Mercedes-Benz เตรียมเลิกใช้ชื่อ “EQ” หันมาใช้ “Electric” แทน ชี้ชัดถึงการปรับกลยุทธ์ EV ระดับโลก

Mercedes-Benz เตรียมเลิกใช้ชื่อ “EQ” หันมาใช้ “Electric” แทน ชี้ชัดถึงการปรับกลยุทธ์ EV ระดับโลก
Spread the love
Advertisement Advertisement

Mercedes-Benz เตรียมเลิกใช้ชื่อ “EQ” หันมาใช้ “Electric” แทน ชี้ชัดถึงการปรับกลยุทธ์ EV ระดับโลก

ในช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา Mercedes-Benz ใช้ชื่อ EQ เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่ยุคไฟฟ้า เปิดตัวรุ่นสำคัญอย่าง EQC, EQE, EQS รวมถึง EQE SUV และ EQS SUV จนทำให้ผู้บริโภครู้จัก EQ ว่าเป็นตระกูลรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์หรูเยอรมัน ทว่า ล่าสุด Mercedes-Benz ยืนยันว่ากำลังจะ เลิกใช้ชื่อ EQ และหันมาใช้คำว่า “Electric” แทน

จาก “Concept EQG” ถึง “G 580 with EQ Technology”

ในปัจจุบัน Mercedes-Benz ยังคงพยายามคงชื่อ EQ เอาไว้ในบางรุ่น โดยย้ายตำแหน่งจากคำนำหน้าไปไว้ท้ายชื่อ เช่น

  • Concept EQG กลายเป็น Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology

  • แทนที่จะเป็น EQC SUV กลับใช้ชื่อว่า GLC 400 4Matic with EQ Technology

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ชื่อลักษณะนี้ยาวและสับสน ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่พูดว่า “ผมซื้อ G 580 with EQ Technology” แต่จะพูดว่า “ผมซื้อ G-Class ไฟฟ้า” มากกว่า

คำยืนยันจากผู้บริหาร Mercedes

Markus Schäfer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค (CTO) ของ Mercedes-Benz ให้สัมภาษณ์กับ Newsweek ว่า

“เรากำลังเปลี่ยนไปใช้ชื่อ Electric ในยุคแรก การใช้ EQ จำเป็นเพื่อสร้างความแตกต่าง แต่ปัจจุบันลูกค้าเข้าใจแล้วว่ารถไฟฟ้าก็เป็นเพียงอีกหนึ่งระบบขับเคลื่อน และรถทุกวันนี้มีภาพลักษณ์ที่ใกล้เคียงกันมากขึ้น การเน้นความต่างจึงไม่จำเป็นอีกต่อไป”

แม้เว็บไซต์ Mercedes จะยังคงโปรโมตรุ่น GLC ปี 2027 with EQ Technology อยู่ แต่ Schäfer ย้ำว่าในอนาคต คำว่า Electric จะเข้ามาแทนแน่นอน โดยขึ้นอยู่กับฝ่ายการตลาดว่าจะเลือกช่วงเวลาไหน

Advertisement Advertisement

ทำไม EQ ถึงไม่เวิร์กอีกต่อไป

  • ชื่อไม่ติดหูและยืดยาวเกินไป

    • การใส่ “with EQ Technology” ทำให้ชื่อรุ่นไม่เป็นธรรมชาติ

    • ขัดกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มักพูดเรียกสั้น ๆ ว่า “CLA Electric” หรือ “G-Class Electric”

  • คล้ายกับคู่แข่งมากเกินไป

    • Audi ใช้ E-Tron

    • BMW ใช้ i

    • Volkswagen ใช้ ID

    • Hyundai ใช้ Ioniq

    • Kia ใช้ EV

    • Cadillac ใช้ IQ
      ผลคือ EQ ไม่ได้สร้างความโดดเด่น แต่กลับถูกมองว่าคล้าย ๆ กันหมด

  • สร้างกำแพงระหว่าง ICE และ EV

    • EQE ถูกวางตำแหน่งใกล้เคียง E-Class แต่กลับใช้ชื่อที่แยกออกมาโดยสิ้นเชิง

    • ทำให้ภาพลักษณ์ “นี่คือ Mercedes” ดูไม่ต่อเนื่อง

กลยุทธ์ใหม่: เน้นความยืดหยุ่นมากกว่าบังคับ EV

Mercedes-Benz ไม่ได้มุ่งหน้าสู่การเลิกเครื่องยนต์สันดาปแบบเด็ดขาด แต่เลือกแนวทาง Flexibility หรือ “ความยืดหยุ่น” แทน

  • รถรุ่นใหม่จะมีทั้ง เครื่องยนต์เบนซิน, ไฮบริด และไฟฟ้า

  • โรงงานผลิตสามารถปรับตามความต้องการของตลาดได้

  • ลูกค้าไม่ถูกบังคับ แต่มีสิทธิ์เลือกว่าจะใช้พลังงานรูปแบบใด

การใช้ชื่อ Electric จึงช่วยสื่อสารชัดเจนว่ามันเป็นเพียง “อีกหนึ่งทางเลือก” ไม่ใช่แบรนด์ย่อยที่แยกออกไป

จุดขายคือ “ความเป็น Mercedes”

ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะการรุกของผู้ผลิตจีนอย่าง BYD, NIO, XPeng หรือ Li Auto Mercedes-Benz ต้องย้ำจุดแข็งของตนเองให้ชัดเจน ซึ่งก็คือ ประวัติศาสตร์ มรดก และเอกลักษณ์ของแบรนด์

ลูกค้าซื้อ G-Class เพราะมันคือ G-Class ไม่ใช่เพราะชื่อ EQ เพราะฉะนั้นชื่อที่ตรงไปตรงมาอย่าง “G-Class Electric” หรือ “CLA Electric” จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาได้เป็นเจ้าของ Mercedes-Benz แท้ ๆ เพียงแต่เป็นระบบไฟฟ้า

carbuzz

Advertisement Advertisement

คุณไม่สามารถคัดลอกเนื้อหาของหน้านี้ได้