โรงงาน Jeep (GAC FCA) ในจีน ไม่มีใครซื้อ ประมูล 6 รอบลดราคาอีก 40%

เมื่อ “โรงงาน Jeep มูลค่า 8,700 ล้านบาท” เหลือเพียง 3,600 ล้านบาท และยังขายไม่ออก

GAC FCA กรณีศึกษาเชิงอุตสาหกรรมว่าทำไมโรงงานรถยนต์ ICE ถึงกำลังกลายเป็นสินทรัพย์ไร้มูลค่าในยุครถไฟฟ้า

มีข่าวล้มละลายในวงการรถยนต์มาก่อน ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ มีไม่กี่ครั้งในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์โลก ที่ “โรงงานรถยนต์ขนาดใหญ่” ถูกลดราคาลงกว่า 60% ภายในเวลาเพียงหนึ่งปี แต่ถึงอย่างนั้น…ก็ยัง “ไม่มีนักลงทุนรายใดสนใจซื้อ”

นี่คือเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นกับ GAC FCA (广汽菲克) บริษัทร่วมทุนระหว่าง GAC Group (จีน) และ FCA (อิตาเลียน–อเมริกัน / ปัจจุบันรวมใน Stellantis) โรงงานที่เคยผลิต Jeep ในจีน ลดราคาจาก 1.915 พันล้านหยวน  (≈ 8,715 ล้านบาท) เหลือเพียง 1.115 พันล้านหยวน (≈ 5,075 ล้านบาท) ลดลง 40% และยังไม่มีใครต้องการ ทั้งที่ผ่านการประมูลมาแล้ว 6 รอบ

ข่าวนี้ ไม่ใช่เพียงการปิดโรงงาน แต่เป็นสัญญาณใหญ่ของ “การล่มสลายของยุครถน้ำมัน (ICE)” ในเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจ

จากจุดสูงสุดสู่ความล้มเหลว  Jeep เคยรุ่งเรืองในจีนขนาดไหน?

• Jeep เคยเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ต่างชาติที่คนจีน “ยอมรับทางอารมณ์” มากที่สุด
• ความเป็นรถสไตล์อเมริกัน ขับลุยได้ ลุคอิสระ เท่แบบคนเมือง
• รถ SUV ขนาดกลางอย่าง Cherokee, Compass เคยทำยอดขายแตะระดับ 200,000 คันต่อปี
  (อ้างอิง: China Passenger Car Association)

จีนเคยเป็นตลาดใหญ่สุดของ Jeep นอกสหรัฐ จน Jeep ตัดสินใจ ตั้งโรงงานผลิตภายในประเทศ แทนการนำเข้า = ต้นทุนต่ำลง → ตั้งราคาขายแข่งขันกับคู่แข่งในประเทศได้

Jeep ไม่ได้แพ้เพราะ “คนจีนไม่ชอบ Jeep” แต่แพ้เพราะ ความหมายของคำว่า “รถยนต์” ในจีน เปลี่ยนเร็วเกินกว่าที่ Jeep ตามทัน

การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ จาก “รถน้ำมันเท่ ๆ” สู่ “คอมพิวเตอร์ที่ขับได้”

จีนไม่เพียงเปลี่ยนจาก ICE → EV แต่เปลี่ยน “นิยามของรถยนต์” ทั้งระบบ

รถ ICE ที่ไม่มีจอ/ไม่มี OTA/ไม่มี ADAS = สินค้าที่ “จบตั้งแต่ยังไม่เริ่มขาย” ในจีนยุคหลังปี 2022

Jeep ยึดแกนจุดขายเดิม “ภาพลักษณ์ + ความลุย” แต่ตลาดจีนเปลี่ยนไปแล้ว → ต้องการ “Smart EV + Ecosystem + Software-based Car” ไม่ใช่รถสันดาปที่แต่งหน้าด้วยจอ

ทำไม GAC FCA ถึงล้มละลายแบบถอนราก?

