ไฮบริดภาษีถูกกว่าสันดาป TOYOTA YARIS 1 คันในญี่ปุ่น มีโครงสร้างเสียภาษีอะไรบ้าง ?
ท่ามกลางราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่า ทำให้จำนวนผู้เลือกใช้รถไฮบริดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคนี้ที่รถไฮบริดมีประสิทธิภาพด้านอัตราสิ้นเปลืองดีเยี่ยม ตัวอย่างเช่น Toyota Yaris รุ่นไฮบริดมีอัตราประหยัดน้ำมันดีกว่ารุ่นเบนซินถึงประมาณ 1.7 เท่า
อย่างไรก็ตาม รถไฮบริดมาพร้อมราคาตัวรถที่สูงกว่า โดยในกรณีของ Yaris นั้น รุ่นไฮบริดมีราคาแพงกว่ารุ่นเบนซินประมาณ 300,000 เยน ทำให้คำถามคือ “เมื่อนำทุกอย่างมารวมกันแล้ว รุ่นไหนคุ้มค่ากว่า?” ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน
ดังนั้น เมื่อใช้งานจริงเป็นเวลา 5 ปี ระหว่างรุ่นไฮบริดกับรุ่นเบนซิน แบบไหนประหยัดกว่ากัน? บทความนี้จะใช้ Toyota Yaris เป็นตัวอย่าง โดยเทียบ ภาษี – ค่าน้ำมัน – ค่าบำรุงรักษา (Maintenance) เพื่อดูค่าใช้จ่ายจริงทั้งหมด
ตอนซื้อรถ ไฮบริดแพงกว่าประมาณ 3.2 แสนเยน
Toyota Yaris ถือเป็นรถคอมแพ็กต์ที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ยอดขายครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2025 (เมษายน–กันยายน) อยู่ที่ 75,349 คัน เพิ่มขึ้น 103.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน (รวมรุ่น Yaris Cross และ GR Yaris) แสดงถึงความนิยมที่ยังคงแข็งแกร่ง
สำหรับ Yaris จะมีทั้ง
-
รุ่น ไฮบริด (1.5L, 2WD/E-Four)
-
รุ่น เบนซิน (1.5L 2WD/4WD CVT)
และยังมีรุ่นอื่น ๆ เช่น เครื่องยนต์ 1.0L (2WD, CVT) และรุ่น 1.5L เกียร์ธรรมดา 6MT (2WD)
Yaris Hybrid X 2WD vs Yaris เบนซิน X 2WD
ราคาตัวรถ (ไม่รวมออปชั่น)
- ไฮบริด : 2,200,000 เยน (≈ 462,000 บาท)
- เบนซิน : 1,811,700 เยน (≈ 380,457 บาท)
- ส่วนต่าง : 388,300 เยน (≈ 81,543 บาท)
ราคาออปชั่น
-
ทั้งสองรุ่น : 0 เยน (ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม)
ภาษีและค่าธรรมเนียมรวม
- ไฮบริด : 105,020 เยน (≈ 22,054 บาท)
- เบนซิน : 174,020 เยน (≈ 36,544 บาท)
- ส่วนต่าง : 69,000 เยน (≈ 14,490 บาท)
ภาษีและเบี้ยประกัน (หมวดภาษี+ประกันที่รวมกัน)
- ไฮบริด : 31,790 เยน (≈ 6,676 บาท)
- เบนซิน : 100,790 เยน (≈ 21,166 บาท)
- ส่วนต่าง : 69,000 เยน (≈ 14,490 บาท)
ภาษีรถยนต์ตามประเภทรถ
- ไฮบริด : 7,600 เยน (≈ 1,596 บาท)
- เบนซิน : 7,600 เยน (≈ 1,596 บาท)
- ส่วนต่าง : 0 เยน
ภาษีรถยนต์ (ภาษีเพื่อสิ่งแวดล้อม)
- ไฮบริด : 0 เยน
- เบนซิน : 44,400 เยน (≈ 9,324 บาท)
- ส่วนต่าง : 44,400 เยน (≈ 9,324 บาท)
ภาษีน้ำหนักรถ
- ไฮบริด : 0 เยน
- เบนซิน : 24,600 เยน (≈ 5,166 บาท)
- ส่วนต่าง : 24,600 เยน (≈ 5,166 บาท)
เบี้ยประกันภัยภาคบังคับ
- ไฮบริด : 24,190 เยน (≈ 5,080 บาท)
- เบนซิน : 24,190 เยน (≈ 5,080 บาท)
- ส่วนต่าง : 0 เยน
ค่าดำเนินการ / ค่าจดทะเบียนจากดีลเลอร์
- ไฮบริด : 73,230 เยน (≈ 15,378 บาท)
- เบนซิน : 73,230 เยน (≈ 15,378 บาท)
- ส่วนต่าง : 0 เยน
ยอดรวมที่ต้องชำระ หลังหักส่วนลดแฝง
- Yaris Hybrid X 2WD : 2,305,020 เยน (≈ 484,054 บาท)
- Yaris เบนซิน X 2WD : 1,985,720 เยน (≈ 417,001 บาท)
ส่วนต่างยอดรวม : 319,300 เยน (≈ 67,053 บาท)
ค่าดูแลรักษาตลอด 5 ปี ไฮบริดประหยัดกว่าราว 220,000 เยน
ในช่วงที่ราคาน้ำมันยังคงผันผวน ความสนใจในรถยนต์ไฮบริดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะให้ทั้งความประหยัด ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสมรรถนะที่เหนือกว่ารถยนต์เบนซินทั่วไป หนึ่งในรุ่นยอดนิยมคือ Toyota Yaris ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบไฮบริดและเบนซิน แต่คำถามสำคัญคือ เมื่อใช้งานจริง 5 ปี รุ่นไหนคุ้มกว่า?
