ่ง 345% → 24,121 คัน
-
Denza (รถพรีเมียม) โต 20.5% → 12,407 คัน
-
Yangwang (ซูเปอร์คาร์หรู) โต 145% → 758 คัน
-
-
ยอดขายรถ BEV (ไฟฟ้าล้วน) โตต่อเนื่อง 24.3% → 205,050 คันในเดือนกันยายน
-
การส่งออกต่างประเทศ เดือนกันยายนขายได้ 71,256 คัน เพิ่มขึ้นถึง 115.8% โดยล่าสุด BYD ได้สร้างกองเรือขนส่งยักษ์ 8 ลำ ครบกำลังบรรทุกปีละ 1 ล้านคัน และเรือลำสุดท้ายที่เพิ่งส่งมอบใช้ชื่อว่า BYD Jinan
ไตรมาส 3 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของ BYD
ในไตรมาส 3/2025 BYD Group มียอดขายทั่วโลก 1,105,591 คัน ลดลง 2.1% จากปีก่อน ถือเป็นครั้งแรกที่ยอดขายรายไตรมาสหดตัวนับตั้งแต่ปี 2020
-
แบรนด์ BYD ลดลง 4%
-
PHEV ร่วง 23.7% เหลือ 523,069 คัน
-
BEV โตแรง 31.4% → 582,522 คัน
-
การส่งออก โตทะลุ 146.4% → 232,806 คัน
เทียบคู่แข่ง BYD vs Geely และ Startup EV
ขณะที่ BYD เริ่มสะดุด หลายสตาร์ตอัป EV ของจีนกลับโตทะยาน
-
Leapmotor สร้างสถิติใหม่ 60,000 คัน/เดือน เป็นครั้งแรก
-
Nio, Xiaomi และ Xpeng ก็ทำยอดสูงสุดตลอดกาลในเดือนกันยายน
ฝั่งคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดอย่าง Geely (ถูกขนานนามว่า “Volkswagen แห่งจีน”) ทำยอดขาย EV (BEV+PHEV) ได้มากถึง 442,672 คันใน Q3 โต 96.2% โดยแรงหนุนหลักคือแบรนด์ Galaxy
บทสรุป สัญญาณเตือนของผู้นำตลาด
ตัวเลขยอดขายล่าสุดสะท้อนว่า BYD เริ่มเผชิญ แรงกดดันรอบด้าน – ทั้งจากสงครามราคาที่เดือดสุดขีดในจีน, ความนิยม PHEV ที่ลดลง, และการแข่งขันดุเดือดจากสตาร์ตอัป EV หน้าใหม่ รวมถึง Geely ที่กำลังรุกหนัก
อย่างไรก็ตาม จุดแข็งของ BYD คือ การส่งออก, BEV และซับแบรนด์ใหม่ ที่ยังเติบโตสวนกระแส และอาจเป็น “เกราะป้องกัน” ที่ทำให้บริษัทยังคงยืนหนึ่งในเวทีโลกได้ต่อไป