1) สรุปไฮไลต์ D19 แบบอ่านจบใน 60 วินาที

• รถรุ่นแรกของซีรีส์ D และเป็น รุ่นแรกบนสถาปัตยกรรม LEAP 4.0
• EREV: ไฟฟ้าล้วน 500 กม. (CLTC), แบต 80.3 kWh, 800V, ชาร์จ 30–80% 15 นาที, กำลังสูงสุด 400 kW
• BEV: 1000V, แบต 115 kWh, วิ่ง 720 กม. (CLTC), 15 นาทีเพิ่มระยะ 350+ กม., 3 มอเตอร์ 540 kW, 0–100 กม./ชม. ระดับ 3 วินาที
• ชิป: Qualcomm Snapdragon 8797 “คู่” พลังประมวลผลรวม 1,280 TOPS รองรับ VLA/车位到车位 (ที่จอดถึงที่จอด)
• จอ: AR-HUD 60 นิ้ว + จอกลาง 17.3 นิ้ว + จอหลัง 21.4 นิ้ว 3K
• ความหรู: หนังลูกวัว/พวงมาลัย Nappa/เพดานกำมะหยี่/กลิ่น 3 แบบ/กล่องเย็น-อุ่น -6 ถึง 50°C
• ช่วงล่าง: ถุงลม 2 ห้อง + CDC, หน้า Double Wishbone หลัง 5-link, ระบบเบรก MKC2 brake-by-wire
• ราคาเป้า: 250,000 – 300,000 หยวน และเปิดตัว-ส่งมอบ เม.ย. 2026

2) D19 คือใครในตลาด SUV ขนาดใหญ่ “ธง” ของ Leapmotor

การวางตำแหน่งของ D19 ชัดเจนว่าเป็น Large SUV ที่ตั้งใจชนกับคู่แข่งระดับเรือธงในจีนโดยตรง จุดขายไม่ได้อยู่แค่ “แรง-วิ่งไกล” แต่เป็นภาพรวมของ เทคโนโลยีแพลตฟอร์มไฟฟ้าแรงดันสูง, ห้องโดยสารหรูแบบรถบ้าน, และความฉลาดระดับโดเมนคอนโทรล ที่กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของรถจีนยุค 2026

อีกจุดสำคัญคือ Leapmotor ไม่ได้ทำ D19 ให้เป็น “รุ่นย่อยเพิ่ม” แต่ใช้เป็น รุ่นนำร่องของซีรีส์ใหม่ (D-Series) และเป็นคันแรกของ LEAP 4.0 นั่นหมายความว่าเทคโนโลยีหลายอย่างถูกออกแบบเพื่อรองรับอนาคต (ขยายฟีเจอร์/อัปเดตซอฟต์แวร์/ต่อยอดรุ่นถัดไป)

3) LEAP 4.0 คืออะไร และทำไม D19 ถึงสำคัญ

LEAP 4.0 (ตามข้อมูลที่เปิดเผย) คือสถาปัตยกรรม “โดเมนรวมศูนย์” ที่ยกแกนหลักของรถยุคใหม่ขึ้นไปอยู่บนโครงสร้างควบคุมกลาง ไม่ว่าจะเป็น ค็อกพิท AI, ระบบช่วยขับ, ระบบพลังงานไฟฟ้าแรงดันสูง, และการจัดการเซนเซอร์/คอมพิวต์

เหตุผลที่ D19 สำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ คือการเป็น “ตัวโชว์เพดานเทคโนโลยี” ของ Leapmotor ในภาพรวม ซึ่งมักถูกใช้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค/นักลงทุน/คู่ค้า ว่าแบรนด์มีศักยภาพแข่งขันในเกมใหญ่ ไม่ใช่แค่ทำรถคุ้มค่าอย่างเดียว

4) ดีไซน์ภายนอก: “寰宇之境” + ไฟ DLP โปรเจกชันล้านพิกเซล

D19 ใช้ดีไซน์หน้ารถแนวคิด “寰宇之境” (แปลเชิงภาพ: บรรยากาศ/ขอบเขตแห่งจักรวาล) จุดสังเกตคือเอกลักษณ์ไฟหน้าและไฟ DRL ที่มาแบบจัดเต็ม

• DRL แบบพาดยาว 3 ช่วง สไตล์ครอบหน้า สร้างลายเซ็นแบรนด์ให้จำง่าย
• ไฟหน้า DLP โปรเจกชันระดับ “ล้านพิกเซล” รองรับการฉายภาพ/สร้าง “พรมแสง” แบบไดนามิก
• ไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive High Beam) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยกลางคืน
• กระจังหน้า Active Grille ช่วยบาลานซ์อากาศพลศาสตร์และการระบายความร้อน

