เตรียมเปิดตัว ในอินโดฯ Honda Step WGN e:HEV MPV 7 ที่นั่งใหม่ นำเข้าญี่ปุ่น คู่แข่ง TOYOTA VOXY

เตรียมเปิดตัว ในอินโดฯ Honda Step WGN e:HEV MPV 7 ที่นั่งใหม่ นำเข้าญี่ปุ่น คู่แข่ง TOYOTA VOXY
Spread the love

Advertisement

Advertisement

 

 

Honda Step WGN e:HEV ในอินโดนีเซีย (การเปิดตัวและการวางจำหน่าย)

Honda Step WGN e:HEV กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในอินโดนีเซียในงาน GAIKINDO Indonesia International Auto Show (GIIAS) 2025 ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 ตอนนี้สามารถจองรถได้แล้วผ่านเว็บไซต์ทางการของฮอนด้าและผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาต

  • รถคันนี้เคยจัดแสดงตัวอย่างที่งาน GIIAS 2024 และได้รับความสนใจอย่างมากจากสาธารณชน
  • จากข้อมูลที่มีอยู่ Honda Step WGN (รวมถึงรุ่น e:HEV) ผลิตในประเทศญี่ปุ่น โดยโรงงานของ Honda ที่จังหวัด Saitama (ในปัจจุบันคือ Yorii Plant) เป็นหลัก
  • ดังนั้น เมื่อ Honda Prospect Motor (HPM) ซึ่งเป็นผู้จำหน่าย Honda ในอินโดนีเซียนำ Honda Step WGN e:HEV เข้ามาจำหน่าย ก็จะเป็นการนำเข้าแบบ CBU (Completely Built Up) หรือนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปทั้งคันมาจากประเทศญี่ปุ่น

ราคาโดยประมาณ

แม้ว่าฮอนด้าอินโดนีเซียจะยังไม่ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวและการสำรวจผู้บริโภคบางแห่งระบุว่าราคาคาดว่าจะอยู่ ต่ำกว่า 700 ล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย หรือ 1.39 ล้านบาท ซึ่งทำให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Toyota Voxy (รุ่นไม่ไฮบริด) และ Nissan Serena e-Power ได้อย่างดี

การออกแบบภายนอก พร้อมไฟหน้าแบบ LED เรียวบาง ไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED รวมทั้งเกรดแต่งพิเศษ Step WGN Air และ Step WGN Spada ที่เน้นการตกแต่งโครเมียมสีเข้ม สีพิเศษ Twilight Mist Black Pearl และ Midnight Blue Beam Metallic ( สีพิเศษเฉพาะSTEP WGN SPADA) ประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า ประตูข้างเปิด-ปิดด้วยปลายนิ้วสัมผัส

ขนาดตัวถัง HONDA Step WGN

  • ยาว 4,800 – 4,830 มม.
  • กว้าง 1,750 มม.
  • สูง 1,840 – 1,855 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2,890 มม.

ขนาดตัวถัง Toyota Voxy Compact Minivan 

  • ความยาว 4.695 มม.
  • ความกว้าง 1,730 มม.
  • ความสูง 1.855 มม.
  • ระยะฐานล้อ 2.850 มม.

เครื่องยนต์ 2.0 e:HEV ไฮบริด

  • เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC i-VTEC (Dual Overhead Camshaft, Intelligent Variable Valve Timing and Lift Electronic Control)
  • ขนาดความจุ: 1,993 ซีซี (หรือปัดเป็น 2.0 ลิตร)
  • รอบการทำงาน: ใช้หลักการทำงานแบบ Atkinson-cycle ซึ่งเป็นวงจรการทำงานที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิง โดยเฉพาะที่รอบต่ำถึงปานกลาง
  • ระบบจ่ายน้ำมัน: Direct Injection (ฉีดเชื้อเพลิงโดยตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้) ซึ่งช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดมลพิษ และเพิ่มกำลัง
  • กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์: ประมาณ 145 PS (107 kW) ที่ 6,200 รอบต่อนาที
  • แรงบิดสูงสุดของเครื่องยนต์: ประมาณ 175 Nm ที่ 3,500 รอบต่อนาที
  • มอเตอร์ไฟฟ้า (สองตัว)
  • มอเตอร์ขับเคลื่อน (Traction Motor): เป็นมอเตอร์หลักที่ใช้ในการขับเคลื่อนล้อ
    • กำลังสูงสุดของมอเตอร์: ประมาณ 184 PS (135 kW) ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที
    • แรงบิดสูงสุดของมอเตอร์: ประมาณ 315 Nm ที่ 0-2,000 รอบต่อนาที (ซึ่งเป็นแรงบิดที่สูงมากและพร้อมใช้งานทันทีตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้รถมีอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม)
  • มอเตอร์ปั่นไฟ (Generator Motor): ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์ไปเก็บในแบตเตอรี่ หรือส่งตรงไปยังมอเตอร์ขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง E-CVT (Electric Continuously Variable Transmission): เป็นระบบส่งกำลังแบบไม่มีเกียร์ แต่ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ทำให้การเปลี่ยนผ่านกำลังเป็นไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง ไร้รอยต่อ
  • ชนิดแบตเตอรี่: Lithium-ion Battery ซึ่งมีน้ำหนักเบาและให้กำลังสูง
  • อัตราประหยัด ประมาณ 20.3 – 21.3 กิโลเมตร/ลิตร WLTC

