Toyota Land Cruiser 70 (LC76) สายลุยถูกอัปเกรดหรู PVS Automotive

Toyota Land Cruiser 70 (LC76) สายลุยถูกอัปเกรดหรู PVS Automotive
Spread the love
Advertisement Advertisement

Toyota Land Cruiser 70 (LC76) สายลุยถูกอัปเกรดหรู PVS Automotive จัดเต็มชุดแต่ง Urnieta + ห้องโดยสาร Alcantara สีน้ำเงิน

จาก “รถงาน” สู่ “รถโชว์” เมื่อ Land Cruiser 70 Series ถูกยกระดับแบบคอนเซ็ปต์

ถ้าพูดถึงรถออฟโรดที่นักแต่งชอบหยิบไปปั้นโปรเจกต์ ชื่อที่มักถูกยกขึ้นมาคือ Mercedes-Benz G-Class, Land Rover Defender และ Toyota Land Cruiser 250 Series แต่ครั้งนี้กลับเป็น Toyota Land Cruiser 70 Series รุ่นเก๋าสายฮาร์ดคอร์ที่ถูกจับมาทำใหม่ให้ “หรูแบบตั้งใจ” โดยสำนักแต่งจากออสเตรเลีย PVS Automotive

รถตั้งต้นคือ Toyota Land Cruiser 76 Series Wagon GXL ปี 2025 วิ่งเพียง 128 กม. และถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในล็อตท้าย ๆ ที่ยังจำหน่ายโดยไม่มีระบบ AdBlue สำหรับเครื่องดีเซลเทอร์โบ ทำให้คันนี้มีความ “พิเศษ” ในมุมคนสะสม/คนเล่นรถด้วย

ภาพรวมโปรเจกต์ แต่งภายนอกให้ลุยจริง + แต่งภายในให้พรีเมียมจริง

  • คอนเซ็ปต์: รักษาคาแรกเตอร์ LC70 ที่แข็งแรง ทน และใช้งานได้จริง แต่เพิ่มความพรีเมียมและความทันสมัย
  • ไฮไลต์ภายนอก: ชุดแต่งจาก Urnieta เน้นงานออฟโรดและอุปกรณ์ใช้งาน
  • ไฮไลต์ภายใน: บุ Blue Alcantara ทั้งคัน ตัดด้วยด้าย/เข็มขัดนิรภัยสีส้ม + เปลี่ยนเบาะและพวงมาลัย
  • กลไก: เครื่อง/ระบบขับเคลื่อนยังคงสเปกเดิม (เน้น “ภาพรวมรถ” มากกว่าโมดิฟายแรง)

ภายนอก Purpose-Built ชุดแต่ง Urnieta รอบคัน เน้นงานลุยและงานเก็บของ

PVS เลือกใช้อุปกรณ์ที่มาจาก Urnieta ทั้งหมด เพื่อทำให้รถพร้อมใช้งานแนวโอเวอร์แลนด์/ออฟโรดอย่างจริงจัง รายการหลัก ๆ ได้แก่

  • กันชนหน้าออกแบบใหม่
  • บันไดข้างแบบท่อ (tubular side steps)
  • แร็คหลังคา
  • ขายึดอุปกรณ์/พื้นที่เก็บของด้านข้าง
  • ฝาครอบล้ออะไหล่
  • บันไดปีนหลัง (rear access ladder)

ส่วน snorkel และ โป่งล้อกว้าง เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งจากโรงงานอยู่แล้ว ช่วยให้ธีม “ดำดุ” ดูลงตัวมากขึ้น จากนั้นเสริมด้วย ล้อฟอร์จสีดำ พร้อมยางออฟโรดเกาะหนึบ

ปิดงานด้วยการหุ้ม XPEL self-healing PPF เพื่อช่วยปกป้องสีรถจากรอยขีดข่วนในการใช้งานหนัก และทำให้รถดูใหม่ได้นานขึ้น

ห้องโดยสาร “Very Blue” Alcantara ทั้งคัน + Recaro + พวงมาลัยจาก Tundra

จุดที่เปลี่ยนอารมณ์รถไปมากที่สุดคือภายใน เพราะจากเดิม LC70 คือรถงานที่เรียบและเน้นทน แต่คันนี้ถูกยกระดับให้ใกล้ “รถคอนเซ็ปต์” ตามคำอธิบายของผู้สร้างโปรเจกต์

