เปิดตัว Toyota Corolla 2026 ปรับใหม่ยุโรป มาพร้อมสีด้านใหม่ Onyx Grey ครั้งแรกของโตโยต้า

เปิดตัว Toyota Corolla 2026 ปรับใหม่ยุโรปครั้งสำคัญ มาพร้อมสีด้านใหม่ Onyx Grey ครั้งแรกของโตโยต้า

Toyota Corolla 2026 เปิดตัวอย่างเป็นทางการในยุโรป พร้อมยกระดับดีไซน์ ความยั่งยืน และเทคโนโลยีภายในห้องโดยสารแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยไฮไลท์สำคัญคือการเพิ่มสีตัวถังแบบด้าน Onyx Grey ซึ่งเป็นครั้งแรกของโตโยต้าที่นำเสนอสีลักษณะนี้ในรถที่ผลิตในยุโรป

นอกจากนี้ Corolla ใหม่ยังเพิ่มการใช้วัสดุรีไซเคิลในห้องโดยสาร, อัปเกรดระบบความปลอดภัย Toyota T-Mate, และมอบประสบการณ์มัลติมีเดียยุคใหม่ด้วยหน้าจอ 12.3 นิ้ว รวมถึง Smart Connect+ จอ 10.5 นิ้ว เชื่อมต่อข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์

ไฮไลท์เด่นของ Toyota Corolla 2026

• สีใหม่ Onyx Grey Matt (เฉพาะ GR SPORT)
• สีใหม่ Storm Grey Metallic
• วัสดุเบาะรีไซเคิล Samara ตลอดช่วงรุ่น Mid
• สองขุมพลังไฮบริด 1.8 และ 2.0 ลิตร
• หน้าจอ 12.3 นิ้ว + จอสัมผัส 10.5 นิ้ว Smart Connect+
• Toyota Safety Sense รุ่นล่าสุด พร้อม OTA Update

สีด้านใหม่ Onyx Grey – เอกลักษณ์เฉพาะ GR SPORT

หนึ่งในจุดเด่นที่สุดของ Corolla 2026 คือการเปิดตัวสีด้านพิเศษใหม่ Onyx Grey ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่โรงงาน Toyota Manufacturing UK นำเสนอสีแบบ Matt Finish บนรถยนต์ผลิตจำนวนมากตามมาตรฐานยุโรป

สีนี้ช่วยขับให้เส้นสายของรุ่น GR SPORT ดูโดดเด่นขึ้นอย่างมาก โดยจะเริ่มใช้ในสหราชอาณาจักรช่วงปลายปี 2025 และขยายสู่ยุโรปทั้งภูมิภาคในปี 2026

สีใหม่ Storm Grey Metallic  ความหรูทันสมัยมิติใหม่

นอกจากสีด้านแล้ว Toyota ยังเพิ่มสี Storm Grey ซึ่งเป็นสีเมทัลลิกโทนเข้ม ให้ภาพลักษณ์ล้ำยุค และช่วยเพิ่มมิติให้กับตัวรถเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความพรีเมียม

ห้องโดยสารวัสดุรีไซเคิล Samara Upholstery

Corolla 2026 เพิ่มการใช้ผ้า Samara Upholstery ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ใช้แพร่หลายขึ้นในรุ่น Mid grade ทั้ง Hatchback และ Touring Sports ช่วยยกระดับความยั่งยืนตามแนวทาง Toyota Beyond Zero

ในรุ่น Sedan Mid+ ก็มีการนำผ้าชนิดนี้มาใช้ครั้งแรกในดีไซน์เบาะเฉพาะรุ่น ช่วยลดการใช้หนังสัตว์ด้วยการเปลี่ยนเป็น Leather Alternative สำหรับพวงมาลัยและหัวเกียร์

ระบบขับเคลื่อนไฮบริด Gen ล่าสุด 1.8L / 2.0L

Corolla 2026 ยังเดินหน้าใช้เทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชันล่าสุดของโตโยต้า โดยมีสองทางเลือก:

• 1.8 ลิตร ไฮบริด – เน้นความประหยัดและความเงียบ
• 2.0 ลิตร ไฮบริด 178 DIN hp – ให้ความแรงตอบสนองเหมาะกับขับสนุก

ทั้งสองระบบถูกออกแบบให้ตอบสนองลื่นไหล เสียงรบกวนน้อย พร้อมการปล่อย CO₂ ต่ำลงตามมาตรฐานยุโรปใหม่

ห้องโดยสารดิจิทัลเต็มรูปแบบ

Corolla 2026 มาพร้อมระบบดิจิทัลแบบครบชุด รองรับผู้ขับในยุคเชื่อมต่อ:

• หน้าจอเรือนไมล์ดิจิทัล 12.3 นิ้ว ปรับรูปแบบได้หลายสไตล์
• ระบบ Toyota Smart Connect+ จอสัมผัส 10.5 นิ้ว
• ระบบนำทาง Cloud Navigation พร้อมอัปเดตข้อมูลจราจรเรียลไทม์

ระบบความปลอดภัย Toyota T-Mate และ Toyota Safety Sense

ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชันล่าสุดถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานทุกเกรด พร้อมความสามารถ OTA Update เพื่อปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง

ฟีเจอร์สำคัญ

• ระบบเตือนการชนพร้อมช่วยเบรก
• ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
• ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน
• ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน

ผลิตในยุโรป – UK และตุรกี

Corolla Hatchback และ Touring Sports ผลิตที่โรงงาน Toyota Manufacturing UK ในเมือง Burnaston ส่วน Corolla Sedan ผลิตโดย Toyota Motor Manufacturing Turkey เพื่อตอบโจทย์ตลาดยุโรปโดยเฉพาะ

กำหนดการวางจำหน่าย Toyota Corolla 2026

โตโยต้ายืนยันว่า การจำหน่าย Toyota Corolla 2026 จะเริ่มต้นในยุโรปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2026 โดยรายละเอียดอุปกรณ์และราคาอาจแตกต่างตามแต่ละประเทศ

สรุปภาพรวม

Toyota Corolla 2026 คือการพัฒนาในทิศทางที่ชัดเจนเข้าสู่ความพรีเมียมยิ่งขึ้น ทั้งด้านสีตัวถังใหม่ที่โดดเด่น วัสดุรีไซเคิลที่ยั่งยืน เทคโนโลยีภายในที่ทันสมัย และระบบความปลอดภัยระดับสูง เหมาะกับกลุ่มลูกค้ายุโรปที่ต้องการรถไฮบริดประสิทธิภาพดี พร้อมดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์