พร้อมโชว์ไทยปลายปี Chery TIGGO 8 PRO MAX 2.0TGDI 250 แรงม้า

Chery Auto เตรียมแนะนำแบรนด์รถยนต์ในไทย คาดว่าจะเอา Chery TIGGO 8 PRO MAX มาโชว์ที่ มหกรรมยานยนต์ Thailand International Motor Expo ครั้งที่ 39 ระหว่าง 1 – 12 ธันวาคม 2022 ก่อนเปิดราคาจำหน่ายช่วงปลายปี 2023

Chery กำลังจะเปิดตัว TIGGO 8 PRO MAX ใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ และเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ได้รับการปรับปรุงอย่างเต็มที่ ซึ่งจะนำประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่มาสู่ผู้บริโภคทั่วโลก นอกจากนี้ การเปิดตัวรถยนต์รุ่น TIGGO 8 PRO MAX จะกลายเป็นสมาชิกใหม่ของ Chery’s PRO FAMILY ร่วมกับ TIGGO 8 PRO, TIGGO 7 PRO, TIGGO 4 PRO และ ARRIZO 6 PRO

สิ่งที่น่าสนใจใน TIGGO 8 PRO MAX รุ่นใหม่นั้น เครื่องยนต์ 2.0TGDI ให้กำลัง 250 แรงม้า แรงบิต 390 นิวตัน-เมตร พร้อมเทคโนโลยี Miller cycle, เทคโนโลยี CVVL, ระบบจัดการความร้อนอัจฉริยะรุ่นที่สอง, เทคโนโลยีสมดุลเพลาคู่ขั้นสูง, ระบบตอบสนองชั่วคราวรุ่นใหม่ ระบบการจัดการความร้อนอัจฉริยะและเทคโนโลยีลดแรงเสียดทานต่ำพิเศษ บรรลุประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงถึง 38.2% นอกจากนี้ ส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ 7DCT

• สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม. ได้ในเวลาเพียง 7.3 วินาที
• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพียง 14 กม./ลิตร
• ติดตั้งระบบควบคุม AWD อัจฉริยะของ Chery รุ่นใหม่ – ระบบ AWD เต็มรูปแบบของการควบคุมอัจฉริยะ
• โหมดการขับขี่ 6 โหมดสำหรับล้อฟรี ทั้งโหมด economical, ordinary, sports, camping, skiing และ off-road สามารถเปลี่ยนไปใช้ AWD ได้ภายใน 100 เมตร/วินาที
• เอาต์พุตแรงบิดที่แข็งแกร่งพร้อมสวิตช์อัจฉริยะและรวดเร็วที่ 0~3000 N·m และความสามารถในการขึ้นทางชันสูงสุด 45% TIGGO 8 PRO MAX ใหม่สามารถเดินทางบนถนนที่มีสภาพไม่ดี เช่น แอ่งน้ำ โคลน หลุมบ่อ และทางลาดชัน

TIGGO 8 PRO MAX ใหม่มาพร้อมกับกระแสแห่งปัญญาประดิษฐ์ทั่วโลก โดยมีการกำหนดค่าเทคโนโลยีหลักของ Chery หลายชุด หน้าจอคู่แบบซุปเปอร์สมาร์ทขนาด 24.6 นิ้วใหม่ แสดงถึงเทคโนโลยีและความหรูหราของห้องโดยสาร ระบบที่รวมอยู่ในหน้าจอควบคุมส่วนกลางให้ความบันเทิง การนำทาง และฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่หลากหลาย และอำนวยความสะดวกในการใช้งานประจำวันของผู้บริโภค อีกทั้งระบบเสียงอัจฉริยะแบบออฟไลน์ที่ติดตั้งใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคตช่วยให้เจ้าของรถสามารถรับรู้คำสั่งการใช้งานส่วนใหญ่ผ่านเสียงได้

