Perodua QV-E เปิดตัวแล้ว! รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของมาเลเซีย ราคา 620,000 บาท พร้อมเช่าแบตฯ

Perodua QV-E เปิดตัวแล้ว! รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของมาเลเซีย แบตเตอรี่ “เช่าเท่านั้น” เริ่ม 80,000 ริงกิต (ประมาณ 620,800 บาท)
Perodua ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของมาเลเซีย เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ในชื่อ
Perodua QV-E พร้อมเปิดรับจองอย่างเป็นทางการ โดยชูจุดเด่นว่าเป็น
“รถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติรุ่นแรกที่พัฒนาเองแทบทั้งหมด” และใช้โมเดลค่าเช่าแบตเตอรี่รายเดือน
เพื่อลดต้นทุนค่าตัวรถให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ภาพรวมการพัฒนา จากโมเดลจำลองสู่เวอร์ชันขายจริง
โปรเจ็กต์ EV ของ Perodua เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2023 ด้วยโมเดลจำลองขนาด 1:6 ก่อนจะพัฒนาเป็นคอนเซปต์ Perodua eMO-II และล่าสุดได้เปิดตัวรุ่นจำหน่ายจริงในชื่อ QV-E ซึ่งถูกประกาศให้เป็น “รถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (National EV)” เนื่องจากพัฒนาโดย Perodua เอง ไม่ได้ใช้พื้นฐานจากรถจีนเหมือนบางรุ่นของ Proton
Magna คือพันธมิตรหลัก – ไม่ใช่ Daihatsu
แม้ว่า Daihatsu จะถือหุ้นใน Perodua อยู่ 25% และเป็นผู้ให้เทคโนโลยีกับรถเครื่องยนต์สันดาปและไฮบริดหลายรุ่น
แต่ในกรณีของรถไฟฟ้า QV-E นั้น Perodua เลือกจับมือกับ Magna ประเทศออสเตรีย
ผู้เชี่ยวชาญด้านแพลตฟอร์มยานยนต์ระดับโลก เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม EV ใหม่แบบโมดูลาร์
Perodua ยืนยันว่า ลิขสิทธิ์แพลตฟอร์ม QV-E เป็นของบริษัทเองทั้งหมด
ขณะที่แบตเตอรี่เลือกใช้ของผู้ผลิตรายใหญ่จากจีนอย่าง CATL
ดีไซน์ภายนอก – สัดส่วนคล้าย EV6 เวอร์ชันกระชับ
รูปลักษณ์ภายนอกของ Perodua QV-E ถูกมองว่ามีความใกล้เคียงกับ
Kia EV6 ในสเกลที่เล็กลง แต่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยดีไซน์ไฟหน้าและไฟท้ายเฉียบคม
เส้นสายตัวถังล้ำสมัยและล้ออัลลอยขนาดใหญ่
- ความยาวตัวถัง: 4,170 มม.
- ความกว้าง: 1,800 มม.
- ความสูง: 1,502 มม.
- ระยะฐานล้อ: 2,680 มม.
- ความสูงใต้ท้องรถ (Ground Clearance): 158 มม.
- ความจุห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย: 320 ลิตร
- ล้ออัลลอยขนาด: 18 นิ้ว
ในช่วงเปิดตัว Perodua QV-E มีสีตัวถังให้เลือก 2 สีหลัก ได้แก่ Ice Blue และ Caviar Gray โดยไม่มีช่องเก็บของด้านหน้า (ไม่มี frunk)
ดีไซน์ภายใน – จอคู่ 10.25 นิ้ว + คอนโซลกลางสองชั้น
ห้องโดยสารของ QV-E ถูกออกแบบให้ดูโมเดิร์นและใช้งานง่าย พร้อมออปชันด้านความปลอดภัยและความสะดวกสบายแบบจัดเต็ม
- หน้าจอมาตรวัดดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว
- หน้าจอกลางระบบมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว
- คอนโซลกลางแบบ สองชั้น เพิ่มพื้นที่วางของ
- ปุ่มกดควบคุมแบบกายภาพใต้ช่องแอร์กลาง
- แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย
- กระจกมองหลังดิจิทัล (Digital Rear-view Mirror)
- ระบบสั่งงานด้วยเสียง (Voice Assistant)
- ระบบเตือนเมื่อมีเด็กถูกลืมไว้ที่เบาะหลัง
- กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control)
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบช่วยรักษาเลน (Lane Keeping Assist)
- ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง
ในช่วงเปิดตัว Perodua QV-E มาพร้อมเพียงหนึ่งรุ่นย่อย แต่จัดอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ค่อนข้างครบถ้วนเมื่อเทียบกับระดับราคา
ขุมพลังและระบบขับเคลื่อน – 204 แรงม้า ระยะทางวิ่ง WLTP 370 กม.
