เปิดตัว GEELY Galaxy A7 EM-i ซีดานปลั๊กอินไฮบริด ครอบคลุมการวิ่ง 2,100 กม./ถังน้ำมัน คาดเริ่มในจีน 450,000 บาท

เปิดตัว GEELY Galaxy A7 EM-i ซีดานปลั๊กอินไฮบริด ครอบคลุมการวิ่ง 2,100 กม./ถังน้ำมัน คาดเริ่มในจีน 450,000 บาท
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

วันที่ 19 มิถุนายน 2025 Geely ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ Galaxy A7 EM-i ซึ่งเป็นรถยนต์ซีดานปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม GEA (Geely Electric Architecture) โดยมาพร้อมกับระบบ “Geely EM AI Super Hybrid 2.0” (หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิมว่า Leishen หรือ NordThor Hybrid 2.0) และถูกจัดตำแหน่งให้อยู่ระหว่าง Galaxy L6 และ Starshine 8 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Galaxy ที่กำลังขยายตัวของ Geely คาดว่า Galaxy A7 EM-i จะเริ่มวางจำหน่ายภายในปีนี้ โดยมีเป้าหมายหลักในการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง BYD Seal 06 DM-i และ BYD Qin L

ราคาที่คาดการณ์: แม้จะยังไม่มีการยืนยันราคาอย่างเป็นทางการ แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Galaxy A7 EM-i จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 100,000 ถึง 130,000 หยวน (ประมาณ  456,000 ถึง 590,000 บาท) ซึ่งจะอยู่ระหว่าง Galaxy L6 และ Starshine 8

  • อัตราการใช้น้ำมันขณะใช้ไฟหมดอยู่ที่ประมาณ 2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร  หรือประมาณ 50 กม./ลิตร และมีระยะทางรวมวิ่งได้มากกว่า 2,100 กิโลเมตร / ถังน้ำมัน

รูปลักษณ์ภายนอก

  •  ใช้ภาษาการออกแบบ “Galaxy Ripple” โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบปิดทึบ, แถบไฟ LED เต็มความกว้าง 196 ดวง, กันชนหน้าที่มีช่องรับอากาศทรงสี่เหลี่ยมคางหมู และรายละเอียดโครเมียมสีเงิน เส้นสายคู่ที่ด้านข้างและรูปทรงเพรียวบางช่วยเพิ่มความแอโรไดนามิก ส่วนท้ายรถมีแถบไฟแบบมินิมอลและตัวอักษร Geely ที่รวมอยู่ในดีไซน์
  • ดีไซน์ไฟหน้าเป็นแบบไฟ LED แนวยาวแบบ Star Ring (ดาว) เชื่อมต่อทั้งสองข้าง
  • ไฟหน้ามีทรงเรียวคม สร้างความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์
  • ช่องดักลมด้านล่างขนาดใหญ่ทั้งสองข้าง ให้ความรู้สึกสปอร์ต
  • ขนาดตัวรถ
    • ยาว 4,918 มม.
    • กว้าง 1,905 มม.
    • สูง 1,495 มม.
    • ระยะฐานล้อ 2,845 มม.
    • ใหญ่กว่าคู่แข่ง เช่น BYD Qin L DM และ Roewe D7 DMH ทำให้มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง
  • มีเส้นสายคมชัดตามแนวตัวถัง (waistline) ออกแบบอย่างประณีต
  • ใช้ล้อแม็กลายซี่ลายแน่น (multi-spoke)
  • ขอบหน้าต่างตกแต่งด้วยแถบสีดำเงา (bright black trim)
  • มือจับประตูยังคงเป็นแบบธรรมดา ไม่ใช้แบบซ่อน (hidden door handle) เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
  • ไฟท้ายเป็นแบบ LED แนวยาวเชื่อมทั้งสองข้าง พร้อมโครงสร้างหลอดไฟแบบซับซ้อน เพิ่มมิติทางสายตา
  • ฝากระโปรงท้ายมีดีไซน์ “ducktail” ปลายยกเล็กน้อย เพิ่มความสปอร์ต
  • ช้ยาง Continental ขนาด 19 นิ้ว (235/45 R19)
  • มีกล้องภายนอกหลายตัวรองรับชุดระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ครอบคลุม

