KGM Musso Q300 รุ่นใหม่ ปี 2026 โผล่ไร้พรางครั้งแรก ก่อนบุกตลาดออสเตรเลียกลางปี 2026

KGM Musso Q300 รุ่นใหม่ ปี 2026 ถูกจับภาพได้โดยไม่มีการพรางตัวเป็นครั้งแรก เผยให้เห็นรายละเอียดตัวรถหลายรุ่นย่อย ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและการทำตลาดจริงในออสเตรเลียช่วงกลางปี 2026 ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของ KGM ในการยกระดับ Musso ให้พร้อมชนคู่แข่งระดับหัวแถวอย่าง Toyota HiLux และ Ford Ranger อย่างเต็มตัว

พบอย่างน้อย 3 รุ่นย่อย พร้อมตัวถังฐานล้อสั้น และฐานล้อยาว

ภาพที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียโดยบัญชี shorts_car แสดงให้เห็น Musso เจเนอเรชันใหม่ รหัส Q300 อย่างชัดเจน ขณะที่ YouTube ช่อง BPD ระบุเพิ่มเติมว่า รถรุ่นนี้จะมีอย่างน้อย 3 ระดับอุปกรณ์ และมีให้เลือกทั้งรุ่นฐานล้อสั้นมาตรฐาน และรุ่นฐานล้อยาว เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกัน

แม้ KGM จะยังไม่ประกาศรายละเอียดด้านสเปก เครื่องยนต์ หรือราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่ได้ยืนยันแล้วว่า Musso Q300 จะเข้าสู่โชว์รูมออสเตรเลียในช่วงกลางปี 2026

เป้าหมายชัด ท้าชน HiLux และ Ranger โดยตรง

การมาถึงของ Musso Q300 ถูกมองว่าเป็นความพยายามที่จริงจังที่สุดของ KGM ในการเจาะตลาดรถกระบะขนาดกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่แข่งขันสูงที่สุดในออสเตรเลีย และเป็นสมรภูมิหลักของ Toyota HiLux และ Ford Ranger สำหรับ Musso รุ่นปัจจุบัน (Q200) ที่วางจำหน่ายอยู่ ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ 2.2 ลิตร ให้กำลัง 133 กิโลวัตต์ แรงบิด 400 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ในทุกรุ่นย่อย อย่างไรก็ตาม Musso Q300 เจเนอเรชันใหม่ คาดว่าจะขยายทางเลือกมากขึ้น โดยมีทั้ง เครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

ดีไซน์ภายนอก ถอดแบบ Musso EV และ Torres

รูปลักษณ์ภายนอกของ Musso Q300 ได้รับอิทธิพลอย่างชัดเจนจาก Musso EV ที่เปิดตัวในออสเตรเลียช่วงปลายปี 2025 รวมถึง Torres SUV รุ่นใหม่ของ KGM โดยเส้นสายตัวถังดูทันสมัย แข็งแกร่ง และแตกต่างจาก Musso รุ่นเดิมอย่างชัดเจน

ภาพของรุ่นพื้นฐานที่ถูกจับได้มาในสีขาว แสดงให้เห็นการเน้นความสมบุกสมบันแบบรถใช้งานจริง มาพร้อมล้อเหล็ก กันชนหน้า–หลังสีดำไม่พ่นสี กรอบกระจก และฝาครอบกระจกมองข้างสีดำทั้งหมด ด้านข้างตัวรถยังพบสันนูนบนฝากระโปรง และแผ่นพลาสติกตกแต่งบริเวณซุ้มล้อหน้าในสไตล์เดียวกับ Ford Ranger ขณะที่มือจับประตูและแนวหลังคาลาดเอียงมีความใกล้เคียงกับ Musso EV

