ยืนยันขายไทยปีนี้ ผลิตอินโดฯ TOYOTA bZ4X รุ่นใหม่ MY2026 วิ่งได้ไกลกว่า 700 กม./ชาร์จ WLTC

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวในอินโดฯ ยืนยันว่ารถใหม่ผลิตอินโดฯ และ ขนมาจำหน่ายในไทยอย่างแน่นอน

รถไฟฟ้าหากนำเข้าจากอินโดฯ มาขายไทย

รถ CBU จากอินโดฯ หากมี ราคาร้าน (SRP) ไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อคัน จะได้รับสิทธิลดภาษีตามโครงการ EV 3.5 ยกเว้นภาษีนำเข้าหากสิทธิ FTA 0%

รถ BEV CBU ที่เข้าข่าย EV 3.5 จะได้รับการลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 2% (จากเดิม 8–10%)

หากรถได้รับสิทธิ EV 3.5 → ภาษีมหาดไทยจะคิดเป็น 10% ของสรรพสามิต เท่านั้น

VAT 7% คำนวณจากราคาขาย (รวมต้นทุน + ภาษีนำเข้า + สรรพสามิต + ภาษีมหาดไทย)

จากข้อมูลที่มีในปัจจุบัน (ณ วันที่ 23 กรกฎาคม 2568) โตโยต้ายังไม่ได้ลงนาม MOU เข้าร่วมมาตรการ EV 3.5 กับกรมสรรพสามิตอย่างเป็นทางการ เหมือนกับค่ายรถยนต์อื่นๆ เช่น NETA, Isuzu, Changan, SAIC Motor CP, Great Wall Motor, Rêver Automotive (BYD), AION Automobile Sales, Rêver Commercial Vehicles และ EV Primus.

อย่างไรก็ตาม, มีรายงานว่า ผู้บริหารโตโยต้าได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการ EV 3.5 รวมถึงมาตรฐานยูโร 5-6 และมาตรการทางภาษีสรรพสามิต เพื่อปรับตัวให้สอดรับกับเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโตโยต้ามีความสนใจและกำลังพิจารณาในมาตรการนี้

จากข้อมูลที่สืบค้นได้ โตโยต้าเคยลงนาม MOU โครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าในไทยไปแล้ว แต่เป็นการลงนามภายใต้มาตรการ EV 3.0 ซึ่งเป็นมาตรการก่อนหน้า EV 3.5

การลงนาม MOU ในมาตรการ EV 3.0 ทำให้ Toyota bZ4X ที่เปิดตัวในไทยได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น เงินอุดหนุนส่วนลดราคา และลดภาษีสรรพสามิต

สำหรับมาตรการ EV 3.5 (ซึ่งเริ่มใช้ปี 2567-2570) ข้อมูลปัจจุบันระบุว่าโตโยต้ายังไม่ได้ลงนาม MOU เข้าร่วมอย่างเป็นทางการ เหมือนกับค่ายรถยนต์อื่นๆ ที่ได้ลงนามไปแล้ว เช่น Changan, SAIC Motor CP (MG), Great Wall Motor เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม โตโยต้าแสดงความสนใจในมาตรการ EV 3.5 และมีการหารือกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อพิจารณาการเข้าร่วมในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับแผนการขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยของโตโยต้า

 

ก่อนหน้านี้มีการจับภาพทดสอบวิ่งของ TOYOTA bZ4X รุ่นใหม่ ในประเทศไทยภาพดังกล่าวถ่ายโดย Babyfresh Oum บริเวณโดยอ่างขาง พร้อมเปิดตัวในไทยช่วงปลายปี 2025 ไทยเปลี่ยนจากนำเข้าญี่ปุ่น เป็น อินโดฯ AFTA ภาษีนำเข้า 0%

• TOYOTA bZ4X ตัวเก่า ได้มีการเปิดตัวและจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดยมีราคาอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 1,836,000 บาท (สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ)
• อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลที่พบ โตโยต้า bZ4X ในประเทศไทย สินค้าหมดชั่วคราว หรือ Out of Stock ณ ปัจจุบัน (ข้อมูลอัปเดต ณ เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2568) โดยมีการเปิดรับจองในล็อตแรกไปแล้ว และโควต้าค่อนข้างจำกัด