สำหรับการออกแบบภายใน TIGGO 8 PRO MAX ใหม่ มีที่นั่ง 5+2 ที่นั่ง นอกจากนี้ ด้วยเสียงของ Sony จากลำโพง 10 ตัวภายใน รถจึงมีคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและพื้นที่เงียบที่ 34db ต่ำเป็นพิเศษ ทำให้สภาพแวดล้อมในการขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น

• เครื่องเสียง SONY ลำโพง 10 ตำแหน่ง
• กล้องพาโนรามา 360 องศา

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบทำความสะอาดห้องโดยสารแบบแอคทีฟจากระยะไกล ซึ่งสามารถทำความสะอาดอากาศภายในผ่านเทอร์มินัลเคลื่อนที่ได้โดยอัตโนมัติ และทำให้มั่นใจได้ถึงความสะอาดของอากาศ นอกจากนี้ยังมีแผ่นกรองอากาศในห้องโดยสารที่ป้องกันเชื้อรา “CN95” มาใช้ เพื่อป้องกันการบุกรุกของไวรัสและรับประกันความปลอดภัยในการเดินทาง

การอัพเกรดรูปลักษณ์แบบไดนามิกที่มาพร้อมความหรูหราสง่างาม

การออกแบบรูปลักษณ์ของ TIGGO 8 PRO MAX ใหม่ เป็นไปตามสไตล์การออกแบบของตระกูล Chery – มีไดนามิกและทันสมัย กระจังหน้าที่ออกแบบใหม่มีความสวยงามดุจดวงดาว ไฟหน้า LED สุดหรูพร้อมฟังก์ชันขั้นสูงช่วยเพิ่มความรู้สึกของเทคโนโลยีทั่วทั้งคัน การออกแบบตัวถังที่เพรียวบางแสดงท่วงท่าไดนามิกของรถทั้งคัน และการออกแบบส่วนท้ายนั้นเรียบง่ายและสง่างาม

คาดว่า TIGGO 8 PRO MAX ใหม่จะกลายเป็นผลิตภัณฑ์เด่นในหมู่ผู้บริโภค ด้วยพลังอันยอดเยี่ยม การกำหนดค่าเทคโนโลยีชั้นนำ และรูปลักษณ์ที่ทันสมัยเป็นพิเศษ ด้วยการเปิดตัว TIGGO 8 PRO MAX ใหม่ทั่วโลก ตลาดรถยนต์ทั่วโลกจะเริ่มหันมาสนใจคลื่นลูกใหม่ ในอนาคต TIGGO 8 PRO MAX ใหม่จะเข้าสู่ตลาดทั่วโลก โดยนำเทคโนโลยีคุณภาพสูงและนวัตกรรมขั้นสูงของ Chery Automobile ไปสู่ทั่วทุกมุมโลกและให้บริการแก่ผู้บริโภคทุกคน

ขนาดตัวถัง	Tiggo 8 PRO	CR-V	MG HS	HAVAL H6
ยาว (มม.)	4722	4610	4574	4653
กว้าง (มม.)	1860	1855	1876	1886
สูง (มม.)	1745	1689	1664	1724
ฐานล้อ (มม.)	2710	2662	2720	2738

ช่างล่าง

• ช่วงล่างหน้า Mcpherson
• ช่วงล่างหลัง Muti-Link Independent
• เบรกหน้า – ดิสก์เบรก
• เบรกหลัง – ดิสก์เบรก

Pro Family ยังใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อให้ความปลอดภัยที่ครอบคลุม

• ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว
• ระบบการติดตั้งคาร์ซีทมาตรฐานสากล
• ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS)
  • การเตือนการออกนอกเลน (LDW)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
  • บรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
  • การจดจำป้ายจราจร (TSC)
  • ระบบควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (IHC)
  • การตรวจสอบจุดบอด (BSD)
  • การเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
  • ระบบป้องกันคันเร่งค้าง (BOW)