TOYOTA 1.5 Liter Dynamic Force Engine หัวใจไฮบริด B-SUV TNGA

TNGA 1.5 ลิตร Dynamic Force Engine หัวใจไฮบริดที่ขับเคลื่อนอนาคตของโตโยต้า
ในโลกยานยนต์ที่มุ่งสู่ความยั่งยืน เครื่องยนต์ TNGA 1.5 ลิตร Dynamic Force Engine (รหัส M15A-FXE) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์โตโยต้าในการนำเสนอรถยนต์ไฮบริดขนาดเล็กที่มีทั้งประสิทธิภาพและความประณีต เครื่องยนต์นี้ไม่เพียงแต่เป็นขุมพลังที่ล้ำสมัย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นของโตโยต้าในการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์การขับขี่ในยุคปัจจุบัน
กำเนิดขุมพลังแห่งอนาคต
เครื่องยนต์ M15A-FXE เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับการเผยโฉม All-new Toyota Yaris (XP210 series) ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2019 และเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2020 การมาถึงของเครื่องยนต์นี้ได้ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของโตโยต้าที่ต้องการผสานรวมเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับแพลตฟอร์ม TNGA (Toyota New Global Architecture) เพื่อยกระดับสมรรถนะพื้นฐานและคุณลักษณะการขับขี่ของรถยนต์ให้ดียิ่งขึ้น
รถยนต์รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ M15A-FXE ในปัจจุบัน
เครื่องยนต์ M15A-FXE ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบไฮบริด THS II (Toyota Hybrid System II) ได้รับความไว้วางใจให้เป็นขุมพลังของรถยนต์หลากหลายรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กและครอสโอเวอร์คอมแพกต์ที่เน้นความประหยัดน้ำมันและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ณ เดือนมิถุนายน 2025 รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดนี้ ได้แก่:
- Toyota Yaris Hybrid (รุ่น XP210): ทั้งในตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และออสเตรเลีย รวมถึง Mazda2 Hybrid ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันในยุโรป
- Toyota Yaris Cross Hybrid: เป็นที่นิยมทั้งในตลาดญี่ปุ่น ยุโรป และตลาดอื่น ๆ รวมถึงประเทศไทย
- Toyota Aqua (รุ่น XP210): แฮทช์แบ็กขนาดเล็กยอดนิยมในตลาดญี่ปุ่น
- Toyota Sienta Hybrid (รุ่น XP210): มินิแวนขนาดกะทัดรัดสำหรับตลาดญี่ปุ่น
- Lexus LBX: ครอสโอเวอร์หรูขนาดเล็กรุ่นใหม่จาก Lexus
- Toyota Urban Cruiser Hyryder Hybrid / Suzuki Grand Vitara Hybrid: รถ SUV ขนาดกะทัดรัดที่พัฒนาร่วมกับ Suzuki สำหรับตลาดอินเดียโดยเฉพาะ
สเปคและนวัตกรรมเบื้องหลัง Dynamic Force
เครื่องยนต์ M15A-FXE เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ความจุ 1,490 ซีซี (1.5 ลิตร) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับระบบไฮบริดได้อย่างลงตัว จุดเด่นสำคัญที่ทำให้เครื่องยนต์นี้มีประสิทธิภาพสูงคือเทคโนโลยี Dynamic Force Engine ซึ่งรวมถึง:
- อัตราส่วนกำลังอัดสูงถึง 14.0:1 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้
- การออกแบบระยะชักยาว ปรับปรุงการเผาไหม้ให้สมบูรณ์
- รูปร่างพอร์ตไอดีที่เหมาะสม สร้างกระแสหมุนวนในห้องเผาไหม้เพื่อการกระจายส่วนผสมอากาศ-เชื้อเพลิงที่สม่ำเสมอ
- ระบบฉีดเชื้อเพลิงแบบรวม (D-4S) ใช้ทั้งการฉีดตรงและแบบพอร์ต ปรับการส่งเชื้อเพลิงให้เหมาะสมตามภาระของเครื่องยนต์ เพื่อสมรรถนะที่ดี ประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยมลพิษ
- ระบบ Dual VVT-i และ VVT-iE ควบคุมการเปิดและปิดวาล์วอย่างแม่นยำ เพื่อการเผาไหม้ที่เหมาะสมที่สุดในรอบเครื่องยนต์ที่แตกต่างกัน
- วัฏจักรการเผาไหม้ Atkinson เพิ่มประสิทธิภาพเชิงความร้อน ทำให้ประหยัดน้ำมันได้ดีเยี่ยม โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยชดเชยกำลังในรอบต่ำ
เครื่องยนต์นี้ให้กำลังสูงสุดประมาณ 67 kW (90 แรงม้า) ที่ 5,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดประมาณ 120 N⋅m (89 lb⋅ft) ที่ 3,800–4,800 รอบต่อนาที เมื่อทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในระบบไฮบริด THS II ทำให้มีกำลังรวมสูงสุดของระบบอยู่ระหว่าง 85 kW (114 แรงม้า) ถึง 96 kW (130 แรงม้า) ซึ่งเพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและยังคงความประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม
ประหยัดน้ำมันอย่างน่าทึ่ง
หนึ่งในจุดแข็งที่โดดเด่นของเครื่องยนต์ M15A-FXE คืออัตราประหยัดน้ำมันที่น่าประทับใจ โดยอ้างอิงจากมาตรฐาน WLTC
- Toyota Yaris Hybrid (ญี่ปุ่น): สามารถทำได้ถึง 35.4 – 36.0 กม./ลิตร สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 2WD และ 30.2 – 30.8 กม./ลิตร สำหรับรุ่นขับเคลื่อน E-Four (4WD)
- Lexus LBX: มีอัตราเฉลี่ยประมาณ 26.3 – 27.7 กม./ลิตร
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของโตโยต้าในการสร้างสรรค์ระบบส่งกำลังที่ทั้งทรงพลังและประหยัดเชื้อเพลิง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