ต่อไปมาดูเรื่อง ค่าใช้จ่ายในการใช้งานตลอด 5 ปี กันบ้าง ในบรรดาค่าใช้จ่ายทั้งหมดของรถยนต์ รายการที่มีความแตกต่างชัดเจนระหว่างรุ่นไฮบริดกับรุ่นเบนซินคือ
- ภาษีน้ำหนักรถขณะตรวจสภาพครั้งแรก (ปีที่ 3)
- ค่าน้ำมัน
ภาษีน้ำหนักขณะตรวจสภาพ
- ไฮบริด: ¥0 → 0 บาท
- เบนซิน: ¥16,400 → 3,444 บาท
- ส่วนต่าง: –¥16,400 → –3,444 บาท
ค่าน้ำมัน (5 ปี)
วิ่งปีละ 5,000 กม. × 5 ปี
- ไฮบริด: ¥147,569 → 30,989 บาท
- เบนซิน: ¥249,413 → 52,376 บาท
- ส่วนต่าง: –¥101,844 → –21,387 บาท
วิ่งปีละ 10,000 กม. × 5 ปี
- ไฮบริด: ¥295,139 → 61,028 บาท
- เบนซิน: ¥498,826 → 104,753 บาท
- ส่วนต่าง: –¥203,687 → 42,773 บาท
วิ่งปีละ 15,000 กม. × 5 ปี (แถวไฮไลต์)
- ไฮบริด: ¥442,708 → 92,969 บาท
- เบนซิน: ¥748,239 → 157,130 บาท
- ส่วนต่าง: –¥305,531 → 64,162 บาท
วิ่งปีละ 20,000 กม. × 5 ปี
- ไฮบริด: ¥590,278 → 123,959 บาท
- เบนซิน: ¥997,653 → 209,507 บาท
- ส่วนต่าง: –¥407,375 → 85,548 บาท
ถ้าขับปีละประมาณ 10,000 กม. หรือน้อยกว่านั้น ให้เลือกรถเบนซิน แต่ถ้าขับ มากกว่า 10,000 กม./ปี ขึ้นไป ไฮบริดจะคุ้มกว่า
สรุปแล้ว หากใช้งานแบบ ขับระยะสั้นเป็นหลัก ปีละราว 10,000 กม. รถเบนซินจะได้เปรียบกว่า ส่วน จุดคุ้มทุนระหว่างเบนซินกับไฮบริด ดูจากตัวเลขแล้วน่าจะอยู่ที่ ปีละประมาณ 15,000 กม. (รวม 5 ปี = 75,000 กม.)
อย่างไรก็ตาม รถไฮบริด มีเสน่ห์ที่ตัวเลขอธิบายไม่หมด เช่น
-
ความ เงียบของห้องโดยสาร
-
ความ สบายในระหว่างเดินทาง
เรื่อง ราคาขายต่อ (รีเซล) ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของตลาดแต่ละช่วงเวลา ดังนั้นควรใช้เป็นข้อมูลประกอบเท่านั้น
แต่สิ่งที่อยากให้สังเกตคือ หากรถเงียบและขับสบายขึ้น ก็ช่วย ลดความเมื่อยล้าเวลาเดินทางไกล ซึ่งเป็นข้อดีที่ไม่ได้สะท้อนอยู่ในตัวเลขค่าน้ำมันหรือค่าดูแลรักษาโดยตรง
40 กม./ลิตร WLTC วิ่งนอกเมือง! TOYOTA YARIS ในญี่ปุ่น ราคา 429,000 บาท 1.5L ไฮบริด TNGA-B