TOYOTA bZ4X รุ่นใหม่ การอัปเกรดครั้งใหญ่ เพิ่มขีดความสามารถและความสะดวกสบาย

• ขยายตัวเลือกแบตเตอรี่: ลูกค้าสามารถเลือกแบตเตอรี่ขนาด 57.7 kWh หรือ 71.4 kWh (ความจุรวม)
• เพิ่มระบบปรับสภาพแบตเตอรี่: ปรับอุณหภูมิแบตเตอรี่เพื่อให้การชาร์จมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ที่ชาร์จ AC แบบใหม่: รองรับกำลังไฟ 22 kW สำหรับการชาร์จเร็วขึ้น
• ดีไซน์ภายนอกใหม่: ปรับให้ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น
• ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่: แผงคอนโซลกลางและหน้าปัดแบบใหม่ พร้อมหน้าจอมัลติมีเดีย 14 นิ้ว
• เปิดตัวหลังช่วงหลังปี 2025

การปรับปรุงครั้งใหญ่ของ Toyota bZ4X

หลังจากเปิดตัวในปี 2022 เพื่อเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ของโตโยต้า bZ4X กำลังได้รับการอัปเกรดครั้งสำคัญ ทั้งด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี และความสะดวกสบาย โดยตั้งเป้าให้เป็นรถยนต์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้นในกลุ่ม SUV ไฟฟ้า

bZ4X ถูกออกแบบให้เป็น SUV ที่แท้จริง พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางขรุขระ โดยอาศัยเทคโนโลยีระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่โตโยต้ามีความเชี่ยวชาญมายาวนาน นอกจากนี้ โตโยต้ายังให้ Battery Care Program ที่ครอบคลุมแบตเตอรี่ได้นานถึง 10 ปี หรือ 1 ล้านกิโลเมตร ขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ประจำปี

ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD)

• กำลังสูงสุดของระบบ: 163 แรงม้า PS
• ความจุแบตเตอรี่ (รวม): 57.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง
• ระยะทางขับขี่: ใกล้เคียงกับรุ่นปัจจุบัน
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ประมาณ 8 วินาที

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD)

• กำลังสูงสุดของระบบ: 224 แรงม้า PS
• ความจุแบตเตอรี่ (รวม): 74.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง
• ระยะทางขับขี่: มากกว่า 700 กม./ชาร์จ WLTC
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ประมาณ 7 วินาที

ความสามารถในการลากจูงของรุ่น AWD เพิ่มขึ้นเป็น 1,500 กก. และมีตัวเลือก ที่ชาร์จ AC ขนาด 22 kW (สำหรับรุ่น High Grade) ขณะที่การชาร์จ DC Fast Charge ยังคงสูงสุดที่ 150 kW

ขนาดตัวถัง

• ความยาวทั้งหมด: 4,690 มม.
• ความกว้างทั้งหมด: 1,860 มม.
• ความสูงทั้งหมด: 1,650 มม.
• ระยะฐานล้อ: 2,850 มม.

ดีไซน์ใหม่และความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้น

• ภายนอก: กระจังหน้าใหม่ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวขึ้น พร้อมปรับปรุงหลักอากาศพลศาสตร์
• ภายใน: คอนโซลกลางใหม่ รองรับการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลได้สะดวกขึ้น และมีแผงหน้าปัดดีไซน์ใหม่
• หน้าจอมัลติมีเดียขนาด 14 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
• ปรับปรุงช่วงล่างและตัวถัง: ลดเสียงรบกวนและแรงสั่นสะเทือน เพิ่มความสบายขณะขับขี่

อัปเดตซอฟต์แวร์อัจฉริยะ

• ฟังก์ชันปรับสภาพแบตเตอรี่ (Battery Pre-conditioning)

  • ควบคุมอุณหภูมิแบตเตอรี่ก่อนชาร์จ เพื่อให้ชาร์จได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • สามารถเปิดใช้งานได้ทั้งแบบ อัตโนมัติและแมนนวล

• ระบบนำทาง BEV อัจฉริยะ

  • คำนวณเส้นทางและเลือกสถานีชาร์จที่เหมาะสม ตามระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่
  • ฟังก์ชันนี้มีให้ใช้งานแล้วใน bZ4X รุ่นปัจจุบันผ่านการอัปเดต OTA (Over-the-Air)

กำหนดการเปิดตัว

Toyota bZ4X รุ่นใหม่จะเปิดตัวในตลาดญี่ปุ่นช่วงหลังช่วงฤดูร้อนปี 2025

การอัปเกรดนี้จะทำให้ bZ4X แข็งแกร่งขึ้นทั้งด้านสมรรถนะ เทคโนโลยี และความสะดวกสบาย ตอกย้ำความเป็นผู้นำของโตโยต้าในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV)