ชาร์จ 5 นาทีวิ่งได้ 255 กม. NIO ET9 ซีดานไฟฟ้า 697 แรงม้า เปิดขายจีน 3.97 ล้านบาท

วันที่ 23 ธันวาคม 2023 NIO จัดงานประชุม Nio Day 2023 นอกจากนี้ยังมีการแนะนำ ซีดานไฟฟ้ารุ่นเรือธง NIO ET9 ซึ่งเป็นรถซีดานระดับเรือธงของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ET9 อยู่ในตำแหน่งที่สามารถแข่งขันกับรถยนต์รุ่น Tesla Model S, Mercedes-Benz EQS , BMW i7รวมถึงรุ่น ICE เช่น S-Class และ 7-Series

NIO ET9 นำสถาปัตยกรรม 900V มาใช้งาน ทำงานที่แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ 925V ให้มีการชาร์จอย่างรวดเร็ว
NIO ET9 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูแบบซีดานสี่ประตูที่ผลิตโดย NIO ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีน เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 และกำหนดเริ่มส่งมอบในปี 2025
ET9 ออกแบบโดย Wolfgang Egger อดีตหัวหน้าฝ่ายออกแบบของ Audi การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์หรูระดับไฮเอนด์ เช่น Mercedes-Benz S-Class และ BMW 7 Series

สิ่งที่น่าสนใจใน NIO ET9

NIO ET9 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
มอเตอร์ด้านหน้าแบบอะซิงโครนัสที่ให้กำลัง 241 แรงม้า มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรด้านหลังที่ให้กำลัง ให้กำลัง 456 แรงม้า รวมกำลังสูงสุด 697 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 5,000 นิวตัน-เมตร
พัฒนาบนแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นที่สามของ Nio ซึ่งมีสถาปัตยกรรม 900V ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในจีนที่ทำงานที่แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ 925V
ชาร์จได้รวดเร็วด้วยกำลังสูงสุด 600kW กระแสสูงสุด 765A จากข้อมูลของ NIO
แบตเตอรี่ขนาด 120kWh แบบพิเศษด้วยเซลล์ 46105 เซลล์ความหนาแน่นของพลังงาน 292 Wh/kg และการชาร์จ 5C
ขยายระยะได้ 255 กม. ภายใน 5 นาที
รองรับการสลับแบตเตอรี่ภายใน 3 นาที
ติดตั้งเซ็นเซอร์ LIDAR สามตัว
ห้องโดยสารทำงานโดยระบบปฏิบัติการ SkyOS
หน้าจอแบบแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้วที่วางอยู่ระหว่างที่นั่ง
ตู้เย็นอัจฉริยะแบบเปิดและปิดด้วยไฟฟ้า
หน้าจอ AMOLED ขนาด 14.5 นิ้ว 2 จอที่ติดตั้งที่ด้านหลังของเบาะคู่หน้า
ระบบแสดงผลบนกระจกหน้าและหน้าจอ AMOLED แบบแท็บเล็ตขนาด 15.6 นิ้วบนคอนโซลกลาง
พวงมาลัยแบบยืดหดได้
กระจกมองหลังแบบดิจิตอล
ชิปเฉพาะของ ADAS ขนาด 5 นาโนเมตรที่ Nio พัฒนาขึ้นเองที่เรียกว่า NX9031 ซึ่งทำงานร่วมกับ Qualcomm 8295 และสร้างแพลตฟอร์มซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ Nio เรียกว่า ADAM 2.0
ระบบ Super Sensing รุ่นที่สอง Aquila 2.0
Sky Ride ซึ่งเป็นระบบแชสซีอัจฉริยะของ Nio ซึ่งประกอบด้วยแชสซีแบบขับเคลื่อนด้วยสายไฟ

การออกแบบของ NIO ET9 ใช้แนวหลังคาแบบฟาสต์แบ็คสไตล์คูเป้ โดยยังคงรักษา องค์ประกอบการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ NIO ซึ่งรวมถึงส่วนหน้าที่เฉียบคมพร้อมไฟหน้าเพรียวบาง และส่วนท้ายที่ดูเหมือนของ Jaguar F-Type และ Porsche Taycan มือจับประตูแบบซ่อน สปอยเลอร์หลังแบบแอ็กทีฟแบบยืดหดได้ และล้อแบบหลายก้านขนาด 23 นิ้ว

ขนาดตัวถัง NIO ET9

ยาว 5,324 มม.
กว้าง 2,016 มม.
สูง 1,620 มม.
ระยะฐานล้อ 3,250 มม.

