3 ปีทะยานไกล! GWM (Thailand) ขึ้นแท่นศูนย์กลางส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่สู่โลก



GWM (Thailand) ก้าวกระโดดสู่ Global Export Hub จากโรงงานระยองสู่เวทีโลก
ใครจะคิดว่าจากวันที่ GWM (Great Wall Motor) เข้ามาปักธงในประเทศไทยเมื่อไม่กี่ปีก่อน วันนี้ชื่อของ “GWM (Thailand)” กลับถูกพูดถึงในฐานะ ศูนย์กลางการผลิตและส่งออกระดับโลก ที่ขับเคลื่อนตลาดยานยนต์หลายทวีป ทั้งเอเชีย ลาตินอเมริกา แอฟริกา ไปจนถึงออสเตรเลีย
เพียง 3 ปี (2566–2568) GWM (Thailand) สามารถสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการรถยนต์ไทยได้อย่างน่าจับตามอง จากยอดส่งออกไม่กี่ร้อยคันในปีแรก สู่การคาดการณ์ทะลุ 5,000 คันภายในสิ้นปี 2568 โดยมี “รถพลังงานใหม่” อย่าง BEV และ HEV เป็นหัวหอกสำคัญ
3 ปีแห่งการก้าวกระโดด
-
ปี 2566 : เริ่มปักธงส่งออกด้วย HAVAL H6 HEV และ HAVAL Jolion HEV ไปยังตลาดอินโดนีเซียและเวียดนาม ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่วางรากฐานความมั่นใจ
-
ปี 2567 : เสริมทัพด้วยสายพันธุ์แกร่งอย่าง TANK 300 HEV และ TANK 500 HEV เจาะตลาด SUV พรีเมียม โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่กลายเป็นตลาดใหญ่
-
ปี 2568 : ก้าวสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อ GWM ขยายตลาดส่งออกเพิ่มถึง 9 ประเทศใหม่ ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย ออสเตรเลีย ภูฏาน มอริเชียส บราซิล แอนติกา จาเมกา เซนต์ลูเซีย และบาร์เบโดส ส่งผลให้ยอดส่งออกพุ่งทะลุ 3,000 คัน ตั้งแต่กลางปี และคาดว่าจะจบสิ้นปีเกิน 5,000 คัน
พลังของ “โรงงานอัจฉริยะระยอง”
เบื้องหลังความสำเร็จคือ GWM Smart Factory จังหวัดระยอง โรงงานที่ได้รับการออกแบบให้เป็น ศูนย์กลางการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน
-
กำลังการผลิตสูงสุด 80,000 คันต่อปี
-
มาตรฐานการผลิตระดับสากล รองรับทั้ง HEV, BEV และเครื่องยนต์ดีเซล
-
เป็นโรงงาน แห่งแรกในไทย ที่ผลิต EV เพื่อการส่งออกเชิงพาณิชย์ โดยเริ่มจาก ORA Good Cat ที่ถูกส่งไปบราซิลและออสเตรเลียกว่า 1,000 คัน
รถพลังงานไฟฟ้า : หัวหอกสำคัญของการส่งออก
กระแส EV บูมทั่วโลก และ GWM (Thailand) คือผู้เล่นรายแรก ๆ ที่ใช้ไทยเป็นฐานผลิตส่งออก EV ไปยังตลาดโลก
-
ORA Good Cat : ขายดีในลาตินอเมริกาและออสเตรเลีย
-
TANK 500 HEV : ขึ้นแท่นรถส่งออกยอดนิยมอันดับหนึ่ง
-
TANK 300 HEV/Diesel : เจาะกลุ่ม SUV off-road ที่กำลังเติบโต
-
HAVAL Jolion HEV : ทำตลาดในอินโดนีเซียและเวียดนามได้ดี
จากสถิติครึ่งปีแรก 2568 ยอดผลิต EV ของไทยโตขึ้นกว่า 393.12% สอดคล้องกับเป้าหมายรัฐบาลไทยที่ต้องการให้ 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดเป็น ZEV (Zero Emission Vehicle) ภายในปี 2573
ตลาดส่งออกหลัก : จุดยุทธศาสตร์ของ GWM
-
อาเซียน : อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย → ตลาดใกล้บ้านที่กำลังนิยม SUV และ EV
-
ลาตินอเมริกา : บราซิล จาเมกา แอนติกา → ตลาดใหม่ที่ EV กำลังบูม
-
ออสเตรเลีย : ตลาดพรีเมียมที่เปิดรับรถ SUV ขนาดใหญ่และ EV
-
แอฟริกา–คาริบเบียน : มอริเชียส เซนต์ลูเซีย บาร์เบโดส → แม้เป็นตลาดเล็ก แต่เป็นก้าวแรกสู่ Global Footprint
คำกล่าวจากผู้บริหาร
เวยน์ โจว กรรมการผู้จัดการ GWM (Thailand) ย้ำว่า การส่งออกที่ครอบคลุมหลากหลายทวีป แสดงให้เห็นว่าไทยไม่ใช่เพียง “ตลาดรถยนต์ภายในประเทศ” อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น “Global Export Hub” ที่แท้จริง
สรุปข่าว GWM (Thailand) ก้าวสู่ Global Export Hub
-
เพียง 3 ปี (2566–2568) GWM (Thailand) ก้าวขึ้นเป็น ศูนย์กลางการผลิตและส่งออกระดับโลก จากยอดไม่กี่ร้อยคันในปีแรก คาดทะลุ 5,000 คันในปี 2568
-
โรงงาน GWM Smart Factory ระยอง กำลังการผลิตสูงสุด 80,000 คัน/ปี เป็นหัวใจสำคัญของการผลิต ครอบคลุมทั้ง HEV, BEV และดีเซล
-
รถพลังงานใหม่ (NEV) โดยเฉพาะ ORA Good Cat, TANK 300, TANK 500 เป็นตัวหลักดันยอดส่งออก
-
ตลาดหลักคือ อาเซียน (อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย), ลาตินอเมริกา (บราซิล จาเมกา), ออสเตรเลีย และแอฟริกา–คาริบเบียน
-
ปี 2568 ถือเป็นปีเปลี่ยนผ่านสำคัญ เพราะไทยกลายเป็นประเทศแรกที่ส่งออก EV ผลิตในประเทศ ออกสู่หลายภูมิภาค
-
GWM (Thailand) แสดงศักยภาพว่าไทยสามารถเป็น ฐานการผลิตยานยนต์พลังงานใหม่ระดับโลก และสอดคล้องกับเป้าหมายรัฐบาลที่จะให้ 30% ของการผลิตทั้งหมดเป็น ZEV ภายในปี 2573