วิเคราะห์: การใส่ DLP โปรเจกชัน + พรมแสง เป็นการยกระดับความพรีเมียมและสื่อสารความ “ล้ำ” ซึ่งเป็นสงครามภาพลักษณ์ของรถจีนช่วงนี้ โดยเฉพาะกลุ่ม Large SUV ที่ผู้ซื้อคาดหวังความหรูแบบเทคโนโลยี

5) มิติตัวถัง/ล้อ/สี: 5.25 เมตร + 21 นิ้ว + ISD Light Curtain

มิติตัวถัง

ดีเทลภาพลักษณ์

• ตัวถัง ทูโทน (สองสี) เพิ่มความพรีเมียม
• กระจกด้านข้างทรงเรียบ (flush) + ตัวถังโค้ง ช่วยภาพลักษณ์หรูและอากาศพลศาสตร์
• ล้อ 21 นิ้ว “向往之境” ทรงจาน (dish) + ยาง Michelin แบบเงียบ
• ท้ายรถใช้ ISD Smart Interactive Light Curtain แถบไฟกว้าง 1,958 มม. แสดง “ภาษาของแสง” ได้หลายสถานการณ์
• กระจก กันเสียง (acoustic glass) ช่วยความเงียบในห้องโดยสาร

สีตัวถัง (5 สี)

• 松谷绿 (เขียวสน)
• 液态银 (เงินเหลว)
• 金属黑 (ดำเมทัลลิก)
• 天幕灰 (เทาหลังคาฟ้า)
• 光电白 (ขาวโฟตอน)

6) ภายใน วัสดุหรู + ระบบกลิ่น + แสงแบบ “บ้านพัก”

ภาพรวมภายในยังคงความ “มินิมอลแบบ Leapmotor” แต่ดันคุณภาพวัสดุขึ้นชัดเจน โดยระบุว่ามีการใช้วัสดุนุ่มหุ้มพื้นที่ใหญ่ของห้องโดยสาร และกระบวนการผลิตเชิงสิ่งแวดล้อม

• วัสดุนุ่มหุ้มทั้งคัน + กระบวนการ “ชาโพลีฟีนอล” เชิงรักษ์โลก
• เพดาน กำมะหยี่ ให้ความรู้สึกหรูแบบห้องนั่งเล่น
• หนังลูกวัวแท้ + พวงมาลัยหนัง Nappa
• แผงตกแต่งลายไม้
• ระบบน้ำหอม 3 รูปแบบ
• ไฟภายในแบบ “soft diffuse” 4 จุด + ไฟบรรยากาศ Light Language

วิเคราะห์: การเน้น “บ้านพัก/宅邸” เป็นภาษาการตลาดที่ตรงกับกลุ่ม Large SUV ในจีน: ผู้ซื้อไม่ได้มองรถเป็นแค่ยานพาหนะ แต่เป็น “พื้นที่ใช้ชีวิต” โดยเฉพาะครอบครัวและผู้บริหารที่มีคนขับหรือเดินทางไกล

7) จอ/คอนโซล AR-HUD 60 นิ้ว + 17.3 นิ้ว + AI Cockpit

• AR-HUD 60 นิ้ว ความสว่างสูง ใช้ได้ทุกสภาพแสง
• มาตรวัดดิจิทัล 10.25 นิ้ว
• จอกลาง 17.3 นิ้ว ความละเอียดสูง รองรับโมเดล 3D ของรถ
• สถาปัตยกรรมค็อกพิทแบบ On-device Large Model พร้อมฟังก์ชัน AI โต้ตอบ
• คอนโซลล่างเป็นแท่นชาร์จไร้สาย + พื้นที่เก็บของ

ข้อได้เปรียบ: AR-HUD ขนาดใหญ่ช่วยลดการละสายตาจากถนน และเป็นอุปกรณ์ที่มักถูกใช้เป็น “ตัวชี้ความหรู” ในกลุ่มรถเรือธง

8) ผู้โดยสารหลัง จอ 3K 21.4 นิ้ว + กล่องเย็น/อุ่น + Zero-Gravity

D19 ใส่สเปกด้านหลังมาแบบรถครอบครัวระดับพรีเมียม โดยมีทั้งจอควบคุมและจอบันเทิงขนาดใหญ่ พร้อมอุปกรณ์ที่เน้นการเดินทางไกล