สิ่งที่เปลี่ยนแบบเห็นชัด

  • เบาะ: เปลี่ยนเป็น Recaro Cross Sportster GK100 แบบบัคเก็ต
  • พวงมาลัย: ยกมาจาก Toyota Tundra พร้อมงานตกแต่งคาร์บอนไฟเบอร์
  • วัสดุตกแต่ง: บุ Alcantara สีน้ำเงินเข้ม ตั้งแต่เพดาน แผงประตู ไปจนถึงพื้นที่หลักในห้องโดยสาร
  • ลูกเล่นสีส้ม: เดินด้ายตัดสีส้ม เพิ่มแอ็กเซนต์แดชบอร์ด และใช้เข็มขัดนิรภัยสีส้ม เพิ่มความ “คอนเซ็ปต์คาร์” แบบตั้งใจ

เทคโนโลยีและการใช้งานจริง

  • เพิ่มจออินโฟเทนเมนต์ 9 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อสมัยใหม่
  • ติดตั้งระบบลิ้นชักท้ายรถ (rear drawer system)
  • มีโต๊ะพับที่ฝาท้าย เหมาะกับการแคมป์/ปิกนิก

สเปกขุมพลัง คงเดิม เน้นความทนและแรงบิดใช้งาน

ด้านสมรรถนะ PVS ไม่ได้ระบุการโมดิฟายเครื่องหรือช่วงล่าง จึงตีความได้ว่า “คงความเดิมไว้” เพื่อความทนและความง่ายในการดูแล

Advertisement Advertisement
รายการ รายละเอียด
เครื่องยนต์ ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.8 ลิตร
กำลังสูงสุด 201 แรงม้า (150 kW / 204 PS)
แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร
เกียร์ อัตโนมัติ 6 สปีด
ระบบขับเคลื่อน ขับสี่แบบ Full-time พร้อมดิฟกลางล็อกได้

ราคา: “เล่นจริงจัง” สำหรับคนงบถึง

รถคันนี้ประกาศขายแบบ “งานจบ” ที่ราคา 200,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย 4.18 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษี) และเมื่อรวมภาษีแล้วอยู่ราว 220,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 4.60 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ราคาเริ่มต้นของ Land Cruiser Wagon GXL เกียร์อัตโนมัติป้ายแดงในออสเตรเลียอยู่ที่ประมาณ 84,935 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ทำให้เห็นชัดว่าค่าแปลง/ค่าโปรเจกต์ “เกือบแตะสามเท่าของรถตั้งต้น” กลุ่มเป้าหมายจึงชัดเจนว่าเป็นสายออฟโรด/โอเวอร์แลนด์ที่ต้องการรถแตกต่าง และยอมจ่ายเพื่อความเฉพาะตัว

มุมมอง ทำไม LC70 แต่งหรูถึงน่าสนใจในยุคนี้?

  • แพลตฟอร์มคลาสสิก: ดีไซน์เหลี่ยมเรียบง่ายและโครงสร้างสายทน ทำให้ “แต่งแล้วเห็นผล”
  • คาแรกเตอร์ชัด: LC70 คือรถที่มีภาพจำเรื่องความอึด จึงยิ่งโดดเมื่อถูกยกระดับให้พรีเมียม
  • ตลาดคนเล่นรถลุย: งานโอเวอร์แลนด์/แคมป์กำลังมา อุปกรณ์ใช้งานจริงจึงมีมูลค่า
  • ความสุดโต่งที่ลงตัว: ภายนอกลุยจัด แต่ภายในหรูจัด เป็นคอนทราสต์ที่ทำให้คันนี้ “ไวรัล” ได้ง่าย

สรุป

PVS Automotive ทำให้เห็นว่า Land Cruiser 70 Series ไม่จำเป็นต้องอยู่ในบทบาท “รถงานอย่างเดียว” อีกต่อไป เพราะสามารถกลายเป็นรถลุยที่พรีเมียมได้จริง ทั้งวัสดุภายใน เทคโนโลยี และแพ็กเกจอุปกรณ์ใช้งานรอบคัน แม้ราคาจะสูงมาก แต่ก็เป็นโปรเจกต์ที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการ “รถลุยที่ไม่เหมือนใคร” แบบจบในคันเดียว

pvsautomotive

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้