เหตุผลเชิงกลยุทธ์

• Jeep เข้าจีนแบบคิด “ขายรถ”
• แต่แบรนด์จีนกำลังคิด “ขายแพลตฟอร์มเทคโนโลยี”

เหตุผลด้านการแข่งขัน

• BYD, Li Auto, NIO, AITO, Xiaomi Auto
• ทุกแบรนด์ไม่เพียงทำ EV แต่ยัง อัปเดตซอฟต์แวร์เหมือนมือถือ

Jeep ทำรถ → คู่แข่งทำ “รถ + IoT + OS + AI”

เหตุผลด้านโครงสร้างตลาด

• จีนมี อัตราเปลี่ยนผ่านสู่ NEV สูงที่สุดในโลก
• ปี 2017: รถพลังงานใหม่ (NEV) < 3%
• ปี 2025: ยอดขาย NEV เกิน 40% ของตลาดทั้งประเทศ
  (อ้างอิง: China EV 2025 Roadmap)

ตลาดไม่ได้ “ค่อย ๆ เปลี่ยน” ตลาด “เปลี่ยนแบบกระโดด”

แล้วทำไมโรงงาน ICE ถึง “ขายไม่ออก” แม้ลดราคา 60%?

เพราะโรงงานนี้ไม่สามารถผลิตรถ EV ได้ในรูปแบบอุตสาหกรรมใหม่

ความจริงที่หลายคนไม่รู้ โรงงาน ICE ≠ โรงงาน EV

• โครงสร้างการผลิตต่างกัน
• ระบบสายพาน / ชุดประกอบ / เครื่องมือทดสอบคนละชุด
• โรงงาน ICE ใช้ “พื้นที่เครื่องยนต์–ระบบส่งกำลัง” เป็นหัวใจ
• โรงงาน EV ใช้ “แบตเตอรี่–แพลตฟอร์ม skateboard–อิเล็กทรอนิกส์แรงสูง” เป็นแกนหลัก

โรงงาน ICE = ต้องรีโนเวตหนัก ค่ารีโนเวตสูงจน “ไม่คุ้มซื้อโรงงานมือสอง”

นักลงทุนจึงเลือก 1 ใน 3

1️⃣ ซื้อโรงงาน ICE แล้วจ่ายค่าปรับปรุงแพง
2️⃣ สร้างโรงงาน EV ใหม่ ตั้งต้นให้เหมาะกับอุตสาหกรรมใหม่
3️⃣ ไปตั้งฐานผลิตในประเทศอื่นที่แรงงานกับภาษีถูกกว่า

ผลลัพธ์ โรงงาน Jeep กลายเป็น “สินทรัพย์ที่คำนวณต้นทุนแล้วติดลบ”

อุตสาหกรรมรถยนต์จีน การสิ้นสุดของยุครถเครื่องยนต์สันดาป

จีนไม่ได้แค่ผลิต EV จีน “ยกทั้งประเทศขึ้นมาผลักดัน EV”

• มีโครงสร้างพื้นฐานชาร์จมาจากรัฐ
• มีแบตเตอรี่ผลิตในประเทศเอง (CATL, BYD, CALB)
• OEM ทำ Software-defined Car
• ผู้บริโภค “ภักดีต่อเทคโนโลยี” มากกว่าแบรนด์

จีนไม่ได้เปลี่ยนเพราะ “รักสิ่งแวดล้อม” แต่เปลี่ยนเพราะ “ต้องการครองห่วงโซ่การผลิตรถยนต์โลก” ผลลัพธ์ รถ ICE ไม่ใช่เพียงขายยาก แต่ ไม่มีช่องว่างให้แข่งขัน

GAC FCA คือบทพิสูจน์ว่า “ความใหญ่ของโรงงาน” ไม่ได้ช่วยอะไรเมื่อโลกเปลี่ยนเทคโนโลยี ถ้าไทยยังคิดว่า “รถน้ำมันจะอยู่ไปอีกนาน” ให้มองโรงงานที่จีนกำลังขายทิ้ง 6 รอบแต่ไม่มีคนซื้อเป็นคำเตือน ในอุตสาหกรรมรถยนต์ยุคใหม่ สิ่งที่มีมูลค่าไม่ใช่เครื่องยนต์ แต่คือซอฟต์แวร์–แบตเตอรี่–แพลตฟอร์ม

ปิดฉากตำนาน! GAC-FCA สู่การ “ล้มละลาย” อย่างเป็นทางการ หลังไม่มีนักลงทุนเพิ่ม