พวงมาลัยขวา เปิดราคา 1.89 ล้านบาทในออสเตรเลีย Polestar 4 EV 610 กม./ชาร์จ WLTP

เครดิตภาพ Cholatit Chonboonyadej และ EV Gadget Review Car

Polestar 4 เตรียมวางจำหน่ายพวงมาลัยขวาในออสเตรเลีย โดยคาดว่าจะเริ่มส่งมอบได้ในเดือนสิงหาคม 2024 อย่างไรก็ตาม รถยนต์รุ่นเริ่มต้น Polestar 4 นั้นทัดเทียมกับรุ่น Y รุ่นสเปคกลางมากกว่า ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง 610 กม./ชาร์จ WLTP

ราคาท้องถิ่นเริ่มต้นที่ 81,500 เหรียญออสเตรเลีย หรือ 1.89 ล้านบาท สำหรับรุ่น Long Range Single Motor รุ่นนี้มีมอเตอร์ไฟฟ้าที่ด้านหลังด้วยกำลัง 272 แรงม้า Long Range Dual Motor ราคาเริ่มต้นที่ 93,050 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 2.16 ล้านบาท ในเกรดมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 

“การตีความรถ SUV แบบคูเป้ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Polestar 4 นำเสนอพื้นที่ภายในที่ยอดเยี่ยมและมีรูปลักษณ์ที่น่าทึ่ง” Thomas Ingenlath ซีอีโอของ Polestar กล่าว

ก่อนหน้านี้มีการทดสอบวิ่ง Polestar 4 ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยการใช้ป้ายทะเบียน TC แม้ว่ายังไม่มีการยืนยันจำหน่าย แต่เรามีลุ้นการขายรุ่นนี้เร็วๆนี้เช่นกัน

ทะเบียน TC เป็นป้ายทะเบียนรถที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบก ประเทศไทย เพื่อใช้สำหรับรถต้นแบบของค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องนำออกมาขับบนถนนจริงเพื่อทดสอบสมรรถนะ ประสิทธิภาพ ระบบการทำงาน ก่อนผลิตจริง จึงเป็นสาเหตุให้ต้องมีป้ายทะเบียนเฉพาะเพื่อแยกรถทดสอบเหล่านี้ออกจากรถของประชาชนทั่วไป

วันที่ 18 เมษายน 2023 Polestar Auto ประกาศเปิดตัว Polestar 4 SUV ไฟฟ้าใหม่ ในประเทศจีนครั้งแรกของโลก ที่งานมหกรรมรถยนต์ Shanghai Auto Show 2023 วันที่ 18 เมษายน 2023 ประเทศจีน เบื้องต้นมีการเปิดราคาจำหน่ายในประเทศจีน เริ่มต้นที่ 349,800 – 533,800 หยวน หรือประมาณ 1.75 – 2.67 ล้านบาท

• Polestar 4 อยู่ในตำแหน่ง SUV Coupe ไฟฟ้า ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม PMA บนพื้นฐานแพลตฟอร์ม Sustainable Experience Architecture (SEA) โดยบริษัทแม่ Geely
• แพลตฟอร์ม Sustainable Experience Architecture (SEA) โดยบริษัทแม่ Geely ซึ่งอ้างว่าเป็นแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าแบบโอเพนซอร์สแห่งแรกของโลก Polestar 4 จะถูกสร้างขึ้นที่โรงงานในอ่าวหางโจวของ Geely ในประเทศจีน 

Polestar 4 เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าขนาดคอมแพ็กต์ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นคู่แข่งของ Tesla Model Y และ Audi Q4 e-tron การออกแบบภายนอกนั้นเรียบง่ายและทันสมัย ​​ด้วยเส้นสายที่สะอาดและพื้นผิวที่เรียบ การออกแบบด้านหน้าโดดเด่นด้วยไฟหน้า LED แบบ “Thor’s Hammer” อันเป็นเอกลักษณ์ของ Polestar และกระจังหน้าแบบปิด

ด้านข้างของ Polestar 4 เรียบง่ายและสง่างาม มีเส้นเอวที่โค้งมนและซุ้มล้อที่เด่นชัด ด้านหลังโดดเด่นด้วยไฟท้าย LED แบบเต็มความกว้างและสปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วพร้อมเบรก Brembo

ขนาดตัวถัง Polestar 4

• ยาว 4839 มม.
• กว้าง 2139 มม.
• สูง 1544 มม.
• ระยะฐานล้อ 2999 มม.