แม้ว่า Nio ยังไม่ได้เปิดเผยการออกแบบแผงหน้าปัดแบบเต็มๆ แต่ก็มีการเผยรายละเอียดอันหรูหราของภายในห้องโดยสาร เห็นได้ชัดว่าลำดับความสำคัญของบริษัทโน้มตัวไปที่การดูแลเอาใจใส่ผู้ที่อยู่เบาะหลัง เบาะหลังสไตล์เฟิร์สคลาสของ ET9 มีมุมปรับพนักพิงสูงสุด 45 องศา ความกว้างของเบาะนั่ง 582 มม. การปรับเพียงคลิกเดียว 11 ครั้ง นอกจากนี้ เพื่อสัมผัสแห่งความหรูหรา รถยังมีม่านบังแดดไฟฟ้า 7 ชิ้นที่สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว

หน้าจอแบบแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้วที่วางอยู่ระหว่างที่นั่ง ตู้เย็นอัจฉริยะแบบเปิดและปิดด้วยไฟฟ้า และหน้าจอ AMOLED ขนาด 14.5 นิ้ว 2 จอที่ติดตั้งที่ด้านหลังของเบาะคู่หน้า แทนที่จะใช้แผงหน้าปัดแบบดั้งเดิม ET9 ใช้ระบบแสดงผลบนกระจกหน้าและหน้าจอ AMOLED แบบแท็บเล็ตขนาด 15.6 นิ้วบนคอนโซลกลาง พวงมาลัยแบบยืดหดได้ซึ่งสามารถเก็บไว้ในแผงหน้าปัดได้เมื่อใช้งานฟังก์ชันนำร่องอัจฉริยะ

รถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับชิปเฉพาะของ ADAS ขนาด 5 นาโนเมตรที่ Nio พัฒนาขึ้นเองที่เรียกว่า NX9031 ซึ่งทำงานร่วมกับ Qualcomm 8295 และสร้างแพลตฟอร์มซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ Nio เรียกว่า ADAM 2.0 นอกจากนี้ยังมีระบบ Super Sensing รุ่นที่สอง Aquila 2.0 และห้องโดยสารทำงานโดยระบบปฏิบัติการ SkyOS

ความปลอดภัยและเทคโนโลยี ET9 ติดตั้งเซ็นเซอร์ LIDAR สามตัว ซึ่งรวมถึงเซ็นเซอร์หนึ่งตัวที่อยู่ตรงกลางและกล้องความละเอียดสูงสองตัวที่ขอบด้านหน้าของหลังคา นอกจากนี้ยังมีกระจกมองหลังแบบดิจิตอล

NIO ET9 พัฒนาบนแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นที่สามของ Nio ซึ่งมีสถาปัตยกรรม 900V ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในจีนที่ทำงานที่แรงดันไฟฟ้าสูงสุดที่ 925V ช่วยให้ชาร์จได้รวดเร็วด้วยกำลังสูงสุด 600kW และกระแสสูงสุด 765A จากข้อมูลของ NIO มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 120kWh แบบพิเศษด้วยเซลล์ 46105 เซลล์ความหนาแน่นของพลังงาน 292 Wh/kg และการชาร์จ 5C ซึ่งขยายระยะได้ 255 กม. ภายใน 5 นาที รองรับการสลับแบตเตอรี่ภายใน 3 นาที

NIO ET9 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มอเตอร์ด้านหน้าแบบอะซิงโครนัสที่ให้กำลัง 241 แรงม้า มอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรด้านหลังที่ให้กำลัง ให้กำลัง 456 แรงม้า รวมกำลังสูงสุด 697 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 5,000 นิวตัน-เมตร

ET9 ติดตั้ง Sky Ride ซึ่งเป็นระบบแชสซีอัจฉริยะของ Nio ซึ่งประกอบด้วยแชสซีแบบขับเคลื่อนด้วยสายไฟ ระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังด้วยมุมสูงสุด 8.3 องศา นอกจากนี้ยังมีระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟเต็มรูปแบบ โดยโช้คอัพแต่ละตัวจะถูกควบคุมอย่างอิสระโดยปั๊มไฮดรอลิกเฉพาะ และ Nio ระบุว่ามีความล้ำหน้ามากกว่าระบบที่ใช้โดย Porsche Panamera เจ เนอเรชันที่สามใหม่

แม้ว่า Nio จะไม่เปิดเผยแผนการวางจำหน่าย ET9 ในตลาดอื่น ๆ แต่ขณะนี้เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในประเทศจีน โดยมีกำหนดการส่งมอบในไตรมาสแรกของปี 2025 ราคาเริ่มต้นที่ 800,000 หยวน หรือประมาณ 3.97 ล้านบาท ในประเทศจีน ลูกค้าที่สั่งจอง ET9 ล่วงหน้าจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย รวมถึงส่วนลดตั้งแต่ 5,000 ถึง 10,000 หยวน และบริการคนขับรถฟรีสูงสุด 100 ชั่วโมง ท่ามกลางสิทธิประโยชน์อื่นๆ