เปิดตัว Suzuki Across ชื่อเดิมแต่คนละคัน! เวอร์ชั่น Victoris ตัดขาดเงา RAV4

Suzuki Across ชื่อเดิมแต่คนละคัน! เวอร์ชั่น Victoris ตัดขาดเงา RAV4 จนคนงงทั้งตลาด
สรุปสั้น: Suzuki ใช้ชื่อ “Across” เหมือนเดิม แต่รถที่เปิดตัวใน “เซเชลส์” ไม่ใช่ฝาแฝด Toyota RAV4 อีกต่อไป—แท้จริงคือการรีแบดจ์ Maruti Suzuki Victoris จากอินเดีย ที่ถูกทำเวอร์ชันพวงมาลัยซ้ายเพื่อส่งออก
แต่ล่าสุด Suzuki กลับทำให้ชื่อ Across “คุ้นแต่ไม่ใช่” อีกครั้ง เพราะ Across ที่เพิ่งเปิดตัวใน เซเชลส์ (ประเทศหมู่เกาะนอกชายฝั่งแอฟริกาตะวันออก) ไม่เกี่ยวกับ Toyota เลยแม้แต่น้อย—มันคือ Maruti Suzuki Victoris เวอร์ชันส่งออก ที่เปิดตัวในอินเดียไปเมื่อ กันยายน 2025 แล้วนั่นเอง
ทำไมใช้ชื่อ Across ซ้ำ ทั้งที่เป็นรถคนละพื้นฐาน?
ประเด็นที่ทำให้วงการรถยนต์จับตาคือ “ชื่อรุ่นเดิม” แต่ “ตัวรถคนละเรื่อง” ซึ่งในเชิงการตลาดอาจตีความได้หลายมุม เช่น
- ต้องการใช้ชื่อที่มีภาพจำระดับสากล โดยไม่ต้องสร้างแบรนด์โมเดลใหม่ตั้งแต่ศูนย์
- ลดความซับซ้อนในพอร์ตสินค้า ในตลาดเล็ก/ตลาดเฉพาะอย่างเซเชลส์
- สะท้อนแผนส่งออกของ Victoris ที่ถูกวางเป็น SUV “อินเดียสเปกโลก” ไปมากกว่า 100 ประเทศ/ภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ข้อเสียที่หลีกเลี่ยงยากคือ “ความสับสน” เพราะ Across เดิมในยุโรปเคยถูกจดจำว่าเป็น RAV4 twin แต่ Across ใหม่กลับเป็นคนละแพลตฟอร์ม คนละขนาด และคนละแนวทาง
ภายนอกเหมือน Victoris แทบ 100% ต่างหลัก ๆ แค่โลโก้
ในแง่ดีไซน์ Across เวอร์ชันเซเชลส์เป็น “กระจกเงา” ของ Victoris แทบทุกจุด ความต่างที่เห็นได้ชัดคือ ตราสัญลักษณ์บนฝาท้าย และรายละเอียดงานแบดจ์เท่านั้น
จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ในห้องโดยสาร เพราะรุ่นส่งออกถูกทำให้เข้ากับตลาดพวงมาลัยซ้าย นั่นหมายถึง ตำแหน่งพวงมาลัยถูกย้าย (เทียบกับ Victoris อินเดียที่เป็นพวงมาลัยขวา)
มิติตัวถัง สั้นกว่า Across ฝาแฝด RAV4 อย่างชัดเจน
Across (พื้นฐาน Victoris) มากับขนาดตัวถังที่สื่อชัดว่าเป็นคนละตระกูลกับ Across เดิมที่อิง RAV4
- Across (Victoris-based): ยาว 4,360 มม. ฐานล้อ 2,600 มม.
- Across (RAV4-based เดิม): ยาว 4,635 มม. ฐานล้อ 2,690 มม.
