ลดราคา 300,000 บาทในไทย HAVAL H6 PHEV 201 กม./ชาร์จ NEDC เหลือราคา 1,399,000 บาท
HAVAL H6 ปลั๊กอินไฮบริด ราคาจำหน่าย 1,399,000 บาท (จากเดิม 1,699,000 บามลดราคา 300,000 บาท )
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ฉลองครบรอบ 3ปี!
มอบข้อเสนอพิเศษสำหรับ HAVAL H6
เลือกรับข้อเสนอพิเศษ มูลค่ารวมสูงสุด 300,000 บาท หรือ ดอกเบี้ย 0% พร้อมช่วยผ่อนมูลค่าสูงสุด 140,000 บาท*
พร้อมรับฟรีประกันภัยชั้น 1 มมูลค่ำสูงสุด 30,000 บาท สำหรับ HAVAL H6 PHEV
รายละเอียดและข้อจำกัดการรับผิดชอบ ภายใต้การจองสิทธิข้อเสนอสุดพิเศษ PREMIERE DEAL เพื่อซื้อ All New GWM HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ระยะเวลาจองสิทธิตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม 2567 ถึง วันที่ 7 เมษายน 2567
โดย บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (“เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย)” หรือ “บริษัทฯ”) ที่แอปพลิเคชัน GWM หรือที่เว็บไซต์ www.GWM.co.th
- เลือกได้ตามใจคุณ ส่วนลดเงินสดมูลค่าสูงสุด 300,000 บาท หรือ ดอกเบี้ย 0% พร้อมช่วยผ่อนมูลค่า 140,000 บาท
- เลือกข้อเสนอพิเศษทางการเงิน อย่างใดอย่างหนึ่งดังนี้
- ส่วนลดเงินสดมูลค่า 300,000 บาท* เมื่อชำระค่ารถด้วยเงินสด หรือ
- รับดอกเบี้ยพิเศษ 0%** ผ่อนนาน 72 เดือน เมื่อดาวน์ 25% มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 220,000 บาท
- พร้อมกับ GWM ช่วยผ่อนนาน 10 เดือน เดือนละ 14,000 บาท รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 140,000 บาท** โดยเป็นส่วนลดเงินผ่อนในอัตราที่ลูกค้า เลือก สำหรับการผ่อนชำระงวดที่ 1 จนถึง 10 จากนั้น งวดที่ 11 จะเป็นการผ่อนชำระตามสัญญาปกติ ทั้งนี้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคาร และสถาบัน การเงินที่ร่วมรายการกำหนด
- ฟรีประกันภัยรถยนต์ ชั้น1 โดย บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท คุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท ข้อกำหนดและเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
- ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์พร้อมติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 15 เมตร 1 ครั้ง จากตู้ควบคุมไฟฟ้าในบ้าน (ตู้เมน) (ไม่รวมแท่นชาร์จ หากต้องการติดตั้งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและผู้รับการติดตั้งต้องตรวจสอบและเตรียมมิเตอร์ไฟที่สามารถใช้กับโฮมชาร์จเจอร์ด้วยตนเอง) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท ศึกษาข้อมูลการติดตั้งเพิ่มเติมที่ http://www.gwm.co.th/Charge.html
- ฟรี ค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง สูงสุดไม่เกิน 10 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน (ไม่รวมอะไหล่สิ้นเปลือง) (GWM Pro Service Inclusive – GPSI) รวมมูลค่า 37,000 บาทโดยลูกค้าต้องนำรถเข้ารับการบำรุงรักษาทุก 6 เดือน หรือ 10,000 กม.(แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) ตลอดระยะเวลาที่กำหนดข้างต้นเพื่อรักษาสิทธิการบำรุงรักษาตามระยะทางและเป็นไปตามเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพรถใหม่**
- ฟรีน้ำมันรถยนต์ มูลค่ารวมสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ณ วันส่งมอบรถยนต์
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Roadside Assistance) ตลอด 24 ชั่วโมง ฟรี 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท***
- การรับประกันคุณภาพรถใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)***
- การรับประกันแบตเตอรี Plug-in Hybrid เป็นระยะเวลา 8 ปี หรือ ระยะทาง 180,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)***
- ฟรี กรอบป้ายทะเบียนและพรม GWM มูลค่ารวม 2,050 บาท
- ฟรี บริการ ระบบตรวจสอบและสั่งการรถผ่านอินเตอร์เน็ต*** (Telematic Service) พร้อมแพ็คเกจอินเทอร์เน็ตภายในรถ (Internet in Vehicle) ระยะเวลา 5 ปี มูลค่า 18,700 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://www.gwm.co.th/services.html
รวมมูลค่าข้อเสนอสุดพิเศษ PREMIERE DEAL เพื่อซื้อ All New GWM HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV
มูลค่าสูงสุด 510,000 บาท โปรโมชันนี้สามารถใช้ได้กับรถ All New GWM HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV รุ่นที่กำหนด เมื่อจองสิทธิตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 ถึง วันที่ 7 เมษายน 2567 และรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2567เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
Haval H6 PHEV เจนเนอเรชั่นที่สาม การออกแบบไม่ต่างจากรุ่น Supreme+ ตะแกรงกลางขนาดใหญ่มีรูปทรงเพรียวบาง ไฟหน้าแบบเดิม กระจังหน้าทรงใหม่เพิ่มมิติมากขึ้น กันชนหน้าใหม่ พร้อมเสริมคิ้วไฟตัดหมอก กรอบไฟตัดหมอกสีดำ ด้านท้ายเหมือน HAVAL H6 ทุกประการ ไฟท้ายแบบ LED เชื่อมทั้งสองฝั่ง พร้อมสัญลักษณ์ท้าย PHEV ที่มุมล่างขวาของประตูท้าย
ขนาดตัวถัง
- ยาว 4,683 มม.
