ขายปี 2027 ในออสเตรเลีย Nissan Frontier Pro PHEV ใหม่คู่แข่ง BYD Shark 6 และ Ranger PHEV


Nissan Frontier Pro PHEV เตรียมบุกตลาดออสเตรเลียปี 2027 ท้าชน ชน BYD Shark 6 และ Ranger PHEV
ตลาดรถกระบะปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ในออสเตรเลียที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เตรียมต้อนรับสมาชิกใหม่ในปี 2027 กับการมาของ Nissan Frontier Pro หลังจากมีรายงานโดย Carsales และได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวดีลเลอร์ของ CarExpert ว่า Nissan Australia ได้นำเสนอและยืนยันการทำตลาด Frontier Pro ในงานดินเนอร์ดีลเลอร์เมื่อคืนที่แอดิเลด — เพียงหนึ่งวันหลังการเปิดตัว Navara เจเนอเรชันใหม่ (พื้นฐาน Mitsubishi Triton) อย่างเป็นทางการใน Adelaide Hills
ถึงแม้สื่อมวลชนจะไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมงาน และ Nissan Australia ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ รวมถึงไม่ให้ความเห็นต่อคำถามจากสื่อในวันนี้ แต่ก่อนหน้านี้บริษัทเคยระบุว่า Frontier Pro ซึ่งพัฒนาโดยพันธมิตรร่วมทุนในจีนอย่าง Dongfeng อยู่ระหว่างการพิจารณาทำตลาดออสเตรเลีย เพื่อเป็นกระบะปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของแบรนด์ในภูมิภาคนี้
“เหมาะสมอย่างยิ่งกับไลน์อัปของเรา” ผู้บริหาร Nissan Oceania ย้ำหลายครั้ง
Andrew Humberstone กรรมการผู้จัดการ Nissan Oceania เคยกล่าวไว้ว่า Frontier Pro จะเป็น “ตัวเลือกที่เหมาะสมมาก” สำหรับตลาดออสเตรเลีย โดยมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดค่า CO₂ ของไลน์กระบะในยุคมาตรฐานไอเสียใหม่ (NVES)
“ผมไม่เห็นปัญหาเลยที่จะทำตลาดควบคู่กับ Navara ใหม่ มันอยู่ที่ว่ากรณีธุรกิจมันเวิร์กหรือไม่… และการพัฒนาเป็นพวงมาลัยขวาใช้เวลาประมาณหกเดือน”
เขายังเผยด้วยว่ารถรุ่นนี้สามารถผลิตเพื่อส่งออกได้ และออสเตรเลียคือหนึ่งในตลาดที่ถูกจับตามอง
คู่แข่งตรงของ BYD Shark 6 และ Ford Ranger PHEV
การเปิดตัว Frontier Pro จะทำให้ Nissan มีคู่แข่งโดยตรงกับ BYD Shark 6, GWM Cannon Alpha PHEV, Ford Ranger PHEV รวมถึงบรรดารถกระบะปลั๊กอินไฮบริดอื่น ๆ ที่จะเปิดตัวภายในปี 2027 ได้แก่:
- Chery KP3X PHEV (พื้นฐาน Rely KP3X)
- JAC T9 PHEV (ยืนยันขายออสเตรเลียต้นปี 2026)
ด้านรถกระบะไฟฟ้าล้วน (BEV) ตลาดก็จะคึกคักเช่นกัน เช่น KGM Musso EV, Toyota HiLux BEV (2026), LDV eTerron 9, Isuzu D-Max EV และรุ่นอื่น ๆ
Zhengzhou Nissan เปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการสำหรับ Nissan Frontier Pro รุ่นใหม่ล่าสุด โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่น ในช่วงราคาพรีเซลระหว่าง 176,900 – 249,900 หยวน หรือราว 808,000 – 1,142,000 บาท โดยถือเป็นรถกระบะ รุ่นแรกของ Nissan ที่ออกแบบ พัฒนา และผลิตในประเทศจีนทั้งหมด พร้อมระบบขับเคลื่อนให้เลือก ทั้ง เบนซิน ดีเซล และ ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)
เปิดจองระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 26 พฤศจิกายน 2025 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไตรมาส 4 ปีนี้
ราคาพรีเซลแต่ละรุ่น:
- รุ่นเบนซิน 2 รุ่น: 176,900 – 196,900 หยวน หรือประมาณ 808,000 – 899,000 บาท
- รุ่นดีเซล 2 รุ่น: 179,900 – 199,900 หยวน หรือประมาณ 822,000 – 913,000 บาท
- รุ่น PHEV 2 รุ่น: 219,900 – 249,900 หยวน หรือประมาณ 1,005,000 – 1,142,000 บาท
ข้อมูล
- รุ่น: Frontier Pro (ปลั๊กอินไฮบริด) – รถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของ Nissan
- พละกำลังรวม: มากกว่า 300kW หรือ 407 แรงม้า
- แรงบิด: สูงสุด 800Nm
- EV-only ระยะทาง: สูงสุด 135 กม.*
- ระบบขับเคลื่อน: AWD + เฟืองท้ายล็อกไฟฟ้า + โหมดขับขี่ 4 แบบ
- ช่วงล่าง: 5-link ด้านหลัง
- ดีไซน์: แนว “Rugged Tech” + โลโก้ส่องสว่าง + ไฟ LED ลายสามช่อง (แรงบันดาลใจจาก D21 Hardbody)
- ภายใน: หลังคาพาโนรามา / จอ 14.6” / เบาะอุ่น-เย็น-นวด / พอร์ต V2L 6kW
- ฟังก์ชันเสริม: ราวหลังคา + ฝาปิดกระบะท้ายไฟฟ้า
- วันจำหน่าย: ภายในปี 2025 (ในจีนก่อน)
- แผนส่งออก: ยืนยันแล้ว รอประกาศประเทศที่นำเข้า
- ร่วมพัฒนา: กับ Zhengzhou Nissan (ZNA)
ตัวรถมีมิติดังนี้:
- ยาว 5,520 มม.