ตัวเลขนี้ทำให้ Across ใหม่ “กระชับกว่า” และน่าจะวางตำแหน่งตลาดในกลุ่ม SUV ที่คล่องตัวและราคาเข้าถึงง่ายมากขึ้น
แพลตฟอร์ม Heartect: DNA Suzuki ล้วน ๆ ไม่พึ่ง Toyota
ทั้ง Victoris และ Across เวอร์ชันนี้อยู่บนแพลตฟอร์ม Heartect ของ Suzuki ที่พบได้ในรถพัฒนาเองหลายรุ่น รวมถึง Grand Vitara และตระกูล SUV ขนาดใกล้เคียงอย่าง Vitara และ S-Cross
พูดง่าย ๆ คือ Across ใหม่เป็น “Suzuki แท้” มากกว่า Across เดิมที่เป็นแนวร่วมแพลตฟอร์มกับ Toyota ซึ่งอาจถูกใจแฟน ๆ ที่อยากได้บุคลิกแบบซูซูกิเต็มตัว
ขุมพลังในเซเชลส์ เบนซิน 1.5 NA 102 แรงม้า มีทั้งเกียร์ธรรมดา/อัตโนมัติ และ 4WD
สำหรับตลาดเซเชลส์ Across เปิดตัวด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ให้กำลัง 102 แรงม้า และแรงบิด 137 นิวตัน-เมตร
ตัวเลือกเกียร์มีให้ทั้ง:
- เกียร์ธรรมดา 5 สปีด
- เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (และสามารถจับคู่กับระบบ 4WD ได้)
จุดนี้สะท้อนว่า Across ใหม่ถูกวางให้ “ใช้งานจริง” ในสภาพถนนหลากหลาย โดยเฉพาะตลาดหมู่เกาะที่สภาพเส้นทางอาจไม่สม่ำเสมอ
ตรา “Hybrid” โผล่ในภาพ: มีลุ้นไฮบริดตามมา พร้อม AllGrip Select AWD
อีกจุดที่ทำให้คนสนใจคือการพบแบดจ์ “Hybrid” ในภาพประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสัญญาณว่า Across เซเชลส์อาจได้ชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าตามสเปกอินเดียในอนาคต
หากอิงตาม Victoris สเปกอินเดีย ระบบไฮบริดจะเป็นแบบ Self-Charging Hybrid (ไม่ต้องเสียบปลั๊ก) ผสานเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 114 แรงม้า และทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AllGrip Select AWD
ในเชิงตลาด “ไฮบริด + AWD” เป็นสูตรที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์และความคุ้มค่าได้ดี โดยเฉพาะถ้าราคาไม่แรงจนเกินไป
มีสิทธิ์ไปยุโรปไหม? และทำไมมันถึงน่าสนใจ
Suzuki ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะนำ Across ใหม่ (Victoris-based) ไปขายในยุโรปหรือสหราชอาณาจักรหรือไม่ แต่ในภาพรวมบริษัทระบุว่า Victoris มีแผนส่งออกมากกว่า 100 ประเทศ/ภูมิภาค ทำให้ “เวอร์ชันพวงมาลัยซ้าย” ที่เริ่มในตลาดส่งออกอย่างเซเชลส์ดูเป็นก้าวที่สอดคล้องกับแผนใหญ่
หากมอง “อ่านระหว่างบรรทัด” มีความเป็นไปได้ที่ Suzuki จะนำรถพื้นฐานนี้ไปทำตลาดยุโรปในรูปแบบไฮบริด และอาจ ไม่ใช้ชื่อ Across เพื่อเลี่ยงความสับสนกับรุ่นเดิมที่เคยอิง RAV4 ซึ่งในอดีตไม่ได้ทำยอดขายโดดเด่นมากนัก
อีกมุมหนึ่งคือเรื่องการแข่งขัน: รถกลุ่ม SUV ราคาจับต้องได้ในยุโรปกำลังร้อนแรง หาก Suzuki ทำราคาได้ดี Across/หรือชื่อใหม่ที่ใช้พื้นฐาน Victoris ก็อาจถูกวางให้ชนกับคู่แข่งสายคุ้มค่าอย่าง Dacia Bigster ได้ไม่ยาก