ด้านสมรรถนะ QV-E ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า ให้ตัวเลขกำลังไม่แพ้รถไฟฟ้าระดับโลกหลายรุ่น
- กำลังสูงสุด: 204 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด: 285 นิวตันเมตร
- ระบบขับเคลื่อน: ล้อหน้า (FWD)
- ความจุแบตเตอรี่: 52.5 kWh จาก CATL
- ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (มาตรฐาน WLTP): 370 กม.
- อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม.: ประมาณ 7.5 วินาที
โครงสร้างราคา – ตัวรถซื้อขาด แบตเตอรี่ “เช่ารายเดือน”
จุดที่น่าสนใจที่สุดของ Perodua QV-E คือโครงสร้างราคาแบบแยกตัวรถออกจากแบตเตอรี่ โดยลูกค้าซื้อขาดเฉพาะตัวรถ แต่ต้องเช่าแบตเตอรี่เป็นรายเดือน ทำให้ราคารถตั้งต้นไม่สูงจนเกินไป
ราคา Perodua QV-E ในมาเลเซีย
- ราคาตัวรถ: 80,000 ริงกิตมาเลเซีย ดังนั้น 80,000 ริงกิต × 7.76 บาท/ริงกิต = ประมาณ 620,800 บาท
ค่าเช่าแบตเตอรี่รายเดือน
- ค่าเช่าแบตเตอรี่: 275 ริงกิตต่อเดือน
- คำนวณเป็นเงินบาท: 275 × 7.76 = ประมาณ 2,134 บาทต่อเดือน
- ลูกค้าจะไม่สามารถซื้อแบตเตอรี่ขาดได้ แต่ต้องใช้รูปแบบการเช่าตลอดอายุการใช้งานรถตามสัญญาที่กำหนด
Perodua QV-E เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าราคาย่อมเยาในกลุ่ม B-Hatch หรือ B-SUV
- ผู้ที่ต้องการลดภาระต้นทุนก้อนใหญ่ในการซื้อรถไฟฟ้า เนื่องจากแบตเตอรี่เป็นส่วนที่มีราคาแพงที่สุด
- ผู้ใช้ที่เน้นขับในเมืองหรือระยะกลางเป็นหลัก ระยะทางวิ่ง 300–370 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน
- คนที่ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ความปลอดภัยและเทคโนโลยีช่วยขับอย่างกล้อง 360°, ACC, AEB, LKA
สรุปภาพรวม Perodua QV-E
Perodua QV-E ถือเป็นหมากสำคัญของ Perodua ในการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ด้วยราคาตัวรถโดยประมาณเพียง 620,800 บาท และค่าเช่าแบตเตอรี่ราว 2,134 บาทต่อเดือน ทำให้ QV-E ถูกวางให้เป็นหนึ่งใน EV ที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในตลาดมาเลเซีย และอาจกลายเป็นหนึ่งในตัวอย่างโมเดลธุรกิจแบบ “แบตเตอรี่เช่า” ที่น่าสนใจสำหรับตลาดอื่นในภูมิภาค ASEAN รวมถึงประเทศไทยในอนาคต หากมีการนำเข้าหรือผลิตภายใต้ความร่วมมือระดับภูมิภาค