ภายใน

  • การออกแบบภายในสะท้อนมาจาก Starshine 8 รุ่นใหญ่กว่า
  • ภายในออกแบบใหม่หมด ใช้พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสองก้าน (dual-spoke)
  • หน้าจอสัมผัสกลางแบบลอยตัวขนาด 15.4 นิ้ว ใช้ระบบ Flyme Auto
  • แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว
  • ระบบ Flyme Auto: รองรับ CarPlay, HiCar, ICCOA และ Flyme Link พร้อมการอัปเดต OTA, การจดจำฉากด้วย AI และการจัดการพลังงานแบบปรับได้ มีปุ่มควบคุมแบบหมุนสำหรับการควบคุมแบบสัมผัสเพิ่มเติม
  • มีหน้าปัดจอดิจิทัลขนาดใหญ่ พร้อมหน้าจอกลางแบบลอยตัว (floating touchscreen)
  • เพิ่มไฟ Ambient Light รอบขอบหน้าจอและบริเวณคอนโซลกลาง เพิ่มความหรูหรา
  • คอนโซลกลางมีที่วางแก้วน้ำพร้อมฝาปิดแบบพับได้ มีปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศและปุ่มควบคุมมัลติมีเดียแบบหมุน
  • ใช้วัสดุไม้ลายและสีดำเงา (wood grain and glossy black trim) ให้ความรู้สึกพรีเมียม
  • มีระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย (wireless charging) รองรับการใช้งานยุคใหม่
  • มีคันเกียร์แบบคอลัมน์, แท่นชาร์จไร้สาย, ช่องเก็บของแบบซ่อน และปุ่มควบคุมทางกายภาพสำหรับระบบมีเดียและระบบปรับอากาศ
  • ระบบเครื่องเสียง Flyme Sound 16 ลำโพง
  • จอแสดงผล Head-up Display (HUD) ขนาด 16.6 นิ้ว
  • หลังคาพาโนรามาพร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า
  • ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบปรับได้ 256 สี
  • เบาะหลังพับได้แบบ 4/6 เพิ่มความจุห้องเก็บสัมภาระจาก 535 เป็น 988 ลิตร
  • เบาะหน้ามีระบบระบายอากาศและทำความร้อน พร้อมลำโพงที่พนักพิงศีรษะและโหมดนวด 8 โหมด
  • เบาะหลังกว้าง 550 มม. และปรับเอนได้ 120 องศา

ขุมพลัง

  • Galaxy A7 EM-i ใช้ระบบส่งกำลังไฮบริดที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร (BHE15-BFN) และมอเตอร์ไฟฟ้า P3 ที่ให้กำลังรวม 175 kW (ประมาณ 235 แรงม้า)
  • ประสิทธิภาพ Geely อ้างว่าเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพเชิงความร้อนสูงสุดในระดับเดียวกันที่ 47.26% สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 7.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดที่ 190 กม./ชม.
  • อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในโหมดที่แบตเตอรี่หมด (charge-depleted mode) อยู่ที่ 2.67 ลิตร/100 กม. ภายใต้เงื่อนไข CLTC
  • แบตเตอรี่ LFP (ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต) ให้เลือก 3 ขนาด: 8.5 kWh, 18.4 kWh และ 18.99 kWh
  • ระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 55 กม., 70 กม., 120 กม. หรือ 150 กม.
  • ระยะทางรวม แพลตฟอร์ม EM-i มาพร้อมกับอัลกอริทึมการจัดการพลังงานอัจฉริยะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายพลังงานและยืดอายุแบตเตอรี่ โดยมีระยะทางวิ่งรวมภายใต้เงื่อนไข CLTC เกิน 2,100 กิโลเมตร

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้