พื้นฐาน Changan Hunter : RAM เตรียมเปิดตัวกระบะ Dakota ท้าชน HILUX , RANGER

Ram Dakota Nightfall การกลับมาของ “ตำนานกระบะอเมริกัน” ในร่างใหม่สายพันธุ์ Global จาก Stellantis บนพื้นฐานเดียวกับกระบะ Changna Hunter/Kaicene F70
หลังห่างหายจากตลาดไปนานหลายปี ในที่สุดชื่อ “Ram Dakota” ก็หวนกลับมาอีกครั้ง—แต่ไม่ใช่ในแบบที่หลายคนคาดคิด เพราะคราวนี้ Stellantis เลือกจะ “ชุบชีวิต” ชื่อนี้ในฐานะกระบะรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ ตลาดอเมริกาใต้ โดยเฉพาะ และล่าสุดก็ได้เผยภาพทีเซอร์อย่างเป็นทางการของรุ่นผลิตจริง หลังจากโชว์ต้นแบบ Ram Dakota Nightfall Concept ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาในประเทศบราซิล
จุดกำเนิดของโครงการ – จากอเมริกันสู่ลาติน
ชื่อ “Dakota” เดิมนั้นมีประวัติยาวนานในสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุคปี 1980 ภายใต้ Dodge Dakota ซึ่งเคยเป็นกระบะขนาดกลางยอดนิยมของอเมริกันชน ก่อนจะเลิกผลิตในปี 2011 แต่เมื่อ Stellantis ถือกำเนิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของ Fiat Chrysler Automobiles (FCA) และ PSA Group ก็ได้เกิดแนวคิดใหม่ในการ “ฟื้นชื่อเก่า” เพื่อใช้ในโครงการระดับโลก
ตลาดอเมริกาใต้ โดยเฉพาะ บราซิลและอาร์เจนตินา เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่กระบะไซซ์กลางได้รับความนิยมสูงมาก จึงไม่แปลกที่ Stellantis จะเลือกใช้ชื่อ Ram Dakota กลับมาลงสนามอีกครั้ง เพื่อชนกับคู่แข่งอย่าง Toyota Hilux, Ford Ranger, Chevrolet S10 และ Volkswagen Amarok
พันธุกรรมร่วม – พี่น้องกับ Peugeot, Fiat และ Changan
แม้ชื่อ “Ram” จะมีรากอเมริกัน แต่ตัวรถจริงของ Dakota ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐาน ร่วมกับ Peugeot Landtrek และ Fiat Titano ซึ่งทั้งคู่มีสายเลือดเดียวกับกระบะจากจีนคือ Changan Hunter (หรือ Kaicene F70) พูดง่าย ๆ คือ Stellantis ใช้ฐานโครงสร้างของ Changan Hunter ซึ่งเป็นกระบะที่ได้รับความนิยมในจีน และดัดแปลงดีไซน์ภายนอก–ภายในให้เข้ากับเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ในเครือ เช่น
-
Peugeot Landtrek ได้กลิ่นอายฝรั่งเศส
-
Fiat Titano เน้นตลาดละตินอเมริกา
-
Ram Dakota ปรับให้มีลุคอเมริกันเข้มข้นและพรีเมียมกว่าทั้งคู่
ในทางเทคนิค การแชร์แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ Stellantis ลดต้นทุนการพัฒนา และสามารถผลิตรถได้รวดเร็วขึ้น โดยโรงงานจะตั้งอยู่ที่ อาร์เจนตินา ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตกระบะของ Stellantis ในภูมิภาคนี้
ดีไซน์ภายนอก – เอกลักษณ์ Ram ชัดเจนขึ้น
จากภาพทีเซอร์ล่าสุดที่เผยโดย Stellantis South America พบว่ารุ่นผลิตจริงของ Ram Dakota ยังคงอิงจากต้นแบบ Nightfall Concept อยู่มาก แต่มีการปรับรายละเอียดบางส่วนให้ใช้งานจริงได้มากขึ้น
-
กระจังหน้าใหม่ออกแบบเป็น “ซี่แนวนอน” แบบเดียวกับ Ram 1500
-
ไฟหน้า LED ทรงเรียวยาว แต่ไม่มีเส้นไฟ DRL เชื่อมต่อกลางแบบในต้นแบบ
-
กันชนหน้าและซุ้มล้อดีไซน์สปอร์ตเข้ม พร้อมโลโก้ RAM ขนาดใหญ่กลางกระจัง
-