สรุป Across ใหม่คือ “ชื่อเดิม” แต่เป็นยุทธศาสตร์ใหม่ของ Suzuki
Across เซเชลส์คือภาพสะท้อนชัด ๆ ว่า Suzuki กำลังผลักดันโมเดลจากอินเดียให้มีบทบาทระดับโลกมากขึ้น และการใช้ชื่อ Across ซ้ำ แม้จะสร้างความงงในระยะสั้น แต่ก็อาจช่วยให้การทำตลาดง่ายขึ้นในบางประเทศ
ประเด็นสำคัญที่ควรจำมี 3 ข้อ:
- Across ใหม่ไม่เกี่ยว Toyota และเป็นการรีแบดจ์ Maruti Suzuki Victoris
- ขนาดเล็กกว่า Across เดิมที่อิง RAV4 ชัดเจนทั้งความยาวและฐานล้อ
- มีลุ้นไฮบริด + AllGrip AWD ซึ่งอาจเป็นไพ่เด็ดถ้าขยายตลาดไปยุโรป
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Across เซเชลส์ คือ RAV4 ที่เปลี่ยนโลโก้เหมือนยุโรปไหม?
ไม่ใช่ Across เซเชลส์เป็นการรีแบดจ์ Maruti Suzuki Victoris จากอินเดีย ไม่ได้ใช้พื้นฐาน Toyota RAV4
Across ใหม่กับ Across เดิม ต่างกันตรงไหนชัดสุด?
ต่างกันที่ “พื้นฐานรถ” และ “ขนาด” โดย Across ใหม่ยาว 4,360 มม. ฐานล้อ 2,600 มม. สั้นกว่า Across เดิมที่อิง RAV4 (4,635 มม. ฐานล้อ 2,690 มม.)
มีไฮบริดไหม?
ในเซเชลส์เริ่มด้วยเบนซิน 1.5 NA 102 แรงม้า แต่มีสัญญาณจากแบดจ์ “Hybrid” ว่าอาจตามมาทีหลัง โดยชุดไฮบริดอิงสเปก Victoris กำลังรวม 114 แรงม้า และมี AllGrip Select AWD
ประหยัด 28.65 กม./ลิตร Maruti Suzuki Victoris เปิดขายอินเดีย 388,000 – 728,000 บาท MHEV , HEV , CNG


Suzuki Victoris เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุด เปิดตัวในอินเดีย พร้อมลุยตลาดโลกกว่า 100 ประเทศ
Maruti Suzuki India Limited บริษัทย่อยของซูซูกิในอินเดีย เปิดตัวเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ Victoris อย่างเป็นทางการ รถรุ่นนี้จะถูกผลิตขึ้นที่โรงงาน Kharkhoda Plant และจำหน่ายผ่านโชว์รูม Maruti Suzuki Arena ทั้งในตลาดอินเดียและยังเตรียมส่งออกไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
Maruti Suzuki Victoris ปี 2025 ในอินเดีย
-
ราคาเริ่มต้น อยู่ที่ประมาณ 10.49 แสนรูปี (ex-showroom)หรับรุ่นเริ่มต้น 【ประมาณ 388,000 บาท ถ้าเทียบค่าเงิน】
-
รุ่นท็อป ที่เป็นรุ่นสูงกว่า (มีทางเลือกเครื่องยนต์เบนซิน, ไฮบริด, CNG, เกียร์อัตโนมัติ, ระบบ AWD ฯลฯ) ราคาจะขยับขึ้นไปถึงประมาณ 19.99 แสนรูปี (ex-showroom)【ประมาณ 728,000 บาท】
ดีไซน์ล้ำอนาคต โดดเด่นทุกมุมมอง
-
ใช้เส้นสาย สปอร์ต-พรีเมียม เน้นความเฉียบคมและบึกบึน
-
กระจังหน้าและกันชนหน้ามี Aero Vents & Aero Edges เสริมความดุดัน
-
ตัวถังทรง SUV ขนาดคอมแพ็กต์ แต่ให้ความรู้สึก “มั่นคงและสง่างาม”
-
ไฟท้ายแบบ Dynamic Connected LED Tail Lamps พาดยาวเต็มความกว้าง
-
ไฟหน้า: Projector Headlamps (Halogen/LED ขึ้นกับรุ่นย่อย)