การออกแบบภายนอก

  • กระจังหน้า โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบสองชั้น (dual-bar) ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น อาจมีโครเมียมเพิ่มเข้ามาเพื่อความหรูหรา
  • กันชนหน้า มีการออกแบบที่ซับซ้อนและดุดันกว่ารุ่น Air อาจมีช่องรับลมหรือชิ้นส่วนตกแต่งที่แตกต่างกัน
  • ไฟหน้า LED ดีไซน์ที่อาจมีรายละเอียดหรือการจัดวางไฟที่ดูพรีเมียมกว่า
  • ชายบันไดข้าง (Side Skirts) มีการออกแบบที่แตกต่างจากรุ่น Air อาจให้ความรู้สึกสปอร์ตมากขึ้น
  • คิ้วโครเมียม อาจมีการตกแต่งด้วยโครเมียมบริเวณส่วนล่างของตัวรถ เพื่อเพิ่มความหรูหรา
  • ไฟท้าย LED แนวตั้งเช่นกัน แต่ Spada อาจมีรายละเอียดหรือการรมดำที่แตกต่างกัน
  • สปอยเลอร์หลัง มักจะมาพร้อมสปอยเลอร์หลังที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์สปอร์ต
  • ล้ออัลลอย รุ่น Spada มักมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว ดูสปอร์ตและหรูหรา

การออกแบบภายในห้องโดยสาร

  • ด้วยรูปทรงแบบ Boxy ทำให้มีพื้นที่เหนือศีรษะ (Headroom) และพื้นที่วางขา (Legroom) ที่กว้างขวางเป็นพิเศษในทุกแถว
  • โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบ 7 ที่นั่ง รูปแบบการจัดเรียงเบาะแบบ 2-2-3 (เบาะหน้า 2, เบาะกลาง Captain Seat 2, เบาะหลัง 3)
  • เสา A-pillar ที่บางลง ช่วยให้คนขับมีมุมมองกว้างขวาง ลดจุดบอด
  • หน้าจอ Infotainment ขนาดใหญ่: 11.4 นิ้ว Floating Type: หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ตั้งเด่นอยู่กลางคอนโซล ใช้งานง่าย
  • รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
  • ปุ่มควบคุมแบบ Physical: ยังคงมีปุ่มกดและลูกบิดสำหรับการควบคุมที่สำคัญ เช่น ระบบปรับอากาศ เพื่อความสะดวกและปลอดภัยขณะขับขี่
  • มาตรวัดดิจิทัล: หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 10.2 นิ้ว (ในบางรุ่นย่อย) แสดงข้อมูลครบถ้วนและชัดเจน
  • แสงไฟ Ambient Light
  • ช่องเก็บของเยอะ: มีช่องเก็บของกระจุกกระจิกและที่วางแก้วน้ำจำนวนมากทั่วทั้งห้องโดยสาร
  • ถาดวางของอเนกประสงค์: มีถาดวางของพับเก็บได้บริเวณหลังเบาะคู่หน้า
  • ระบบปรับอากาศ: มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพื่อกระจายความเย็นได้อย่างทั่วถึง
  • วัสดุเบาะนั่ง: มีให้เลือกทั้งแบบผ้าและหนัง ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย
  • จุดเด่นสำคัญคือเบาะนั่งแบบ Captain Seat สองที่นั่งแยกกันในแถวที่สอง ให้ความรู้สึกหรูหราและเป็นส่วนตัวสูง
  • เบาะนั่งเหล่านี้สามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง ซ้าย-ขวา ได้อย่างอิสระ (Multi-directional sliding) ทำให้สามารถปรับระยะห่างระหว่างผู้โดยสาร หรือสร้างทางเดินตรงกลางเพื่อเข้าถึงแถวสามได้ง่าย
  • ที่รองขาแบบพับเก็บได้สำหรับเบาะ Captain Seat เพื่อเพิ่มความสบายสูงสุดในการเดินทาง

