HONDA เปิดตัวไฮบริดใหม่ ประหยัดกว่าเดิม พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์มไฮบริดใหม่ เบากว่า 90 กก.

HONDA เปิดตัวไฮบริดใหม่ ประหยัดกว่าเดิม พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์มไฮบริดใหม่ เบากว่า 90 กก.
Spread the love
Advertisement Advertisement

สรุป 5 ไฮไลต์สำคัญ

  • แพลตฟอร์มไฮบริดใหม่ เบากว่า 90 กก. ใช้โครงสร้าง Modular 60%
  • Motion Management + Pitch Control = ฟีลขับสปอร์ตมากขึ้น
  • ไฮบริด V6 พัฒนาเพื่อ “รถใหญ่ตลาดอเมริกา” ตั้งเป้ากินน้ำมันน้อยลง 30%
  • Super-ONE EV ไม่แข่งระยะทางแบตเตอรี่ แต่แข่ง “อารมณ์การขับ”
  • กลยุทธ์ Honda = ให้ความสำคัญกับ “ความสนุกในการขับ” มาก่อนพลังงาน

Next-Gen Honda Hybrid & EV (เจนที่ 3) แพลตฟอร์มใหม่เบากว่า 90 kg / เครื่อง V6 ไฮบริด / Super-ONE EV รุ่นผลิตจริง

Honda เปิดเผยเทคโนโลยีรถยนต์ยุคใหม่ในงาน Four-Wheel Technology Workshop รวมแพลตฟอร์มไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ เบาลง 90 กก., ระบบไฮบริด V6 สำหรับรถใหญ่ตลาดอเมริกา และ Super-ONE EV รถไฟฟ้าขนาดเล็กสปอร์ตฟีล

Honda กำลังเดินหน้าเข้าสู่ยุค “หลังปี 2026” ด้วยยุทธศาสตร์ที่แตกต่างจากหลายค่าย โดยไม่ทิ้งรถเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมไปทันที แต่เลือก “ต่อยอดไฮบริด” ควบคู่กับการพัฒนา EV อย่างจริงจัง ในงาน Honda Four-Wheel Technology Workshop (6 พฤศจิกายน 2025) บริษัทจึงเปิดเผย 3 เทคโนโลยีหลักที่ถูกมองว่าเป็น “ตัวกำหนดดีเอ็นเอ Honda ยุคใหม่” ทั้งด้านสมรรถนะ ความสนุกในการขับ และความยั่งยืน

หัวใจสำคัญของเทคโนโลยีใหม่นี้ ไม่ได้อยู่แค่ “ประหยัดพลังงาน” แต่คือการคงไว้ซึ่งสิ่งที่ Honda เรียกว่า “Enjoy the Drive” — ความสนุกในการขับรถแบบ Honda แท้ๆ ไม่ว่าพลังงานจะมาจากเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด หรือมอเตอร์ไฟฟ้าล้วน

Honda จึงตั้งเป้าใหญ่ระดับองค์กร:

  • คาร์บอนนิวทรัล 100% ภายในปี 2050

  • ศูนย์ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับ Honda ภายในปี 2050

ในอีกด้านหนึ่ง Honda ยอมรับว่าตลาดโลกกำลังแยกเป็นสองวงจรใหญ่:

  • EV เติบโตเร็วในจีน–ยุโรป–อังกฤษ

  • ไฮบริดยังเป็น “หมากสำคัญ” ในอเมริกา–เอเชีย–ญี่ปุ่น

นี่คือเหตุผลที่ Honda เปิดทั้งแพลตฟอร์มไฮบริดยุคใหม่, ระบบ V6 ไฮบริดสำหรับรถใหญ่ และรถไฟฟ้าขนาดเล็ก Super-ONE ไปพร้อมกัน

Honda เตรียมเปลี่ยนเกมยุคใหม่ (ภาพรวม 2026–2030)

  • ไฮบริด = หัวหอกก่อน EV เต็มตัว

    Advertisement Advertisement
  • EV รุ่นเล็ก = จุดเริ่มต้นใหม่ ไม่แข่งพลังงาน แต่แข่ง “อารมณ์การขับขี่”