• จอควบคุมหลัง 6 นิ้ว + จอบันเทิงไฟฟ้า 21.4 นิ้ว 3K (รับรองแสงสีฟ้าต่ำ)
• โต๊ะพับ, ม่านบังแดด, หลังคาพาโนรามา
• กล่องเย็น/อุ่น 8.1 ลิตร ปรับได้ -6°C ถึง 50°C
• เบาะเจาะรูลาย V มีทั้ง 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง
• คนขับมีลำโพงที่พนักพิงศีรษะ
• แถว 2 แบบ Zero-Gravity เอนได้ 120° + ที่รองขา 4 ทิศทาง + ทางเดินกลาง 195 มม.
• แถว 3 ปรับเอนได้ 131° มีฮีตเตอร์และพับไฟฟ้า

วิเคราะห์: จุดนี้คือ “สนามรบของ Large SUV” ในจีน: ใครทำเบาะแถว 2–3 ให้นั่งสบายจริง มีออปชันไลฟ์สไตล์ครบ โอกาสปิดการขายจะสูงขึ้นอย่างชัดเจน

9) ความฉลาด ชิปคู่ 8797 1,280TOPS + VLA + AEB/AES

ด้านระบบอัจฉริยะ D19 ยืนยันแนวทาง “คอมพิวต์นำรถ” ด้วยชิปคู่ระดับสูงและกำลังประมวลผลรวม 1,280 TOPS พร้อมรองรับระบบช่วยขับแนวคิด VLA และความสามารถ车位到车位 (ที่จอดถึงที่จอด)

• ชิป Qualcomm Snapdragon 8797 “คู่”
• พลังประมวลผล 1,280 TOPS
• รองรับ VLA และฟังก์ชัน Parking-to-Parking
• AEB ทำงานช่วง 4–150 กม./ชม.
• AES (หลบหลีกฉุกเฉิน) ทำงานช่วง 80–130 กม./ชม.

ข้อควรอ่านให้ครบ: ประสบการณ์ใช้งานจริงของระบบช่วยขับไม่ได้วัดจาก TOPS อย่างเดียว แต่ขึ้นกับ “ซอฟต์แวร์ + การปรับจูน + เซนเซอร์ + ความสม่ำเสมอของอัปเดต” ซึ่งเป็นจุดที่ต้องรอรีวิวหลังส่งมอบ

10) ขุมพลัง EREV 800V vs BEV 1000V (สเปกละเอียด)

10.1 รุ่น EREV ขยายระยะทาง  เน้นวิ่งไฟฟ้ายาว + ชาร์จไว + มีถังน้ำมัน

• แบตเตอรี่ 80.3 kWh
• ระยะทางไฟฟ้าล้วน 500 กม. (CLTC)
• แพลตฟอร์ม 800V
• ชาร์จ 30–80% 15 นาที
• ถังน้ำมัน 40 ลิตร
• ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยมอเตอร์คู่ EREV
• เทคโนโลยีแบต CTC  (เน้นใช้พื้นที่ใต้ท้องเพื่อแบตให้มากที่สุด)
• ระบบขับ-ปั่นไฟรวม ลดน้ำหนักได้ มากกว่า 60 กก. เมื่อเทียบระบบดั้งเดิม
• ระยะทางรวมเพิ่มขึ้น 5%
• กำลังสูงสุด 400 kW หรือ 543 แรงม้า PS

10.2 รุ่น BEV (ไฟฟ้าล้วน): 1000V + 3 มอเตอร์ + เติมไฟเร็วมาก

• แพลตฟอร์มไฟฟ้าแรงดัน 1000V
• มอเตอร์ 3 ตัว
• กำลังรวม 540 kW หรือ 737 PS
• อัตราเร่ง 0–100 กม./ชม. ระดับ 3 วินาที
• แบตเตอรี่ 115 kWh (ระบุว่าใช้เซลล์ผสมรุ่นใหม่จาก CATL)
• ระยะทาง 720 กม. (CLTC)
• ชาร์จ 15 นาที เพิ่มระยะทาง 350+ กม.

อ่านเกมการเลือกขุมพลัง: EREV จะเหมาะกับคนที่เดินทางไกลบ่อย/กังวลสถานีชาร์จ/ต้องการความยืดหยุ่น ขณะที่ BEV คือทางเลือกของผู้ใช้ที่ต้องการ “พลัง+เทคโนโลยี+การชาร์จเร็ว” ในระบบแรงดันสูงสุดโต่ง

11) ช่วงล่าง/เบรก/แชสซี: ถุงลม 2 ห้อง + CDC + 3.6 ม. วงเวียนกลับรถ

• ถุงลม Dual-Chamber Closed Air Suspension (สองห้อง)
• ระบบปรับความหนืด CDC
• หน้า Double Wishbone หลัง Five-link
• เบรก MKC2 brake-by-wire
• พวงมาลัยไฟฟ้า Bosch R-EPS
• ระบบควบคุมแชสซี LMC2.0 รองรับพรีวิวถนน, คุมยางแตกสองล้อ, และ วงเลี้ยวแบบ “วงเวียนกลับรถ” ระดับ 3.6 เมตร