มอเตอร์ไฟฟ้าของ Polestar 4 EV

• มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง Single permanent magnet synchronous motor
  • ให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร
  • ระบบขับเคลื่อนสองล้อหลัง
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.1 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด 200 กม./ชม.
  • แบตเตอรี่ขนาด 100kWh
  • สามารถวิ่งได้มากกว่า 610 กม./ชาร์จ WLTP 
  • รองรับการชาร์จ DC 200 kW 10-80% ภายใน 30 นาที
  • ชาร์จ AC 22kW 0-100% ภายใน 5.30 ชั่วโมง

• มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Dual permanent magnet synchronous motors
  • ให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า
  • แรงบิดสูงสุด 686 นิวตัน-เมตร
  • ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 
  • อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที
  • แบตเตอรี่ขนาด 100kWh
  • สามารถวิ่งได้มากกว่า 580 กม./ชาร์จ WLTP 

Polestar 4 เปิดตัวด้วยฟังก์ชันเพิ่มประสิทธิภาพระบบขับเคลื่อนใหม่ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกระหว่างโหมดการขับขี่ปกติ และ สมรรถนะสูง

การขับขี่

• ระบบกันสะเทือนแบบ Hydropneumatic
• มีให้เลือกทั้งล้ออัลลอย 20 นิ้วถึง 22 นิ้ว หุ้มด้วยยาง Pirelli หรือ Michelin
• Polestar 4 มาพร้อม ถุงลมนิรภัย 9 ตำแหน่ง กล้อง 12 ตัว เรดาร์ 1 ตัว เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 ตัว รับข้อมูลผ่านหน้าจอ 10.2 นิ้ว ยังมีหน้าจอแสดงข้อมูลบนกระจกหน้าขนาด 14.7 นิ้ว
• รุ่นมอเตอร์คู่ หรือเรือธง จะมาพร้อมนแพ็คเกจ Performance ซึ่งรวมถึงการปรับแต่งแชสซีของ Polestar Engineered ชุดนี้ยังมาพร้อมกับล้อขนาด 22 นิ้ว เบรก Brembo สี่ลูกสูบ ตกแต่งสีทองบริเวณเข็มขัดนิรภัย และฝาครอบวาล์ว

ภายในห้องโดยสารออกแบบเรียบง่าย เน้นใช้วัสดุเป็นมิตรต่อส่งแวดล้อม หน้าจออินโฟเทนเมนท์แนวนอนขนาด 15.4 นิ้ว รองรับ Android Automotive OS มีคุณสมบัติในตัวของ Android เช่น Google Maps, Google Assistant และ Google Play Store รวม Apple CarPlay

• ระบบเสียง Harmon Kardon 12 ลำโพง
• สามารถอัปเกรดเป็น Nappa Pack จะได้รับลำโพงเพิ่มเติมสองตัวที่พนักพิงศีรษะด้านหน้าแต่ละข้าง รวมเป็น 16 ตัว
• อัปเกรด Plus Pro Pack จะเพิ่มรหัสสีตัวถัง หลังคากระจกอิเล็กโทรโครมิก และระบบไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารเพิ่มเติม เพิ่มเบาะนวดและเบาะหนัง Nappa พร้อมช่องระบายอากาศ

Polestar 4 จะเริ่มการผลิตในเดือนพฤศจิกายนนี้ที่ประเทศจีน โดยจะเปิดตัวก่อน บริษัทจะเปิดเผยรายละเอียดเฉพาะเพิ่มเติมสำหรับตลาดอเมริกาเหนือในปี 2024 โดยรถจะมาถึงภายในปีเดียวกัน Polestar ระบุว่าครอสโอเวอร์จะมีราคาเปิดตัวที่ 60,000 ดอลลาร์ ในเกรดมาตรฐาน

Carsguide.com.au

 

polestar.com