  • รถใหญ่ตลาดอเมริกา = ไฮบริด V6 แรงกว่าเบนซิน แต่ประหยัดขึ้น 30%

แนวทางนี้ต่างจาก Toyota ที่แบ่งเป็น “รถไฮบริด + EV หลายขนาด” หรือ BYD ที่เดินหน้า EV เป็นหลัก Honda เลือก “ขับสนุกเป็น DNA ก่อน แล้วค่อยแก้โจทย์พลังงานตาม”

แพลตฟอร์มไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ — เบากว่า 90 kg / โครงสร้างใหม่ / Modular 60%

น้ำหนักลด 90 กิโลกรัม แต่ความแข็งแรงเพิ่ม

แพลตฟอร์มใหม่นี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่ปี 2026 บนรถไฮบริดรุ่นใหม่หลายรุ่น (คาดว่า CR-V, Accord, Civic รุ่นถัดไป)
เทคนิคหลักคือการใช้ “New Handling Rigidity Management” → ไม่ใช่การทำตัวถังแข็งเพียงอย่างเดียว แต่ “ทำให้โครงสร้างบิดตัวในทิศที่ควบคุมได้” เพื่อเพิ่มแรงกดล้อเวลาเข้าโค้ง

ผลลัพธ์คือ

  • น้ำหนักลดลงเฉลี่ย ~90 kg

  • เปลี่ยนจุดศูนย์ถ่วง, การกระจายน้ำหนัก, ฟีลลิ่งการบังคับพวงมาลัย

  • ขับสนุก + ประหยัดเชื้อเพลิงขึ้นพร้อมกัน

Modular Architecture ใช้ชิ้นส่วนร่วมกันมากกว่า 60%

ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการพัฒนารถใหม่ → Honda สามารถสร้าง “หลายตัวถัง หลายบุคลิก” บนโครงเดียวกัน เหมือน MQB ของ Volkswagen หรือ TNGA ของ Toyota

Motion Management System — จากหุ่นยนต์สู่รถยนต์

Honda นำระบบควบคุมท่าทางที่ใช้ใน “หุ่นยนต์ ASIMO” มาประยุกต์ในรถยนต์ ทำงานร่วมกับ Agile Handling Assist (ระบบช่วยเข้าโค้งใน Accord / Prelude ใหม่) และเพิ่ม Pitch Control ช่วยคุมอาการหน้าทิ่ม–ท้ายยกระหว่างเข้าโค้ง/เบรก → ทำให้ผู้ขับ “รู้สึกว่ารถตอบสนองเร็วขึ้น แต่ยังคุมได้ง่าย”

เครื่องยนต์ไฮบริด V6 รุ่นใหม่ — จุดชนตลาดอเมริกาเหนือ

ทำไม Honda เลือกใช้ V6 แทน 4 สูบเทอร์โบ?

เพราะตลาดอเมริกายังต้องการ “รถใหญ่ + วิ่งไกล + มีแรงลาก” เช่น SUV 3 แถว, รถครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่, และ Pickup Honda จึงสร้าง V6 ไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ → แรงแบบเบนซิน V6 แต่กินน้ำมันน้อยลง 30%

ป้าหมายสมรรถนะ

  • อัตราเร่ง Full Throttle ดีกว่ารุ่นเบนซินเดิม 10%

  • ทำงานร่วมกับมอเตอร์คู่ + แบตเตอรี่รุ่นใหม่

  • ใช้ระบบ Drive Mode อัจฉริยะ เลือกโหมดขับเคลื่อนให้เหมาะกับสถานการณ์

ความหมายเชิงตลาด

  • Honda กลับมาแข่งกับ Toyota Hybrid Max (Crown / Grand Highlander / Tundra)

  • สวนทาง Tesla ที่ไม่ทำเครื่องยนต์อีกแล้ว

  • เป็นสะพานก่อนเข้าสู่ EV 100% ในอเมริกา

Super-ONE EV — รถไฟฟ้าขนาดเล็ก แต่ “ฟีลขับแบบรถสปอร์ต”

รุ่นโปรโตไทป์เปิดตัวที่ Japan Mobility Show 2025 → เวอร์ชันขายจริงเริ่มที่ญี่ปุ่นปี 2026