แน่นอนครับ สำหรับ Honda Step WGN e:HEV 2024 นั้น มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยทั้งแบบเชิงรับ (Passive Safety) และเชิงรุก (Active Safety) ที่ครบครัน เพื่อความมั่นใจในทุกการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะรถยนต์สำหรับครอบครัว

สิ่งที่เป็นไฮไลต์สำคัญคือชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ซึ่งเป็นมาตรฐานในรถยนต์ฮอนด้ารุ่นใหม่ๆ ครับ


ระบบความปลอดภัยของ Honda Step WGN e:HEV 2024

1. ระบบความปลอดภัยเชิงรุก (Active Safety) – Honda SENSING

Honda SENSING เป็นชุดเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่ใช้เรดาร์และกล้องในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ เพื่อช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ ประกอบด้วย:

  • Collision Mitigation Braking System (CMBS): ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก
    • ระบบจะเตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียงและภาพเมื่อมีความเสี่ยงที่จะชนกับรถคันหน้าหรือคนเดินเท้า
    • หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุหรือช่วยหลีกเลี่ยงการชน
  • Adaptive Cruise Control (ACC) with Low-Speed Follow (LSF): ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าในความเร็วต่ำ
    • รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าโดยอัตโนมัติตามความเร็วที่ตั้งไว้
    • สามารถทำงานได้ตั้งแต่ความเร็วสูงลงมาจนถึงหยุดนิ่ง และเคลื่อนที่ตามรถคันหน้าเมื่อรถคันหน้าออกตัว
  • Lane Keeping Assist System (LKAS): ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ
    • ช่วยรักษาตำแหน่งของรถให้อยู่กึ่งกลางเลน โดยการส่งแรงบิดเบาๆ ไปที่พวงมาลัย
  • Road Departure Mitigation (RDM) with Lane Departure Warning (LDW): ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ
    • ระบบจะเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกจากเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ (โดยไม่เปิดไฟเลี้ยว)
    • หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง ระบบจะช่วยดึงพวงมาลัยและ/หรือเบรกเบาๆ เพื่อให้รถกลับเข้าสู่เลน
  • Auto High-Beam: ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ
    • ปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติตามสภาพแสงและรถที่สวนมา เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนโดยไม่รบกวนรถคันอื่น
  • Lead Car Departure Notification System (LCDN): ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่
    • แจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถคันหน้าเริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้า (เช่น เมื่อจอดติดไฟแดง)

นอกจาก Honda SENSING แล้ว อาจมีระบบความปลอดภัยเชิงรุกอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น

  • Vehicle Stability Assist (VSA): ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ
  • Anti-lock Braking System (ABS): ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก
  • Electronic Brake Distribution (EBD): ระบบกระจายแรงเบรก
  • Brake Assist (BA): ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน
  • Hill Start Assist (HSA): ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
  • Multi-view Camera System / Parking Sensors: กล้องมองรอบคันและเซ็นเซอร์กะระยะหน้า-หลัง ช่วยในการจอดรถ
  • Blind Spot Information (BSI): ระบบเตือนจุดอับสายตา (อาจมีในบางรุ่นย่อยหรือเป็นอุปกรณ์เสริม)
  • Rear Cross Traffic Monitor (CTM): ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง (อาจมีในบางรุ่นย่อยหรือเป็นอุปกรณ์เสริม)
  • Tire Pressure Monitoring System (TPMS): ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยางผิดปกติ (อาจมีในบางรุ่นย่อย)

ระบบความปลอดภัยเชิงรับ (Passive Safety)

ระบบเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ:

  • โครงสร้างตัวถัง ACE™ (Advanced Compatibility Engineering™): โครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อกระจายและดูดซับแรงกระแทกจากการชน ช่วยลดความเสียหายที่ส่งผลต่อห้องโดยสาร
  • ถุงลมนิรภัยหลายตำแหน่ง:
    • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
    • ถุงลมนิรภัยด้านข้าง
    • ม่านถุงลมนิรภัย (ครอบคลุมทั้ง 3 แถว)
    • (จำนวนถุงลมนิรภัยอาจแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย แต่โดยทั่วไป MPV สำหรับครอบครัวจะมีจำนวนถุงลมนิรภัยที่เพียงพอต่อการปกป้องผู้โดยสาร)
  • เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ทุกที่นั่ง: พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติและผ่อนแรง (Pretensioner and Load Limiter)
  • จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX/LATCH: สำหรับติดตั้งเบาะนั่งเด็กอย่างปลอดภัย
  • ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย: ป้องกันการโจรกรรมรถยนต์

 

 

 

 

 

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้