-
ไฟ DRL: LED Daytime Running Lamps (Dual Function ในรุ่นสูง)
-
ไฟตัดหมอกหน้า: LED พร้อม Extended Lighting (รุ่นท็อป)
-
ไฟท้าย: Connected LED Tail Lamps + LED Rear Combination Lamp
-
ล้อ: Alloy Wheels ขนาด 17 นิ้ว (มีทั้ง Painted และ Machined Alloy)
-
ราวหลังคา (Roof Rails): มีในรุ่นกลางขึ้นไป
-
สปอยเลอร์หลังคา: มาพร้อมไฟเบรกดวงที่สาม (LED High Mount Stop Lamp)
-
แผ่นกันกระแทก (Skid Plate): สีเงิน (รุ่น Petrol, CNG) | สีเทา (รุ่น Strong Hybrid)
-
เสาอากาศ: แบบ Shark Fin Antenna
-
กระจก:
-
กระจกกรองแสง UV Cut (รุ่นสูง)
-
กระจกหลังสีเขียวเข้ม (Dark Green Glass)
-
-
Monotone: Magma Grey, Splendid Silver, Pearl Arctic White, Bluish Black, Eternal Blue, Mystic Green, Sizzling Red
-
Dual-tone (หลังคาดำ): Eternal Blue, Sizzling Red, Splendid Silver (จับคู่กับหลังคา Bluish Black)
-
เพิ่มความหรูด้วย ขอบประตูและกรอบกระจกสีดำเงา (Gloss Black Out Tape) ในรุ่นสูง
ขนาดตัวถัง
- ความยาว (Length): 4,360 มม.
- ความกว้าง (Width): 1,795 มม.
- ความสูง (Height): 1,655 มม.
- ระยะฐานล้อ (Wheelbase): 2,600 มม.
- รัศมีวงเลี้ยว (Turning Radius): 5.4 เมตร
- ความจุถังน้ำมัน (Fuel Tank Capacity): 45 ลิตร (รุ่น CNG มีถัง 55 ลิตร water equivalent)
- จำนวนที่นั่ง: 5 ที่นั่ง
ขุมพลังให้เลือกครบทั้ง Mild Hybrid, Strong Hybrid และ CNG
Suzuki Victoris มาพร้อม 3 ขุมพลังที่ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม
เครื่องยนต์เบนซิน K15C Smart Hybrid
-
แบบ: 4 สูบเรียง DOHC
-
ความจุ: 1,462 ซีซี
-
กำลังสูงสุด: 75.8 kW (103.06 PS) @ 6,000 rpm
-
แรงบิดสูงสุด: 139 Nm @ 4,300 rpm
-
ระบบเกียร์: 5MT / 6AT
-
ขับเคลื่อน: 2WD หรือ AWD (ALLGRIP Select)
-
ความประหยัด: 21.18 กม./ลิตร (MT) | 21.06 กม./ลิตร (AT) | 19.07 กม./ลิตร (ALLGRIP AT)
เครื่องยนต์เบนซิน + CNG (K15C)
-
ความจุ: 1,462 ซีซี
-
กำลังสูงสุด:
-
74 kW (100.6 PS) @ 6,000 rpm (โหมดเบนซิน)
-
68 kW (92.45 PS) @ 5,500 rpm (โหมด CNG)
-
-
แรงบิดสูงสุด:
-
137.1 Nm @ 4,300 rpm (เบนซิน)
-
121.5 Nm @ 4,200 rpm (CNG)
-
-
ระบบเกียร์: 5MT
-
ความประหยัด: 27.02 กม./กก. (CNG)
เครื่องยนต์เบนซิน M15D Strong Hybrid (e-CVT)
-
ความจุ: 1,490 ซีซี
-
ระบบไฮบริด: Lithium-ion Battery + มอเตอร์ไฟฟ้า (AC Synchronous Motor)
-
กำลังสูงสุดเครื่องยนต์: 68 kW (92.45 PS) @ 5,500 rpm
-
แรงบิดสูงสุดเครื่องยนต์: 122 Nm @ 3,800–4,800 rpm
-
มอเตอร์ไฟฟ้า: 59 kW (80 PS), 141 Nm
-
ระบบเกียร์: e-CVT
-
ขับเคลื่อน: 2WD
-
โหมดขับขี่: ECO / Normal / Power
-