ด้านท้ายคาดว่าจะใช้ไฟท้ายแนวนอนพร้อมชื่อ Dakota เด่นบนฝาท้าย
ภาพรวมคือสไตล์ที่ผสมผสาน “กล้ามอเมริกัน” กับ “ความปราดเปรียวของตลาดโลก” ได้อย่างลงตัว
ห้องโดยสาร – ผสมความทันสมัยแบบจีน
สิ่งที่สร้างความสนใจมากที่สุดในทีเซอร์รอบนี้คือ ภาพภายในห้องโดยสารที่ถูกเผยเป็นครั้งแรก ซึ่งต่างจากต้นแบบที่ติดฟิล์มทึบจนมองไม่เห็นเลย Ram Dakota รุ่นนี้ดูเหมือนจะนำดีไซน์ภายในของ Changan Hunter รุ่นล่าสุด มาดัดแปลงอย่างชัดเจน เช่น
-
แผงหน้าปัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ (Digital Cluster)
-
หน้าจอกลางแนวตั้งระบบสัมผัส
-
คันเกียร์แบบสั้น และปุ่มควบคุมทรง “เพชรเหลี่ยม”
-
ช่องวางแก้วและคอนโซลกลางที่ออกแบบแบบเปิดโล่ง
โดยรวมให้บรรยากาศทันสมัย เหมาะกับตลาดที่นิยมความหรูหราในงบประมาณไม่สูงมาก
เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
แม้ Stellantis ยังไม่เปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคอย่างเป็นทางการ แต่สื่อยานยนต์ใน บราซิล และ อาร์เจนตินา คาดว่า Dakota จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร Multijet Turbo
ซึ่งเป็นขุมพลังเดียวกับที่ใช้ใน Peugeot Landtrek และ Fiat Titano
สเปกคาดการณ์
-
กำลังสูงสุดราว 200 แรงม้า
-
แรงบิดประมาณ 450 นิวตันเมตร
-
ระบบขับเคลื่อน 4WD พร้อมโหมดเลือกการขับขี่
-
เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 8 จังหวะ (ทอร์กคอนเวอร์เตอร์)
บางสื่อยังรายงานว่าในอนาคตอาจมีรุ่นเบนซินเทอร์โบ 2.0 หรือแม้แต่รุ่น ไฮบริด หากตลาดตอบรับดี
บทบาทในตลาด – Ram บุกอเมริกาใต้เต็มตัว
การกลับมาของชื่อ Dakota มีความหมายมากกว่าแค่การเปิดตัวกระบะใหม่ เพราะมันคือ “จุดเริ่มต้นของการขยายแบรนด์ Ram” ในตลาดลาตินอเมริกา ซึ่ง Stellantis ตั้งใจให้เป็นฐานหลักของแบรนด์กระบะสายพรีเมียมนี้
ในอเมริกาใต้ Stellantis มีส่วนแบ่งตลาดรวมกว่า 30% อยู่แล้วจาก Fiat, Peugeot และ Citroën
การเพิ่ม Ram Dakota เข้ามาจะทำให้ Stellantis ครอบคลุมตลาดกระบะทุกระดับ ตั้งแต่เล็กสุด (Fiat Strada) ไปจนถึงขนาดกลาง (Dakota) และใหญ่สุด (Ram 1500 / 2500)
กำหนดการเปิดตัวและจำหน่าย
Stellantis ยังไม่ได้ประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่มีรายงานจากสื่ออาร์เจนตินาว่า
-
การเปิดตัวจะมีขึ้น ต้นสัปดาห์หน้า
-
จะเริ่มเปิดรับจองใน อาร์เจนตินาภายในสิ้นปี 2025
-
เริ่มขายจริงใน บราซิลช่วงปี 2026
จากนั้นจะขยายไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค เช่น ชิลี เปรู และโคลอมเบีย
มุมมองต่ออนาคต – อาจปูทางสู่ “Ram Global Pickup”
หลายฝ่ายมองว่า Ram Dakota อาจเป็น “ก้าวทดลอง” ของ Stellantis ในการสร้างกระบะขนาดกลางระดับโลก โดยใช้ตลาดอเมริกาใต้เป็นสนามทดสอบ ทั้งในด้านการผลิต ต้นทุน และการตอบรับของลูกค้า
หากประสบความสำเร็จ รุ่นนี้อาจถูกพัฒนาเวอร์ชัน “Global Spec” เพื่อจำหน่ายในตลาดอื่น เช่น แอฟริกาใต้ ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่เอเชียในอนาคต
Ram Dakota Nightfall Concept กระบะสายลุยโฉมใหม่ บุกตลาดอเมริกาใต้ปี 2026
เปิดขายไทย DEEPAL HUNTER K50 REEV PLUS AWD ราคา 1,099,000 บาท วิ่งไฟฟ้า 131 กม.