จุดเด่นด้านวิศวกรรม

  • ใช้แบตเตอรี่แบบแบนบาง วางกลางพื้นรถ

  • น้ำหนักเบาที่สุดในคลาส A-Segment

  • ศูนย์ถ่วงต่ำกว่า “รถซิตี้คาร์เบนซิน”
    → เข้าโค้งนิ่ง ตอบสนองเร็วกว่ารถเล็กทั่วไป

BOOST Mode = EV ที่ “ไม่เงียบ”

Honda ใส่โหมดเล่นสนุก

  • ปลดกำลังเต็มพิกัด

  • จำลองเสียงเครื่องยนต์ + เกียร์เสมือน

  • มี “แรงกระชาก Kickdown” แบบขับเกียร์อัตโนมัติ → EV แต่มี “อารมณ์รถมีเกียร์” ไม่เงียบเหมือนรถไฟฟ้าทั่วไป

กลยุทธ์ชัดเจน

Honda ไม่พยายามชนะ BYD เรื่องระยะทางแบตเตอรี่ แต่มุ่ง “สร้าง EV ที่ขับแล้วยิ้ม” มากกว่าจะเป็น EV ที่วิ่งไกลที่สุด

วิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ – Honda vs Toyota / BYD / Nissan

ค่าย กลยุทธ์หลัก จุดเด่น ความเสี่ยง
Honda ไฮบริดก่อน EV / ขับสนุกเป็นแกน ภาพลักษณ์คนรักการขับ เข้า EV ช้าเกินไปหรือไม่
Toyota ทำทุกพลังงาน (HEV / PHEV / EV / H2) โครงสร้างธุรกิจแข็งแรง ช้าในตลาด EV จีน
BYD EV ก่อน HEV / ราคา + ปริมาณ โรงงานแบตฯ ของตัวเอง ขยายตลาดตปท.มีอุปสรรค
Nissan e-POWER + EV Ariya มีชื่อเสียงด้าน EV เดิม มีจุดอ่อนด้านเงินทุน

→ Honda กำลังใช้ “ไฮบริดเป็นสะพาน” ไปสู่ EV เต็มตัว
→ แต่ความเร็วในการเข้าสู่ EV Mass Market ยังต้องจับตา

ระบบไฮบริดสองมอเตอร์ของ Honda ที่เรียกว่า e:HEV ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2020

ระบบ e:HEV เป็นระบบไฮบริดแบบสองมอเตอร์ของ Honda Motor Co., Ltd. ที่พัฒนามาจากระบบ i‑MMD (Intelligent Multi-Mode Drive) ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในรุ่น Honda Accord Hybrid ในปี 2013

ส่วนชื่อ «e:HEV» ถูกตั้งขึ้นในช่วงปลายปี 2018-2019 เพื่อใช้เป็นแบรนด์สำหรับระบบไฮบริดสองมอเตอร์ของ Honda ในตลาดต่างประเทศในยุคถัดไป

Honda เองเรียก “Next-Generation e:HEV” (รุ่นถัดไป) ที่จะมีการพัฒนาเพิ่มเติม เช่น เครื่องยนต์ใหม่, มอเตอร์กำลังสูงขึ้น, ระบบขับเคลื่อน AWD ไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่งแสดงว่า “เจน” ของระบบมีการอัปเกรดเป็นระยะ

ดังนั้น ถ้าถามว่า “เจนเท่าไหร่” — สามารถกล่าวได้ว่า ระบบ e:HEV อยู่ในเจนที่ 1–2 ขึ้นอยู่กับนิยามของ “เจน”

  • เจน 1: ระบบ i-MMD/สองมอเตอร์เริ่มตั้งแต่ 2013
  • เจน 2: ระบบที่ใช้แบรนด์ e:HEV ซึ่งเริ่มราว 2019-2020
  • เจน 3: “Next-Generation e:HEV” ที่ Honda กำลังพัฒนา (อนาคต)

Honda Super-ONE Prototype ไฟฟ้าขนาดเล็ก เปิดตัวครั้งแรกของโลกที่ Japan Mobility Show 2025

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้