- กว้าง 1,886 มม.
- สูง 1,730 มม.
- ฐานล้อ 2,738 มม.
การตกแต่งภายในของรุ่น Plug-in Hybrid รูปร่างโดยรวมของห้องโดยสารภายในห้องโดยสารยังคงสอดคล้องกับโฉมไฮบริด หรือ เบนซิน แต่มีการออกแบบคอนโซลกลางให้กระชับมากขึ้น หน้าจอสัมผัสแบบ capacitive ขนาด 10.25 นิ้ว หน้าปัดแบบ Full LCD ขนาด 12.3 นิ้ว และ จอแสดงผลบนกระจก HUD head-up display
ติดตั้งบนขุมพลังทั้งหมด 1.5 เทอร์โบ กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 75 x 84.9 มิลลิเมตร ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection Turbocharged ให้กำลัง 150 แรงม้า ที่ 5500 – 6000 รอบต่อนาที แรงบิต 230 นิวตัน-เมตร 1500 -4000 รอบต่อนาที + มอเตอร์ไฟฟ้า MULTI-MODE DHT 326 แรงม้า แรงบิต 530 นิวตัน-เมตร วิ่งไฟฟ้าล้วน 201 กม. (NEDC) พร้อมโหมดการขับขี่ 8 โหมด แบตเตอรี่ Lithium Ternary 34kWh
- รองรับการชาร์จ AC 6kW 0-100% ภายใน 6 ชม.
- รองรับการชาร์จ DC 48kW 0-80% ภายใน 35 นาที
ช่วงล่าง
- ด้านหน้า อิสระ MacPherson Strut
- ด้านหลัง อิสระ Multi-link
- ดิสก์เบรกหน้า – หลัง จานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน
รุ่นและสีรถยนต์
- สีรถภายนอก : มีทั้งหมด 5 สี (ขาว ดำ เทา น้ำเงิน แดง)
- สีรถภายใน : ทูโทน สีดำ-เทา
การออกแบบภายนอก (Exterior Design)
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV สร้างสรรค์มาให้สมบูรณ์แบบและแตกต่างจากการออกแบบแห่งอนาคต ผสานเทคโนโลยี Plug-in HYBRID ที่ล้ำสมัยกว่าในรถยนต์ระดับเดียวกัน และให้การขับขี่แบบ EV ไกลสูงสุดถึง 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ (NEDC Standard) สร้างมิติใหม่ของรถยนต์ Plug-in Hybrid
- ใหม่ ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix มิติใหม่แห่งการออกแบบ เพิ่มมิติให้ดูล้ำสมัย ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่สีโครเมียม ไล่ระดับช่องระบายอากาศอย่างมีมิติ เป็นเอกลักษณ์
- ใหม่ ระบบประตูท้ายเปิด–ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยให้การเปิดประตูด้านท้ายรถในขณะถือสัมภาระง่ายยิ่งขึ้น
- มิติตัวรถที่ขนาดกว้างขวาง ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถ ใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน มิติตัวรถ 1,886 x 4,683 x 1,730 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,738 มม. การออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว
- ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp ดีไซน์โดดเด่น ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow ชัดเจน ให้ความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home)
- ไฟท้าย LED Taillight Strip ดีไซน์เป็นแนวยาว ตอบโจทย์ทั้งแฟชั่นและฟังก์ชั่น มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ล้ำสมัยมองเห็นได้ชัดเจน เพื่อความปลอดภัย
- หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ 1.2 ตารางเมตร เปิดมุมมองใหม่ ให้เห็นโลกรอบตัวได้ถึง 360 องศา มาพร้อมกับสปอยเลอร์ท้าย และเสาอากาศแบบ shark fin ช่วยในเรื่องแอร์โรไดนามิค
- ล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/55 R19 มอบภาพลักษณ์อันโฉบเฉี่ยว และการขับขี่ที่ไว้ใจได้ในทุกเส้นทาง
การออกแบบภายใน (Interior Design)
ALL NEW HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ยังคงการออกแบบภายในสไตล์ Minimalist ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยคอนโซลหน้าสีทูโทน พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสี Rose Gold, Silver, Piano Black, Chrome ให้ความโมเดิร์นในสไตล์ Futuristic
- การเชื่อมต่อของหน้าจอทั้ง 3 ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและแม่นยำ
- หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ HD Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว เต็มอิ่มกับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, JOOX และ Navigator บอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า
- HD Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 10.25 นิ้ว
- Head Up Display หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า
- เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศ สัมผัสนุ่มสบายด้วยเบาะหนังสังเคราะห์คุณภาพเยี่ยม ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ
- เบาะนั่งโดยสารด้านหลัง พร้อมที่เท้าแขนกลาง อีกระดับของความสบายด้วยช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังและช่องเสียบ USB
- พื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ มากประโยชน์ใช้สอยด้วยห้องโดยสารและที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ เบาะนั่งโดยสารด้านหลังสามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 เพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บสัมภาระ
- ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM2.5
- Wireless Charger แค่วางก็ชาร์จ Smart Phone ได้ง่ายๆ สะดวกและรวดเร็ว
- Ambient Light สวยงาม และช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
- Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High gloss เท่ทุกจังหวะการขับขี่
- กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เปิดประตูพร้อมสตาร์ทเครื่องได้สะดวกและง่ายกว่า
สมรรถนะ
- All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Turbo ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า ให้แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด เมื่อทํางานร่วมกับเครื่องยนต์ สร้างการขับเคลื่อนอย่างมีพลังและประหยัดน้ำมัน