วิเคราะห์: เซ็ตอัปช่วงล่างแบบนี้ชี้ว่า D19 ต้องการยืนอยู่ในกลุ่ม “หรู-นุ่ม-นิ่ง” พร้อมเทคโนโลยีช่วยควบคุมเสถียรภาพระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ซื้อ Large SUV คาดหวัง

12) เทียบคู่แข่ง LeDAO L90 (ราคา/จุดเด่น/ความต่าง)

คู่แข่งหลักที่ถูกยกขึ้นมาชนตรง ๆ คือ LeDAO L90 ซึ่งเป็น Large SUV ที่มีจุดขายด้านแพลตฟอร์มแรงดันสูงและห้องโดยสารพรีเมียมเช่นกัน

สรุปการชน: หาก L90 เล่นเกม “BEV ล้วน + ราคา/เช่าแบต” D19 จะตอบด้วย “ทางเลือกพลังงานหลากหลาย + แรงดันสูงสุดโต่ง + ระยะทางสูง” เพื่อปิดช่องว่างการใช้งานจริง

13) วิเคราะห์ผลกระทบตลาด ทำไม D19 อาจเป็น “ตัวชน” ระดับเรือธง

D19 เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดรถจีนแข่งขันสูงมาก และผู้ผลิตต้อง “พิสูจน์ตัวเอง” ใน 3 เรื่องพร้อมกัน คือ เทคโนโลยี, ความน่าเชื่อถือ, และประสบการณ์ผู้ใช้

สิ่งที่ D19 ทำเพื่อเพิ่มโอกาสเป็นรุ่นฮิต

• ยกระดับแพลตฟอร์มแรงดันสูง เพื่อทำให้ “ชาร์จไว” เป็นคุณค่าใช้งานจริง
• ทำภายในให้เหมือนรถบ้าน ด้วยจอหลังใหญ่ กล่องเย็น/อุ่น เบาะ Zero-Gravity
• อัดคอมพิวต์ 1,280TOPS เพื่อปูทางฟีเจอร์ช่วยขับ/AI ในอนาคต
• มีทั้ง EREV และ BEV ครอบคลุมลูกค้าสองกลุ่มในคันเดียว

14) จุดที่ควรจับตาก่อนเปิดตัวจริง (เม.ย. 2026)

1. ราคาและรุ่นย่อยจริง: ช่วง  250,000 – 300,000 หยวนเป็นกรอบคาดการณ์ ต้องดูว่า “สเปกที่ประกาศ” อยู่ในรุ่นไหน
2. ตัวเลขชาร์จเร็วตามสถานีจริง: 15 นาทีได้ 350+ กม. เป็นตัวเลขที่ต้องดูเงื่อนไข (กำลังชาร์จ/อุณหภูมิ/SoC)
3. ประสบการณ์ VLA/ที่จอดถึงที่จอด: ความลื่นไหล ความปลอดภัย และความสม่ำเสมอของซอฟต์แวร์
4. ความเงียบและความสบายช่วงล่าง: ถุงลม+CDC จะ “ดีแค่ไหน” เมื่อเจอถนนจริง
5. เงื่อนไขหลังการขาย: ประกันแบต/ศูนย์/แพ็กเกจบริการ ซึ่งเป็นตัวชี้ความมั่นใจของแบรนด์

FAQ

Q: Blind Booking 999 หยวนได้อะไร?

A: ได้สิทธิ์จัดสรรรถก่อน เร่งการส่งมอบ สิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมทางการ บริการพิเศษ และโมเดลรถ D19 รุ่นลายเซ็นผู้ก่อตั้ง (ตามประกาศ)

Q: D19 มีทั้ง EREV และ BEV ต่างกันอย่างไร?

A: EREV วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 500 กม. และมีถังน้ำมัน 40 ลิตร เพิ่มความยืดหยุ่นเดินทางไกล ส่วน BEV เป็นไฟฟ้าล้วน 1000V ระยะทาง 720 กม. และเติมไฟเร็วมาก

Q: ตัวเลข 0–100 กม./ชม. 3 วินาที “รุ่นไหน”?

A: ระบุว่าเป็นรุ่น BEV ที่ใช้แพลตฟอร์ม 1000V กำลังรวม 540 kW (3 มอเตอร์)

Q: D19 จะชนรุ่นไหนเป็นหลัก?

A: คู่แข่งหลักที่ถูกยกขึ้นมาเทียบคือ LeDAO L90 ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Large SUV เช่นกัน