จีนชี้! “ระบบขับขี่อัจฉริยะ” รถที่ขายในตลาดขณะนี้ “ยังไม่ใช่ระบบขับขี่อัตโนมัติ”

Advertisement
จีนชี้! “ระบบขับขี่อัจฉริยะ” บนรถที่ขายในตลาดขณะนี้ “ยังไม่ใช่ระบบขับขี่อัตโนมัติ” – ผู้ขับยังเป็นผู้รับผิดชอบหลัก 100%
ในการแถลงข่าวตามหัวข้อ “บรรลุเป้าหมายแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 14 อย่างมีคุณภาพ” ผู้อำนวยการกรมจราจร สังกัดกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ได้กล่าวตอบคำถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีขับขี่อัจฉริยะว่า:
“ปัจจุบัน รถยนต์ที่วางจำหน่ายในตลาดจีนซึ่งติดตั้งระบบ ‘ขับขี่อัจฉริยะ’ ทั้งหมด ยังไม่ถือว่าเป็นระบบ ‘ขับขี่อัตโนมัติ’ แต่อย่างใด ระบบเหล่านี้ยังคงอยู่ใน ‘ระดับผู้ช่วยขับขี่’ เท่านั้น หมายความว่าระบบเพียงช่วยอำนวยความสะดวกในการขับขี่บางอย่าง แต่ยังต้องอาศัยผู้ขับขี่ควบคุมตลอดเวลา โดยผู้ขับขี่เป็นผู้รับผิดชอบโดยสมบูรณ์”
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการยังกล่าวเสริมว่า หากผู้ขับ “ละมือ-ละสายตา” จากถนน เช่น ปล่อยพวงมาลัยทั้งสองมือ มองลงจอมือถือ หรือแม้แต่หลับใน ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงสูงมาก และหากเกิดอุบัติเหตุ อาจต้องเผชิญกับโทษ 3 ทาง ได้แก่
-
ความรับผิดทางแพ่ง
-
โทษปรับตามกฎหมายจราจร
-
และความผิดทางอาญา
ทางกระทรวงจะดำเนินการควบคุมอย่างเข้มงวดใน 3 ด้านหลัก ได้แก่
1. เข้มงวดกับผู้ผลิตรถยนต์
-
ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ ตรวจสอบให้ผู้ผลิตรับผิดชอบต่อการใช้งานระบบขับขี่ช่วยเหลือ
-
ต้องทดสอบการทำงานของระบบอย่างรอบด้าน กำหนดขอบเขตความสามารถที่ชัดเจน และมาตรการความปลอดภัย
-
ต้องไม่โฆษณาเกินจริงหรือทำให้เข้าใจผิด ตามกฎหมายโฆษณาแห่งชาติ
-
ต้องแจ้งเตือนผู้ใช้ใหม่ให้ทราบวิธีใช้งานและข้อห้ามอย่างละเอียด
2. ปรับปรุงกฎหมายให้ชัดเจน
-
จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายจราจรของประเทศ
-
กำหนดสถานะทางกฎหมายของระบบช่วยขับขี่ระดับ 0-2 ว่าเป็น “การขับขี่ร่วมกันระหว่างคนกับเครื่อง”
-
ส่งเสริมให้ผู้ผลิตปรับปรุงความน่าเชื่อถือของระบบ และจัดทำมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง
-
สำรวจความเป็นไปได้ในการบรรจุเนื้อหาการใช้งานระบบช่วยขับขี่ลงในหลักสูตรอบรมและสอบใบขับขี่
3. เพิ่มการให้ความรู้ผู้ขับขี่
-
ขับขี่ยุคใหม่ “ผู้ขับยังคงเป็นผู้รับผิดชอบอันดับแรก”
-
จะส่งเสริมการให้ข้อมูลผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้ผู้ขับตระหนักว่า “ระบบช่วยขับขี่ ≠ ขับขี่อัตโนมัติ”
-
ต้องเรียนรู้ให้เข้าใจถึงขีดจำกัดของระบบและวิธีใช้งานที่ถูกต้อง
-
ห้ามปล่อยมือจากพวงมาลัยหรือเสียสมาธิ เพราะเสี่ยงทั้งชีวิตและอาจถูกดำเนินคดี
นอกจากนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีนยังได้ประกาศ “แนวทางจริยธรรมสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ” โดยมีสาระสำคัญว่า:
-
ระบบขับขี่อัตโนมัติต้อง “เคารพชีวิตมนุษย์เป็นสำคัญ”
-
ในสถานการณ์ฉุกเฉินต้องมีการตอบสนองที่ลดความเสี่ยงให้มนุษย์มากที่สุด
-
อัลกอริทึมและโมเดลที่ใช้ต้องถูกบันทึกไว้อย่างโปร่งใส และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้
แบ่งระดับความรับผิดชอบของระบบอัตโนมัติชัดเจน:
- ระดับช่วยขับขี่ (Level 0–2): ผู้ขับขี่ยังเป็นผู้รับผิดชอบหลัก
- ระดับอัตโนมัติจำกัดพื้นที่ (Level 3–4): ความรับผิดชอบขึ้นอยู่กับสถานการณ์ อาจเป็นผู้ใช้หรือระบบก็ได้
- ระดับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ (Level 5): ระบบต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ยกเว้นมีเหตุให้ผู้ใช้เข้าควบคุมเอง
สุดท้าย
ผู้พัฒนาและผู้ผลิตจะต้อง
-
แจ้งข้อมูลระบบให้สังคมทราบอย่างโปร่งใส
-
ระบุระดับระบบอัตโนมัติ ข้อจำกัด วิธีใช้งาน และข้อควรระวังอย่างชัดเจน
-
ห้ามเผยแพร่ข้อมูลที่อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้