ความประหยัด: 28.65 กม./ลิตร
ทั้งรุ่น Mild Hybrid และ Strong Hybrid ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจากบริษัทร่วมทุน TDS Lithium-Ion Battery Gujarat ที่ก่อตั้งโดย Suzuki, Toshiba และ Denso
ระบบกันสะเทือน (Suspension)
-
ด้านหน้า (Front): MacPherson Strut
-
ด้านหลัง (Rear): Torsion Beam
ระบบเบรก (Brakes)
-
ด้านหน้า: ดิสก์เบรก (Disc)
-
ด้านหลัง: ดิสก์เบรก (Disc)
ระบบขับเคลื่อน (Drive System)
-
รุ่นมาตรฐาน (K15C Smart Hybrid / CNG): ขับเคลื่อนล้อหน้า (2WD)
-
รุ่น ALLGRIP Select (K15C AT): ขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) พร้อมโหมดเลือกการขับ (Auto / Sport / Snow / Lock)
-
รุ่น Strong Hybrid: ขับเคลื่อนล้อหน้า (2WD)
ขนาดยางและล้อ (Tyres & Wheels)
-
ขนาดยางมาตรฐาน: 215/60 R17
-
ล้ออัลลอย: 17 นิ้ว (ขึ้นกับรุ่นย่อย มีทั้งแบบ Painted และ Machined Alloy)
การออกแบบภายใน (Interior Design)
-
ห้องโดยสารกว้างขวาง โทนพรีเมียม เน้นความ หรู + ทันสมัย
-
แดชบอร์ดดีไซน์ 3 ชั้น (Three-level Dashboard) พร้อมตะเข็บเดินด้าย (Precision Stitching)
-
หลังคา Panoramic Sunroof (รุ่นสูง) เพิ่มความโปร่งโล่ง
-
ระบบไฟ Ambient Lighting 64 สี รอบห้องโดยสาร
-
วัสดุตกแต่ง:
-
รุ่น Petrol / CNG → Dual Tone (Black + Ivory) ตกแต่งด้วย Silver Accents
-
รุ่น Strong Hybrid → All Black พร้อม Champagne Gold Accents
-
เบาะนั่ง (Seats & Upholstery)
-
เบาะนั่งหุ้ม Leatherette (หนังสังเคราะห์เกรดพรีเมียม) ในรุ่นสูง
-
เบาะคู่หน้ามี ระบบระบายอากาศ (Ventilated Seats)
-
เบาะคนขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (8-Way Powered Driver Seat)
-
เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 Split Folding เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
-
ที่วางแขนตรงกลางด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ
-
พนักพิงศีรษะปรับได้ทุกตำแหน่ง
ความสะดวกสบาย (Comfort & Convenience)
-
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Auto AC) + ช่องแอร์หลัง
-
ระบบฟอกอากาศ Auto Purify พร้อมหน้าจอแสดงค่า PM2.5
-
Wireless Charger พร้อมระบบ Active Cooling
-
Head-Up Display (HUD) แสดงข้อมูลขับขี่บนกระจกหน้า (รุ่นสูง)
-
Smart Powered Tailgate with Gesture Control เปิดฝากระโปรงท้ายด้วยการสวิงเท้า
-
Steering Wheel หุ้มหนัง + ปรับได้ทั้ง Tilt & Telescopic
-
หน้าจอเรือนไมล์ (Digital Cluster):
-
รุ่นปกติ → TFT 4.2″
-
รุ่น Hybrid → Fully Digital 10.25″ (26.03 ซม.) พร้อมโหมด Classic / Standard
-
-
ระบบอินโฟเทนเมนต์:
-
จอสัมผัส SmartPlay Pro (7” หรือ 10.1” ตามรุ่น)
