Advertisement

Advertisement

CEO TOYOTA ไม่พอใจกับนโยบายเน้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในญี่ปุ่น

CEO TOYOTA ไม่พอใจกับนโยบายเน้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในญี่ปุ่น

Advertisement

Advertisement

อากิโอะ โทโยดะ CEO ของโตโยต้า ซึ่งเป็นประธานสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่น ไม่พอใจกับนโยบายที่รัฐบาลจะผลักดันให้เน้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อการปล่อยคาร์บอนเป็นกลาง

อากิโอะ โทโยดะ กล่าวว่าการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด อาจทำให้คนในประเทศญี่ปุ่นต้องตกงาน 5.5 ล้านตำแหน่ง และ ผลิตรถยนต์จะสูญเสียยอดขายรถยนต์กว่า 8.8 ล้านคันภายในปี 2573

ในการประชุมประจำของสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น (JAMA) มีผู้บริหารแบรนด์รถยนต์ระดับสูงจาก HONDA , YAMAHA , ISUZU , TOYOTA พวกเขาต่างออกมาเตือนว่า เป้าหมายการลดคาร์บอนเป็นกลางของญี่ปุ่น ที่ได้แรงบันดาลใจจจากยุโรปนั้น ไม่ยั่งยืน

รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของญี่ปุ่นภายในปี 2573 และบรรลุความเป็นกลางของคาร์บอนสุทธิภายในปี 2593 ด้วยการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม CEO ของ Toyota เชื่อว่า โรดแมปควรคำนึงถึงความเป็นจริงที่ว่าสัดส่วนหลักทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเกิดจากการผลิตในอุสาหกรรมยานยนต์

การเปลี่ยนไปใช้ EV อย่างกะทันหันอาจทำลายฐานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นได้ Toyoda โต้แย้ง ดังนั้นเขาจึงเสนอแนวทางที่กว้างขึ้นในการลดคาร์บอนแทน

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออก ดังนั้น ความเป็นกลางของคาร์บอน จึงเท่ากับปัญหาการจ้างงานในญี่ปุ่น นักการเมืองบางคนบอกว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนรถยนต์ทุกคันให้กลายเป็น EV หรือ อุตสาหกรรมการผลิตควรปรับเปลี่ยน เพราะปัจจุบันล้าสมัย

ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นผลิตรถยนต์ประมาณ 10 ล้านคันต่อปีโดยครึ่งหนึ่งส่งออกไปขายต่างประเทศ เขาอ้างถึงการคาดการณ์ที่คาดการณ์ว่าภายในปี 2030 โรงงานในประเทศจะยังคงผลิตรถยนต์ได้ 8 ล้านคันต่อปีที่ติดตั้งเครื่องยนต์สันดาป ซึ่งรวมถึงไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด

เมื่อยานพาหนะเหล่านั้นถูกห้ามผลิต หรือ เครื่องยนต์สันดาปถูกห้ามขาย ผู้ผลิตรถยนต์จะได้รับผลกระทบอย่างมาก ส่งผลให้บริษัทต่างๆ ต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก

เมื่อพูดถึงการแก้ปัญหา Akio Toyoda ให้เหตุผลว่าควรปรับเส้นทางสู่ความเป็นกลางของคาร์บอนให้เข้ากับสภาพของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรมีความยืดหยุ่น

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ Toyoda กล่าวว่ารถยนต์ไฮบริดยังคงมีส่วนสำคัญในการทำให้คาร์บอนเป็นกลาง แม้ว่าจะติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในก็ตาม นั่นเป็นเพราะว่ารถไฮบริดมีราคาถูกกว่า EV และสามารถเจาะตลาดได้มากกว่า เพราะไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐาน หรือ สถานีชาร์จ

ในขณะเดียวกัน รถไฮบริดสามารถใช้เป็นเทคโนโลยีสะพานเชื่อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมได้บางส่วน

เราคงสับสนว่า TOYOTA ต้องการผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าจริงๆ หรือไม่ เพราะปัจจุบัน โตโยต้ามีนโยบายเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตเช่นกัน

แต่ถึงอย่างไร การเปลี่ยนผ่านจากบริษัทดั่งเดิมไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เป็นการเดิมพันที่สูงมาก และ ลงทุนมหาศาล แต่หากไม่ทำอะไรเลย โตโยต้า หรือ แบรนด์รถยนต์ในญี่ปุ่น อาจต้องเผชิญกับการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญในอนาคตอย่างแน่นอน

insideevs.com

Advertisement

Advertisement

ใส่ความเห็น

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้