- All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV สามารถเลือกระบบการขับขี่ได้ 2 ระบบ คือ ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า
แต่ละระบบมาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น
แบตเตอรี่
- แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh มีระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ (อ้างอิงผลการทดสอบระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามมาตรฐาน New European Driving Cycle (NEDC Standard)
- หัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 combo (Combined Charging System) รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) และการชาร์จแบบไฟบ้าน (AC)
- ระยะเวลาในการชาร์จ
- การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0% – 80%) ประมาณ 35 นาที
- การชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC (0% – 100%) ประมาณ 6 ชั่วโมง
*ระยะเวลาการชาร์จขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และกำลังไฟของสถานีชาร์จนั้นๆ เป็นต้น
GWM LEMON PLATFORM
แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะที่สามารถปรับเปลี่ยนและรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ เป็นแพลตฟอร์มมีน้ำหนักเบา ช่วยให้การขับขี่ดีขึ้นทั้งในแง่ประสิทธิภาพการเร่ง การเบรก และการควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ที่ดีเยี่ยม มีการปรับปรุงให้มีความต้านทานแรงบิดและความแข็งแรงโดยใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง High-strength steel ในการทำตัวโครงสร้างมากกว่า 70% และเหล็กความแข็งแรงสูงที่ 2000 MPa
ฟังก์ชั่นอัจฉริยะ (Intelligent Functions)
- การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบดังกล่าวมาพร้อมกับความสามารถในการอัพเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ รวมถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่นๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย
- การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) มีความสามารถในการจดจำเสียงได้เป็นอย่างดี จึงสามารถช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้ขับขี่สามารถสั่งการและโต้ตอบด้วยเสียงเพื่อใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ รวมไปถึงการเข้าถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ภายในรถ
- GWM Application: ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชั่นของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ เช่น ระบบตรวจสอบสถานะปริมาณกำลังไฟแบตเตอรี่ไฟฟ้า ระบบตรวจสอบสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้า ระบบจัดการการชาร์จ การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อคและปลดล็อคประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง ปิดซันรูฟ การควบคุมระบบการระบายความร้อนของเบาะ การแสดงตำแหน่งรถยนต์ การกำหนดรัศมีการใช้งานรถ และระบบตรวจสอบสถานะอื่นๆ
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย
All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมั้ยให้คุณและครอบครัวเดินทางอย่างปลอดภัยไร้กังวล
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็ว ที่ช่วยควบคุมรถให้ติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่
- ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเส้นบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ และช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
- ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่ถูกบันทึกไว้
- กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถจากมุมบน ระบบทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ทรถ
- ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ช่วยตรวจจับรถยนต์ทั้งทางตรงและทางแยก เมื่อเสี่ยงต่อการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก
- ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและ ส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
- ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว ในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และกลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยแจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน
- ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ช่วยตรวจสอบรถในเลนที่ติดกัน
- ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่2 (SCM) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
- ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ใช้เบรกเพื่อช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะขับบนทางลาดชันเพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการบังคับพวงมาลัย
- ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) เมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงานเพื่อป้องกันการถอยหลัง
- ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) หลังจากจอดรถยนต์แล้ว ระบบจะแจ้งเตือนหากระบบตรวจพบเป้าหมายที่เสี่ยงต่อการชนหากเปิดประตูรถยนต์
- ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง
- ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ช่วยประเมินและวิเคราะห์ลักษณะในการขับขี่ หากพบว่ามีลักษณะการขับขี่ที่เหนื่อยล้า หรือหลังจากขับรถด้วยความเร็วเกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มากกว่า 4 ชั่วโมง ระบบจะแจ้งเตือนและแนะนำให้หยุดพัก