รุ่นสูงจัดเต็ม ล้อ 20 นิ้ว ไฟหน้า LED เต็มความกว้าง

ในขณะเดียวกัน รุ่นอุปกรณ์สูงถูกเผยในสีเขียวเมทัลลิก มาพร้อมล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 20 นิ้ว รัดด้วยยางถนนแก้มเตี้ย ให้ภาพลักษณ์หรูหรามากกว่าสายลุย จุดเด่นอยู่ที่ชุดไฟหน้า LED ที่พาดยาวเต็มความกว้างของตัวรถ กระจังหน้าดีไซน์ซับซ้อนแบบชิ้นเดียว และไฟตัดหมอกแนวตั้งที่ผสานเข้ากับกันชนหน้าอย่างลงตัว รุ่นสูงยังมาพร้อมราวหลังคาแบบบูรณาการ ซึ่งไม่พบในรุ่นพื้นฐานสีขาว

โครงสร้างใหม่ เน้นลุยจริง ใช้แชสซีเฟรมขั้นบันได

แม้ Musso EV และ Torres จะใช้โครงสร้างตัวถังแบบโมโนค็อก แต่ Musso Q300 รุ่นใหม่ คาดว่าจะเปลี่ยนมาใช้ โครงสร้างแชสซีแบบเฟรมขั้นบันได (Ladder-frame) เช่นเดียวกับคู่แข่งหลัก

การเปลี่ยนโครงสร้างครั้งนี้ จะช่วยยกระดับสมรรถนะด้านออฟโรด ความสามารถในการลากจูง และการบรรทุก ให้เหมาะกับการใช้งานหนักมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า Musso Q300 จะยังคงใช้ช่วงล่างหลังแบบคอยล์สปริงเหมือนรุ่นเดิม หรือจะเปลี่ยนไปใช้แหนบหลังตามคู่แข่งส่วนใหญ่

ขนาดกระบะและการบรรทุก ยังใกล้เคียงรุ่นเดิม

ข้อมูลที่ BPD อ้างว่าเป็นเอกสารภายในบริษัท ระบุว่ารุ่นฐานล้อปกติของ Musso Q300 จะมีขนาดกระบะกว้าง 1,570 มม. สูง 570 มม. และยาว 1,300 มม. ซึ่งเท่ากับ Musso Q200 รุ่นปัจจุบัน

ส่วนรุ่นฐานล้อยาว จะเพิ่มความยาวกระบะเป็นประมาณ 1,600 มม. รองรับน้ำหนักบรรทุกในช่วง 500–700 กิโลกรัม พร้อมจุดยึดสัมภาระที่มากขึ้น แผ่นปูกระบะ และไฟ LED ส่องสว่างในกระบะท้าย

ภายในเน้นดิจิทัล ตามแนวทาง Musso EV

แม้ภาพห้องโดยสารจะยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่มีการยืนยันการติดตั้งเบรกมือไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล หน้าจอมาตรวัดดิจิทัล และจอกลางแบบจอสัมผัส

แนวทางการออกแบบภายในของ Musso EV ถือเป็นต้นแบบสำคัญ โดยในรุ่นสูงคาดว่าจะมีเบาะหนังหรือหนังกลับ หน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน

ปี 2026 ตลาดกระบะเดือด Musso Q300 ต้องพิสูจน์ตัวเอง

Musso Q300 จะเข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาที่การแข่งขันรุนแรงอย่างมาก โดยจะต้องเผชิญกับ HiLux เจเนอเรชันใหม่, Nissan Navara รุ่นใหม่ที่พัฒนาร่วมกับ Mitsubishi Triton, Ranger Super Duty รุ่นย่อยใหม่ รวมถึง Kia Tasman ที่เตรียมขยายไลน์อัป

ความสำเร็จของ Musso Q300 จึงขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญอย่าง สเปกจริง ราคา ความทนทาน และภาพลักษณ์แบรนด์ ซึ่งจะเป็นตัวตัดสินว่ารถกระบะจาก KGM จะสามารถยืนหยัดในตลาดที่โหดที่สุดแห่งหนึ่งของโลกได้หรือไม่