-
รองรับ Android Auto / Apple CarPlay (ไร้สาย)
-
ระบบเสียง Infinity by Harman + Dolby Atmos 5.1 Channel (8 ลำโพง + Subwoofer)
-
ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน (Standard Safety)
-
ถุงลมนิรภัย (Airbags): 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, Curtain)
-
ระบบเบรก: ABS + EBD + Brake Assist
-
ESP (Electronic Stability Program) + Traction Control + Engine Drag Control
-
Hill Hold Assist (HHA) และ Hill Descent Control (เฉพาะรุ่น AWD ALLGRIP)
-
ระบบเตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย ครบทุกที่นั่ง
-
ISOFIX ยึดเบาะนิรภัยเด็ก
-
กล้องรอบคัน 360° HD Camera (รุ่นสูง มีมุมมอง 11 แบบ)
-
เซ็นเซอร์กะระยะหน้า + หลัง
-
TPMS (Tyre Pressure Monitoring System)
-
ไฟ Emergency Stop Signal (ESS) เมื่อเบรกกะทันหัน
-
ระบบเตือนความเร็วเกินกำหนด (Speed Warning Buzzer)
เทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูง (Advanced Driver Assistance System – ADAS Level 2)
ระบบนี้มีในรุ่น Strong Hybrid + เกียร์ 6AT ซึ่งรวมกว่า 10 ฟังก์ชัน ได้แก่:
-
Lane Keep Assist (LKA) – ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน
-
Lane Departure Prevention (LDP) – ป้องกันการออกนอกเลน
-
Lane Departure Warning (LDW) – เตือนเมื่อออกนอกเลน
-
Forward Collision Warning (FCW) – เตือนการชนด้านหน้า
-
Automatic Emergency Braking (AEB) – เบรกอัตโนมัติเมื่อมีความเสี่ยงชน
-
Adaptive Cruise Control (ACC) with Curve Speed Reduction – ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และลดความเร็วตามโค้ง
-
Blind Spot Monitor (BSM) with Lane Change Alert (LCA) – ตรวจจับรถในมุมอับสายตา + เตือนเปลี่ยนเลน
-
Rear Cross Traffic Alert (RCTA) – เตือนรถที่วิ่งตัดหลังขณะถอย
-
High Beam Assist (HBA) – ปรับไฟสูง/ต่ำอัตโนมัติ
-
Vehicle Sway Warning – เตือนผู้ขับเมื่อมีอาการเหนื่อยล้าหรือรถส่าย
ฟีเจอร์เสริมด้านความปลอดภัย
-
ระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB) + Brake Hold
-
Day & Night IRVM (กระจกมองหลังปรับลดแสง)
-
Immobilizer + Alarm กันขโมย
-
Acoustic Vehicle Alert System (AVAS – สำหรับรุ่น Hybrid)
การเจาะตลาดอินเดียและทั่วโลก
ปัจจุบัน เอสยูวีครองสัดส่วน กว่า 60% ของตลาดรถยนต์นั่งในอินเดีย (FY2024) การมาของ Victoris ที่มีทั้งดีไซน์สะดุดตา ทางเลือกเครื่องยนต์ครบ และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย/ความสะดวกครบครัน จะช่วยให้ Suzuki ขยายความแข็งแกร่งในตลาด SUV อินเดีย และสร้างความนิยมในตลาดโลกได้ไม่ยาก