- กว้าง 1,960 มม.
- สูง 1,950 มม.
- ระยะฐานล้อ 3,300 มม.
Nissan Frontier Pro ใหม่หมด
เมื่อวางจำหน่ายในจีนปลายปีนี้ Frontier Pro จะกลายเป็นรถกระบะปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของ Nissan และเป็นรถกระบะขุมพลังไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท รุ่นนี้เป็นการผสมผสานระหว่างความเชี่ยวชาญด้านรถกระบะของ Nissan ที่สั่งสมมานานหลายทศวรรษ กับเทคโนโลยีขับเคลื่อนสมัยใหม่จากตลาดรถพลังงานใหม่อันดับหนึ่งของโลกอย่างจีน รถกระบะ 5 ที่นั่ง รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองที่สะดวกสบาย และการผจญภัยนอกเมืองช่วงวันหยุด
ดีไซน์ Rugged Tech
Frontier Pro ใหม่ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด “Rugged Tech” โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ทันสมัยภายนอก พร้อมภายในที่กว้างขวางและหรูหรา โลโก้ Nissan ด้านหน้าส่องสว่างสีขาว แสดงถึงยุคใหม่ของสมรรถนะไฟฟ้า เส้น LED 5 จุดด้านหน้าตามแนวฝากระโปรงช่วยขยายมิติความกว้าง โดยเฉพาะ 3 จุดตรงกลางที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไฟหน้าของ Nissan D21 Hardbody ยุค 80
- ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/65R18 เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น
ภายในห้องโดยสาร
- หลังคาพาโนรามา
- จอแสดงข้อมูลผู้ขับ 10 นิ้ว
- จออินโฟเทนเมนต์ 14.6 นิ้ว
- เบาะหน้าอุ่น/ระบายอากาศ พร้อมระบบนวดหลัง
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แอคทีฟด้วย
- ราวหลังคา
- ฝาปิดกระบะท้ายแบบไฟฟ้า
- พอร์ต V2L จ่ายไฟได้สูงสุด 6 กิโลวัตต์ ใช้ชาร์จอุปกรณ์ภายในบ้านจากแบตเตอรี่ในรถ
รถรุ่นนี้พัฒนาโดยร่วมมือกับ Zhengzhou Nissan (ZNA) และจะเริ่มผลิตพร้อมจำหน่ายในจีนภายในปีนี้ และเตรียมส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยรายละเอียดประเทศปลายทางจะประกาศในโอกาสถัดไป
ระบบขับเคลื่อน:
หัวใจหลักคือขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่ประกอบด้วย
- เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร
- มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่ติดตั้งรวมกับเกียร์
- รวมพลังกันได้มากกว่า 300 กิโลวัตต์ หรือ 410 แรงม้า PS
- แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร
- ระยะทางโหมดไฟฟ้าล้วน (EV-only) สูงสุดถึง 135 กม. สำหรับตลาดจีน*
Frontier Pro เบนซิน และ ดีเซล
- เครื่องยนต์ 2.0 เทอร์โบเบนซิน ให้กำลัง 258 แรงม้า แรงบิ 400 นิวตัน-เมตร ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด
- เครื่องยนต์ 2.3 เทอร์โบดีเซล รุ่น M9T เจเนอเรชัน 3 ให้กำลัง 182 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน BorgWarner Mlock อัจฉริยะ จับคู่เกียร์ ZF 8 สปีด
ทุกรุ่นมาพร้อมช่วงล่างหลังแบบ 5-link และระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ (Intelligent AWD) ที่ควบคุมการกระจายแรงบิดหน้า-หลังโดยอัตโนมัติ
รองรับการลุยด้วย เฟืองท้ายล๊อคไฟฟ้า และโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ:
- Hybrid
- Pure Electric
- Performance
- Snow
*หมายเหตุ: ตัวเลขระยะทางและพละกำลังอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับมาตรฐานการทดสอบในแต่ละประเทศ
